ประโยชน์ของคอลลาเจนที่คุณควรรู้
เมื่อคำว่า “คอลลาเจน” กลายเป็นคำที่เรามักพบอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นในโฆษณาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากภายนอก รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ทานเพื่อความงามหรือเพื่อสุขภาพจากภายใน เรามาทำความรู้จักและเรียนรู้ประโยชน์ของคอลลาเจนที่แท้จริง ที่ไม่ได้เป็นเพียงคำโฆษณาหรือความเชื่อที่ถูกทำให้ผิดเพี้ยนออกไป แล้วคุณจะเข้าใจว่าเพราะเหตุใด คอลลาเจนจึงเป็นที่สนใจในแวดวงความสวยความงามและสุขภาพ
คอลลาเจนคืออะไร?
คอลลาเจน (Collagen) คือเส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนัง ขน เส้นผม เล็บ กระดูกอ่อน เอ็นกล้ามเนื้อ กระดูกข้อต่อ รวมถึงเนื้อเยื่อทั้งหมดในร่างกายของมนุษย์ จึงกล่าวได้ว่าเซลล์ผิวหนังในร่างกายคนเรามีคอลลาเจนกว่า 75% เป็นส่วนประกอบ โดยคอลลาเจนจะทำหน้าที่คล้ายกาวซึ่งคอยยึดเกาะกับเซลล์ผิวหนัง เอ็นและกล้ามเนื้อให้เกิดความแน่นสนิทเต่งตึง
คอลลาเจนเป็นสิ่งที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นเองได้และสามารถผลิตได้มากเมื่อเราอายุยังน้อย รวมถึงเราสามารถได้รับคอลลาเจนจากอาหารหลายประเภท แต่เมื่อเรามีอายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะคนที่มีอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป การสังเคราะห์คอลลาเจนในร่างกายจะลดลง หรือในผู้ที่มีปัจจัยทางพฤติกรรมบางอย่างที่อาจทำให้คอลลาเจนเสื่อมสภาพหรือถูกทำลายได้ง่ายขึ้น เช่นผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ ผู้ที่มีความเครียด ผู้ที่สูบบุหรี่ เป็นต้น กลุ่มคนเหล่านี้จึงได้รับคอลลาเจนที่ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น ไม่เรียบเนียน เกิดริ้วรอยได้ง่าย อีกทั้งบริเวณข้อต่อต่างๆ ทั่วร่างกายเริ่มไม่แข็งแรงตามไปด้วย ดังนั้นประโยชน์ของคอลลาเจนจึงมีผลโดยตรงต่อผิวพรรณและร่างกายของเรา
เมื่อเราได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเชื่อมโยงของคอลลาเจนกับร่างกายของเราในเบื้องต้นแล้ว บทความนี้จะช่วยอธิบายให้คุณได้ทราบถึงประโยชน์ของคอลลาเจนให้มากยิ่งขึ้น
4 ประโยชน์จากคอลลาเจน
1.ประโยชน์ของคอลลาเจนคือ”ช่วยบำรุงผิวพรรณ”
อย่างที่เราได้ทราบจากข้อความด้านบนแล้วว่า หนึ่งในประโยชน์ของคอลลาเจนนั้น คือการมีส่วนช่วยให้ผิวพรรณกระชับ ยืดหยุ่น และชุ่มชื้น แต่พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันก็มีส่วนที่ช่วยรักษาคอลลาเจนในร่างกาย อย่างการทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่มีกรดอะมิโน (Amino acid) อย่างโพรลีน (Proline) และไกลซีน (Glycine) ที่ช่วยสร้างคอลลาเจน ซึ่งอาหารที่มีกรดอะมิโนเหล่านี้อยู่มากก็อย่างเช่น เนื้อวัว, เนื้อปลา, ผลิตภัณฑ์จากนม, กะหล่ำปลี, ดอกกะหล่ำ, มันหวาน, ไข่, เห็ด, จมูกข้าวสาลี, ผักโขม, หน่อไม้ฝรั่ง, ถั่วเหลืองและถั่วอื่นๆ ทั้งนี้ควรเลือกรับประทานผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงๆ ควบคู่ไปด้วยเพื่อช่วยในการผลิตคอลลาเจน อย่างพุทรา, กีวี, สับปะรด, มะม่วง, มะขามป้อม, มะขามเทศ, สตรอว์เบอร์รี, มะละกอ, ส้มโอ, ฝรั่ง, พริกระฆัง, ผักเคล, บร็อกโคลีและผลไม้ประเภทส้มหรือมะนาว บวกกับการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเป็นประจำ และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนั้น เราควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำลายหรือทำให้การผลิตคอลลาเจนของร่างกายเสื่อมลง อย่างการสูบบุหรี่ ตากแดดนานๆ โดยไม่ทาครีมหรือโลชั่นป้องกันแสงแดด การทำน้ำหนักเพิ่มอย่างรวดเร็ว หรือกินอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูงๆ อย่างขนมปังขาว หรือข้าวขัดสีจนขาว ทั้งหมดนี้ก็สามารถเร่งเวลาให้ปริมาณคอลลาเจนลดลงเร็วขึ้น แถมยังทำให้ดูแก่ก่อนวัยอีกด้วย
