คอลลาเจนคืออะไร? หลายคนคงเข้าใจว่าคอลลาเจน คืออาหารบำรุงผิว ทำให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล แลดูสุขภาพดี แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าจริงๆ แล้ว คอลลาเจนคืออะไร เกิดขึ้นจากอะไร และยังมีประโยชน์อะไรกับร่างกายของเราอีกบ้าง
คอลลาเจน (Collagen) คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนหลากหลายชนิด เช่นไกลซีน, โพรลีน และ ไฮดรอกซีโพลีน เป็นต้น ซึ่งคอลลาเจนจะเป็นตัวช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง เสริมสร้างความยืดหยุ่นให้แก่อวัยวะต่างๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะในกระดูก หลอดเลือด ข้อกระดูก กระดูกอ่อน เส้นเอ็น รวมถึงเสริมสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังของเรา ทำหน้าที่เปรียบเสมือนกาว ที่คอยยึดเกาะผิวหนัง คอลลาเจนสามารถพบได้ในกระดูก กระดูกอ่อน รวมถึงเนื้อเยื่อต่างๆ ในสัตว์และในร่างกายมนุษย์ ซึ่งคอลลาเจนเป็นหนึ่งในโปรตีนที่พบมากที่สุดในร่างกายและเป็นส่วนประกอบของผิวหนัง เส้นผม รวมถึงเล็บของเราอีกด้วย
ชนิดของคอลลาเจน
คอลลาเจนคือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่มีมากกว่า 16 ชนิด
แต่จะมีเพียงไม่กี่ชนิดที่นิยมนำมาใช้ในการบำรุงส่วนต่างๆของร่างกาย
จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
Collagen Type I
คอลลาเจนไทพ์ 1 หรือคอลลาเจนชนิดที่ 1 มักพบมากในสัตว์บางประเภทซึ่งคอลลาเจนชนิดนี้จะซ่อนตัวอยู่บริเวณหนังแท้ เอ็น ผังผืดหรือเนื้อกระดูกแข็ง
Collagen Type II
คอลลาเจนชนิดนี้มักพบมากในบริเวณข้อต่อหรือกระดูกอ่อนซึ่งจะมีหน้าที่ค่อยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและช่วยเพิ่มระดับของไฮยาลูโรนิค อีกทั้งยังช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์(ตัวการย่อยสลายน้ำหล่อเลี้ยงในข้อ) เมื่อมีคอลลาเจนชนิดนี้อยู่ในร่างกายแล้วล่ะก็การยืดหยุ่นของร่างกายจะดีขึ้นและอาการปวดข้อปวดเข่าก็จะลดลง
Collagen Type III
มาถึงคอลลาเจนไทป์ทรีคือคอลลาเจนชนิดที่หายากเพราะมักพบได้ในบริเวณที่มีการสร้างใหม่ของผิวหนังเท่านั้น ดังนั้นจะพบคอลลาเจนชนิดนี้ก่ต่อเมื่อผิวเป็นแผลหรือผิวทารกนั่นเอง
Collagen Type IV
คอลลาเจนชนิดนี้ส่วนมากมักพบในบริเวณเส้นใยฝอยของเยื่อบุผิว จะมีลักษณะเป็นแผ่นบางๆซ่อนอยู่นอกเซลล์
ในร่างกายของมนุษย์สามารถสร้างคอลลาเจนได้เองตามกลไกของธรรมชาติ และร่างกายจะสามารถผลิตคอลลาเจนได้ในปริมาณที่มากในขณะที่เรายังมีอายุน้อย แต่หลังจากอายุ 20 ปีขึ้นไปแล้ว ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้ในปริมาณที่น้อยลงตามลงมา
คอลลาเจนที่มีโครงสร้างคล้ายกับคอลลาเจนของมนุษย์มากที่สุด และร่างกายดูดซึมได้ดีที่สุด คือคอลลาเจนที่มาจากปลาทะเล และแม้แต่ในพืช ก็ยังสามารถพบคอลลาเจนได้ด้วยเช่นเดียวกัน คราวนี้ก็หมดคำถามที่ว่าคอลลาเจนคืออะไรกันแล้ว ต่อไปมาดูคุณประโยชน์ของคอลลาเจนที่มีต่อเรากันดีกว่า
ประโยชน์ของคอลลาเจน
-
คอลลาเจนบำรุงผิวอย่างไร
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าคอลลาเจนเปรียบเสมือนกาว ที่มีหน้าที่คอยเชื่อมและยึดเกาะเซลล์ผิวหนัง ทำให้ชั้นผิวหนัง เอ็นและกล้ามเนื้อมีความทนทาน แข็งแรง เหนียวแน่น คอยเติมเต็มผิวที่มีความหย่อยคล้อย ให้กลับมาเรียบตึง เปล่งปลั่ง ลดเลือนจุดด่างดำ ทำให้ผิวหนังของเรากระชับ เต่งตึง และมีชั้นผิวที่แข็งแรงนั่นเอง นอกจากนี้คอลลาเจนยังมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูผิวที่ได้รับผลกระทบจากความร้อน หรือรังสี UV อีกด้วย ซึ่งเซลล์ผิวหนังในร่างกายของคนเรามีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบถึง 80% กันเลยทีเดียว ทำให้เห็นว่า หากร่างกายของเราขาดคอลลาเจน ชั้นผิวหนังจะเกิดการเสื่อมโทรม ทำให้ผิวหนังเกิดร่องรอยเหี่ยวย่น และแก่ง่าย เพราะเซลล์ผิวหนังไม่มีความแข็งแรง ทำให้ผิวหนังไม่มีความเต่งตึง อ่อนเยาว์นั่นเอง
-
