ตารางลดน้ำหนักสูตร if พร้อมตัวช่วยให้รู้สึกอิ่มกว่าเดิม
การลดน้ำหนักสูตร if หรือ Intermittent Fasting คือการเลือกเวลากินอาหารโดยมีการเว้นระยะเวลาหยุดกินคือ ช่วงอด(Fasting) และ ช่วงเวลากิน (Feeding) เพื่อให้ร่างกายได้นำพลังงานมาใช้ได้อย่างเต็มที่โดยมีผลวิจัยว่า
เมื่อเราอยู่ในช่วงอดอาหาร ระดับอินซูลินในร่างกายจะลดลง ระดับ Growth Hormone สูงขึ้น การอดระยะสั้นสลับกันไปนี้จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกายได้ 3.6-14% เลยทีเดียว แถมยังช่วยลดไขมันสะสมรอบเอวโดยเฉพาะไขมันไม่ดี โดยไม่ทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลง
หลายๆคนเข้าใจผิดคิดว่าการลดน้ำหนักสูตร if จะต้องอดอาหาร จริงๆแล้วคือการทานอาหารได้ตามปกติเพียงแต่แบ่งเวลาในการทานสลับกับช่วงงดทานเท่านั้น เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะหิวโหย เพราะยังสามารถทานอาหารได้ปริมาณเท่าเดิมเลย รู้แบบนี้แล้วไปเลือกตารางลดน้ำหนักสูตร if ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรากันเถอะค่ะ
แจกตารางลดน้ำหนักสูตร if พร้อม#4 ตัวช่วยให้รู้สึกอิ่มกว่าเดิม
ตารางลดน้ำหนักสูตร if แบบที่ 1. Leangains: 16/8 อดอาหาร 16 ชั่วโมง กินอาหาร 8 ชั่วโมง
วิธีนี้ก็คืออดหาร 16 ชั่วโมง และกิน 8 ชั่วโมง เป็นวิธีเริ่มต้นของการลดน้ำหนักแบบ if ดาราดังหลายๆคนก็นิยมสูตรนี้สามารถช่วยลดน้ำหนักและปรับสมดุลร่างกาย โดยวิธีนี้สามารถปรับเปลี่ยนเวลาการอดอาหารเพิ่มได้เมื่อรู้สึกชินแล้ว เป็น 18/6, 19/5, 20/4 แล้วแต่ความต้องการ
Tip:
ระหว่างช่วงอด (Fasting) สามาถดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำโซดาเพิ่มความสดชื่นได้
ได้ครับ soda ไม่มีแคล ยังดีกว่ากาแฟดำเพราะมีแคลเล็กน้อย รีวิวจาก pantip : คุณ น้องคุณลั๊ลลา คลิกเพื่ออ่านรีวิวลดน้ำหนักสูตรifฉบับเต็ม
ตารางลดน้ำหนักสูตร if แบบที่ 2. Eat Stop Eat: อดอาหาร 24 ชั่วโมง, 1-2 ครั้ง/สัปดาห์
สำหรับการกินแบบนี้จะต้องอดอาหาร 24 ชั่วโมง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนวันที่กินก็สามารถกินได้ตามปกติตามจำนวนแคลอรี่ที่ร่างกายต้องการ แต่วิธีนี้ไม่เหมาะกับมือใหม่ เพราะจะทำให้เกิดอาการโยโย่เอฟเฟ็คหรือทานมากขึ้นในวันต่อไปเกินความจำเป็นส่งผลให้น้ำหนักขึ้นและอาจจะทำให้รู้สึกเครียด ทำให้อารมณ์แปรปรวนได้ค่ะ
Tip:
ระหว่างช่วงอด (Fasting) สามารถดื่มชาหรือกาแฟดำแต่ไม่สามารถเติมนมหรือน้ำตาลใดๆได้ที่เป็นการเพิ่มแคลลอรี่จะไปรบกวนขบวนการทำ if อย่างสมบูรณ์
กำลังศึกษาการทำ if อยู่เลยค่ะ
เห็นบอกว่าส่วนมากจะดื่มกาแฟดำกัน เพราะแทบจะไม่มีแคลเลย รีวิวจาก pantip : คุณ สมาชิกหมายเลข 3396429 คลิกเพื่ออ่านรีวิวลดน้ำหนักสูตรifฉบับเต็ม
ตารางลดน้ำหนักสูตร if แบบที่ 3. The Warrior Diet: กินอาหารเพียง 1 มื้อ/วัน, 2 วัน/อาทิตย์
สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ผ่านการทำ if มาจนชินในระดับหนึ่งแล้ว เป็นการกินแบบอด (Fasting) 20 ชั่วโมง และกิน (Feeding) 4 ชั่วโมง หรือกินมื้อใหญ่มือเดียวนั่นเอง ควรเลือกทานอาหารที่ให้คุณค่าเพียงพอกับพลังงานที่ร่างกายต้องใช้เพื่อไม่ให้รู้สึกโหยหรือทานอาหารมากไปในมื้อถัดไป
Tip:
ระหว่างช่วงอด (Fasting) สามารถดื่มน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ผสมกับน้ำเปล่า (Apple Cider Vinegar) สามารถช่วยลดความยากอาหาร ทำให้ระบบย่อยอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เคยฟังงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น เค้าทดลองว่า น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล (Apple cider vinegar) มีส่วนช่วยในเรื่องการลดน้ำหนัก และลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานจริงหรือไม่ สรุปว่าช่วยได้จริงๆครับ
แต่ในด้านการช่วยเรื่องท้องผูก เรื่องสิว ผิวพรรณต่างๆโดยส่วนตัวผมยังไม่เคยเห็นงานวิจัยตีพิมพ์นะครับ (ยังไม่ได้หา คงจะเห็นหรอกนะ ฮ่าๆ) แต่เห็นหลายๆคนก็แนะนำว่าทานแล้วดี ช่วยได้จริง …ง่ายที่สุดคงต้องลองดูครับ รีวิวจาก pantip : คุณ
Khione คลิกเพื่ออ่านรีวิวลดน้ำหนักสูตรifฉบับเต็ม
ตารางลดน้ำหนักสูตร if แบบที่ 4. Alternate Day Fasting: อดอาหารแบบวันเว้นวัน
สูตรสุดท้ายเป็นสูตรที่ค่อนข้างสุดโต่งคือการอดอาหารแบบวันเว้นวัน ต้องอดอาหาร 1 วัน กินอาหาร 1 วัน แล้วกลับมาอดอีกหนึ่งวัน จะช่วยให้ร่างกายดึงไขมันเก่ามาใช้ได้อย่างเต็มที่ การลดน้ำหนักสูตร if แบบนี้จะทำให้น้ำหนักลงค่อนข้างเร็ว
Tip:
ระหว่างช่วงอด (Fasting) สามารถเพื่มไขมันดี (Healthy Fat) จำพวก น้ำมันมะพร้าวสะกัดเย็น หรือเนย ในกาแฟ แน่นอนน้ำมันมีแคลอรี่ จึงทำให้เราหลุดจากการ Fasting แต่ร่างกายยังอยู่ในภาวะคีโตซิสซึ่งช่วยดึงไขมันมาใช้ได้เหมือนกัน
เมื่อเรากินกรดไขมัน MCT ไป ร่างกายเราจะสามารถนำไปใช้เป็นพลังงานได้เลย (ไม่ได้เก็บไว้เป็นไขมัน) และถ้าเราลดน้ำหนักแบบพร่องแป้ง เช่น Keto Diet (กินไขมันเพื่อลดไขมัน) กรดไขมัน MCT ก็จะถูกเปลี่ยนไปเป็น คีโตน (Ketones) ที่จะช่วยให้เราอยู่ในภาวะคีโตซิส (Ketosis) ได้ง่ายและนานขึ้น รีวิวจาก fitterminal : คุณFitTerminal คลิกเพื่ออ่านรีวิวลดน้ำหนักสูตรifฉบับเต็ม
บทสรุปว่าด้วยเรื่องของตารางลดน้ำหนักสูตร if
การลดน้ำหนักสูตร if ไม่มีอันตรายต่อร่างกายแต่การปรับตัวในช่วงแรกของแต่ล่ะคนไม่เหมือนกัน ทางที่ดีเราควรเริ่มจากช่วงเวลาอด (Fasting) จากน้อยแล้วค่อยๆเพิ่มช่วงเวลาเพื่อให้ร่างกายปรับตัวและทำให้เราไม่รู้สึกเครียดจนเกินไป
การออกกำลังกายอย่างหักโหมในช่วงแรกๆของการลดน้ำหนักสูตร if บางคนอาจจะรู้สึกไม่ค่อยสดชื่นหนัก หากเราเพิ่งเริ่มต้นลดน้ำหนักสูตร if อาจจะปรับเปลี่ยนการออกกำลังกายจากคาร์ดิโออย่างหนักมาเป็นโยคะหรือพิลาทิส ช่วยให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตารางอาหารของเรา สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่าหักโหมจนเกินพอดี จะพาเครียดเอาได้นะคะ
Write a comment