2.ประโยชน์ของคอลลาเจนคือ”ช่วยบำรุงเส้นผม”
คอลลาเจนมีส่วนช่วยเพิ่มการสร้างโปรตีนที่เป็นฐานของเส้นผม ซึ่งจะช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม กระตุ้นให้ผมขึ้น และลดการเกิดผมขาวโดยการสนับสนุนโครงสร้างของต่อมขนบริเวณที่สร้างเม็ดสี นอกจากนั้นคอลลาเจนยังมีส่วนช่วยในการรักษาเส้นผมที่แตกหรือเปราะได้ด้วยการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมอีกด้วย
3.ประโยชน์ของคอลลาเจนคือ”ช่วยลดการเสื่อมสภาพของข้อต่อ”
เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายของเราจะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เส้นเอ็นและกระดูกอ่อนของเราจะขยับเขยื้อนยากขึ้น เกิดความฝืด จนส่งผลให้เกิดโรคที่มีความเกี่ยวข้องกับข้อต่อและกระดูก อย่างเช่นโรคข้อเข่าเสื่อม และการเกิดอาการปวดบริเวณข้อต่อต่างๆ เป็นต้น โดยสาเหตุหนึ่งที่สำคัญของโรคข้อเสื่อมก็มักจะเกิดจากส่วนประกอบสำคัญของกระดูกอ่อนอย่างคอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen Type II) ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่จะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของส่วนประกอบที่อยู่ในข้อ โดยการกระตุ้นให้มีการสังเคราะห์เซลล์ใหม่เพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มระดับของกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำหล่อเลี้ยงในข้อ และยังยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ย่อยสลายน้ำหล่อเลี้ยงข้อ คอลลาเจนชนิดที่ 2 นี้ มีคุณสมบัติช่วยลดอาการปวดข้อและข้อยึดได้ ทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายดีขึ้น เมื่อร่างกายเข้าสู่ภาวะเสื่อม อัตราการซ่อมสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 2 จะทำได้น้อยและช้าลง ในขณะที่อัตราการทำลายหรือเสื่อมสลายมีมากและเร็วขึ้น
~ไม่ควรรับประทานติดต่อกันนานเกิน 6 เดือน
~ควรดื่มน้ำให้มากที่สุดเท่าทีจะทำได้
4.ประโยชน์ของคอลลาเจนคือ”ช่วยลดอาการปวดต่างๆ”
ประโยชน์ของคอลลาเจนชนิดที่ 2 ไม่เพียงแต่ช่วยลดการเสื่อมของข้อต่อเพียงเท่านั้นแต่ยังช่วยบรรเทาอาการปวดต่างๆได้อีกด้วย เช่น
- อาการปวดที่เกิดจากการผ่าตัด
- อาการปวดหลังได้รับบาดเจ็บ
เมื่อเราได้ทราบถึงประโยชน์ของคอลลาเจนที่มีอย่างมากมายต่อร่างกายและสุขภาพของเรา แล้ว ดังนั้นเราจึงควรหันมาใส่ใจการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการกิน การพักผ่อน และการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งภายในและภายนอก ดังนั้นเรามาดูพฤติกรรมที่ควรหลักเลี่ยงเพราะพฤติกรรมเหล่านั้นนำไปสู่สาเหตุแห่งการทำลายเจ้าคอลลาเจน ซึ่งเป็นประโยชน์มากมายต่อร่างกายกันดีกว่า
~5 พฤติกรรมทำลายคอลลาเจนที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์~ |
~การรับประทานอาหารหวานเป็นประจำ
~เผชิญกับสภาวะฝุ่น ควัน สารเคมีหรือยาฆ่าแมลง
~สูบบุหรี่เป็นประจำ
~ทำกิจกรรมกลางแจ้งและได้รับรังสีUVเป็นประจำ
|
หากใครที่ไม่อยากทำลายคอลลาเจนอันทรงประโยชน์ในร่างกายแล้วล่ะก็ควรลด ละเลิกพฤติกรรมเหล่านี้เสียแต่เนิ่นๆ และหันมารับประทานอาหารหรือสมุนไพรที่มีประโยชน์และช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจนแทน
คอลลาเจนกับการบำรุงร่างกายและเส้นผม เรื่องลับๆที่คนทั่วไปไม่รู้
Write a comment