ปวดหลังมากแม่!!! โรคฮิตวัยรุ่นยุคใหม่จะหายไป ถ้ารู้ #5 ท่าออกกำลังกายคลายปวดหลัง!!!

ทำไมวัยรุ่นอย่างเราถึงปวดหลัง???!!!

• กระดูกสันหลังผิดปกติ ผิดปกติที่ว่าก็คืออาจเป็นได้ทั้งคนที่มีกระดูกสันหลังผิดปกติมาตั้งแต่กำเนิด และคนที่กระดูกสันหลังผิดปกติจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น การเกิดอุบัติเหตุ หรือจากพฤติกรรมอะไรที่กระทบต่อส่วนนี้นั่นเองค่ะ ซึ่งการที่กระดูสันหลังผิดปกติ มีการเคลื่อนตัว หรือผิดรูปไป ทั้งหมดล้วนทำให้เกิดอาการปวดหลังได้แน่นอนค่ะ
• ทำอะไรอยู่ในท่าเดิมนานเกินไป การนั่ง ยืน เดิน หรือทำอะไรก็แล้วแต่ที่ไปทำให้กระดูกสันหลังอยู่ในภาวะผิดปกติ เช่น นั่งตัวงอนาน ๆ ก้มหัวนาน ๆ ยกของหนักนาน ๆ ก็จะทำให้การอาการปวด จนถึงบาดเจ็บได้ค่ะ ถ้าเกิดว่ายังละเลยหรือไม่ใส่ใจกับพฤติกรรมแบบนี้เป็นเวลานาน ก็เป็นสาเหตุให้ปวดหลังเรื้อรังได้แน่นอนจ้า
• กล้ามเนื้อบริเวณหลังอักเสบ การประสบอุบัติเหตุหรือได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อบริเวณหลัง ส่งผลให้กระดูกสันหลังได้รับการกระทบเทือนจนเกิดอาการปวดหลังตามมาได้ ซึ่งการบาดเจ็บอาจจะมาจากการเล่นกีฬา ออกกำลังกายผิดท่าทาง หรือประสบอุบัติเหตุอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริเวณหลังนั่นเองค่า

• หมอนรองกระดูกมีปัญหา เมื่อหมอนรองกระดูกเสื่อม หรือเกิดการเคลื่อนตัวไปทับเส้นประสาทก็จะมีการอักเสบบริเวณหลังของเรา ซึ่งแน่นอนเลยว่าจะทำให้เกิดอาการปวดหลังตามมาอย่างแน่นอนค่ะ

  

เตรียมบอกลาโรคฮิตกับ #5ท่าออกกำลังกายคลายปวดหลัง!!!!

1. ท่างู เริ่มจากท่าง่าย ๆ ที่บรรเทาอาการปวดหลังให้ได้แน่นอนต้องท่านี้เลยค่ะ เริ่มแรกก็ต้องนอนคว่ำก่อน แล้วใช้ศอกทั้งสองข้างยันพื้นไว้ (วางศอกให้ตรงกับหัวไหล่ด้วยนะคะ) จากนั้นยืดลำตัวขึ้นเหมือนกับงูเชิดขึ้นมาเลยค่ะ ค่อย ๆ ยืดจนตึง ยืดค้างไว้ 1-2 นาที และทำอีก 4-5 ครั้งตามต้องการได้เลยค่ะ

2. ท่ายืดหลัง อีกท่าที่ทำง่ายแสนง่าย แต่ผลลัพธ์บอกเลยว่าเด็ดสำหรับคนปวดหลัง ปวดเอว เริ่มจากนั่งพื้นเรียบและเหยียดขาให้ตรง เมื่อพร้อมแล้วก็หายใจเข้า ยกมือเหยียดขึ้นเหนือศีรษะ จากนั้นหายใจออก ค่อย ๆ ยืดแขนไปที่ปลายเท้า ก้มจนมือแตะปลายเท้า ก้มให้มากที่สุดเท่าที่ทำให้ ทำค้างไว้สัก 1-2 นาที ที่สำคัญคือห้ามแอบงอเข่านะจ๊ะ!!!