คอลลาเจนช่วยบำรุงเส้นผม
คอลลาเจนกับการบำรุงร่างกายและเส้นผม เรื่องลับๆที่คนทั่วไปไม่รู้
มีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาผมบาง ผมร่วง ช่วยฟื้นฟูสุขภาพของหนังศีรษะที่กำลังมีปัญหา ซึ่งปกติแล้วร่างกายของเราจะมีปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ซึ่งปฏิกิริยานี้จะทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระ หรือ Oxidant ซึ่งสารอนุมูลอิสระบางชนิดส่งผลให้รากผมเกิดความอ่อนแอ เป็นสาเหตุของอาการผมบาง ผมร่วงและปัญหาในเรื่องของผมตามมา คอลลาเจนจึงมีส่วนเข้าไปช่วยยับยั้งการเกิดสารอนุมูลอิสระทั้งหลายที่เป็นตัวการสำคัญของปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะ นอกจากนี้คอลลาเจนยังเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตโปรตีนไฟเบอร์ ซึ่งโปรตีนไฟเบอร์คือส่วนประกอบที่สำคัญในโครงสร้างของเส้นผม ซึ่งหากเส้นผมของเราขาดโปรตีนไฟเบอร์ จะทำให้เกล็ดผมปิดไม่สนิท เส้นผมแห้งกร้าน ชี้ฟู แตกปลาย อ่อนแอและขาดหลุดร่วงง่าย ดังนั้นการได้รับคอลลาเจนอย่างเพียงพอจึงสามารถช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมบางช่วยทำให้เส้นผมของเราแข็งแรง ดกดำ เงางาม และมีน้ำหนักแลดูสุขภาพดี เรียกได้ว่าเปลี่ยนผมเสียแบบไม้กวาดทางมะพร้าวให้นุ่ม เงาลื่นเหมือนไหมพรมกันเลยทีเดียว
-
คอลลาเจนช่วยป้องกันโรคข้อเสื่อม
จากการวิจัยพบว่ามีการใช้คอลลาเจนชนิดที่ 2 ในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการเสื่อมตัวของข้อกระดูก โดยพบว่าคอลลาเจนชนิดที่ 2 มีกลไกการทำงานที่สามารถช่วยให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคข้อเสื่อมมีอาการที่ดีขึ้นได้ โดยจะช่วยบรรเทาอาการปวดในโรคข้อเสื่อม เข่าเสื่อม และโรคที่เกี่ยวข้องกับข้อกระดูก เนื่องจากพบว่าคอลลาเจนชนิดที่ 2 นี้สามารถถูกดูดซึมผ่านลำไส้และไปสะสมในกระดูกอ่อนได้นั่นเอง
คนที่ควรบำรุงกระดูกด้วยคอลลาเจนเพื่อป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อม▶คนที่ออกกำลังกายหนักมาก
▶คนที่เสียงกระดูกลั่นอยู่เป็นประจำ
▶คนที่น้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์กำหนดและทำให้ข้อเข่าหรือข้อเท่ารับน้ำหนักไม่ไหว
▶คนที่อยู่กับที่เป็นเวลานานไม่ค่อยขยับยืดร่างกาย
▶คนที่ชอบดื่มน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน
▶คนที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป -
คอลลาเจนช่วยบรรเทาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ คือโรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ เกิดการอักเสบของเยื่อหุ้มกระดูกข้อต่อ ซึ่งคอลลาเจนชนิดที่ 2 มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหลักในกระดูกอ่อนข้อต่อและสารก่อภูมิต้านทานที่สำคัญ โดยได้มีการวิจัยเกี่ยวกับคอลลาเจนชนิดที่ 2 ว่าสามารถช่วยในการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้จริงหรือไม่ พบว่าเมื่อทดลองกับผู้ป่วยที่มีอาการของโรครุนแรง หลังจากรับประทานคอลลาเจนชนิดที่ 2 เป็นเวลา 3 เดือน ผลลัพธ์พบว่าผู้ป่วยเกิดอาการบวมและฟกช้ำในข้อต่อลดน้อยลง ในขณะที่กลุ่มรับประทานยาหลอกไม่เห็นผลลัพธ์ใดๆ
แบบนี้ก็คงหมดข้อสงสัยกันแล้วว่าคอลลาเจนคืออะไร และมันดีกับเรายังไง เพราะคุณประโยชน์นับไม่ถ้วนขนาดนี้ ต้องห้ามละเลยที่จะทานกันเลยทีเดียวและในทางกลับกันเมื่อร่างกายขาดคอลลาเจนขึ้นมาล่ะก็จะเกิดอะไรขึ้นกันนะ….
▶ขาดคอลลาเจนทำให้เมื่อเป็นแผลจะใช้เวลานานกว่าจะหาย
▶ขาดคอลลาเจนทำให้สุขภาพโดยรวมแย่
▶ขาดคอลลาเจนทำให้อ้วนง่ายเพราะการเผาผลาญไขมันทำได้ไม่ดีนัก
▶ขาดคอลลาเจนทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ไม่ดี
▶ขาดคอลลาเจนทำให้ขณะเดินจะมีเสียงในบริเวณข้อต่อและกระดูกเนื่องจากเกิดการเสื่อสภาพ
▶ขาดคอลลาเจนทำให้ปวดตามส่วนต่างๆของร่างกายโดยเฉพาะ เข่า หลัง เอว
▶ขาดคอลลาเจนทำให้เกิดริ้วรอย ผิวหนังหย่อนคล้อย แห้งกร้าน
Write a comment