   

3. ท่ายืนแอ่นหลัง กลับมาท่าเบสิคที่ทำแล้วดีงามมากกก ก็คือท่านี้เลยค่ะ เริ่มจากยืนตรงและปลายเท้าห่างกันพอประมาณค่ะ จากนั้นเอามือทั้งสองข้างเท้าเอวแล้วค่อย ๆ แอ่นหลังไปด้านหลัง แอ่นไปให้มากเท่าที่จะแอ่นได้เลยนะคะ ค้างไว้แค่ 10 วินาที แล้วก็ทำซ้ำได้อีก 4-5 ครั้งค่ะ

   

4. ท่าเด็กหมอบ ชื่อท่าเด็ก ๆ แต่ทำแล้วผลลัพธ์ไม่เด็กน้าาา เพราะท่านี้นอกจากทำง่าย คลายปวดหลังได้แล้ว ยังทำให้ผ่อนคลายได้ด้วย!!!! เริ่มจากนั่งคุกเข่าก่อน (เปิดหัวเข่าเล็กน้อยนะคะ) จากนั้นค่อย ๆ ยืดแขนไปข้างหน้าจนสุด ตามด้วยลำตัวเอนไปตามแขน แล้วก้มหน้าลง ทำค้างไว้ 1-2 นาทีได้เลยค่ะ

   

5. ท่าดึงเข่า ท่านี้ก็ทำได้ง่ายมากกกกก อีกเช่นเคยค่ะ เริ่มจากนอนหงายราบกับพื้น ยกขาโดยใช้มือสองข้างมาทำให้ขาแนบบริเวณอก ทำค้างไว้ 10 วินาที จากนั้นสลับไปทำกับขาอีกข้างหนึ่งเหมือนเดิม และทำซ้ำ 4-5 ครั้งค่ะ

   

กิจกรรมที่เลี่ยงได้แล้วจะห่างไกลจากอาการปวดหลัง!!!

• อยู่หน้าคอมนานเกินไป ยิ่งช่วง Work From Home แบบนี้ หลาย ๆ คนก็ต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งการนั่งหน้าจอเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้เราก้มดูหน้าจอ และงอหลังนานเกินไป จนทำให้กระดูกสันหลังอาจเกิดการอักเสบ และปวดหลังในที่สุดจ้าาา ทางที่ดีควรนั่งหลังตรงเวลาทำงานและยืดเส้นยืดสายบ้างนะคะทุกคน!!!

• การนอนคว่ำ การนอนคว่ำจะทำให้กระดูกสันหลังคดงอ และปวดหลังได้ในที่สุดค่ะ ท่านอนที่แนะนำก็คือนอนตะแคง งอเข่าเล็กน้อย พยายามไม่ให้กระดูกสันหลังงอมากที่สุดค่ะ!!!

  

• ก้มยกของหนัก ๆ การก้มและยกของหนักจะเป็นการใช้หลังออกกำลังในการยก จะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ ซึ่งก็จะตามมาด้วยอาการปวดหลังแน่นอนค่ะ ทางที่ดีควรงอเข่าก่อนและใช้กำลังขาในการลุกเดินเพื่อเซฟหลังของเราให้มากที่สุดนะคะ

  

• นั่งกับพื้นบ่อย ๆ การนั่งพื้นไม่ว่าจะด้วยท่าไหน ทั้งพับเพียบ ขัดสมาธิ ต่าง ๆ ล้วนทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ เพราะน้ำหนักของตัวเราจะลงไปที่กระดูกสันหลัง เมื่อนาน ๆ เข้าก็ทำให้อักเสบและปวดหลังในที่สุดค่าาา เพราะฉะนั้นควรนั่งบนเก้าอี้สูง ไม่ต่ำเกินไป และต้องมีพนักพิงนะคะ!!!

สรุป บอกทริคเด็ด ๆ ช่วยลดปวดเมื่อยได้อีกแรง!!!

• การวอร์มร่างกาย ทุกคนต้องไม่ลืมนะคะว่าการออกกำลังกาย มีขั้นตอนที่สำคัญมากกกก ไม่ทำไม่ได้ นั่นก็คือการเตรียมพร้อม หรือการวอร์มร่างกายก่อนออกกำลังนั่นเองค่ะ เพราะการออกกำลังกายอาจทำให้เราบาดเจ็บได้ถ้าไม่ได้มีการยืดหยุ่นกล้ามเนื้อให้พร้อมก่อนลงสนาม ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้เราลดอาการปวดเมื่อกล้ามเนื้อได้ดีมากค่ะ!!!!

• ใช้ยาทาลดอาการปวดเมื่อย วิธีที่เร็วที่สุดก็คือใช้ยาบรรเทาอาการไปก่อน ซึ่งยาทาก็จะมีทั้งแบบร้อนและแบบเย็น ทุกคนสามารถเลือกตามใจชอบได้เลยนะคะ และเมื่อทายา ก็ไม่ควรนวดแรงจนเกินไปเพราะจะทำให้กล้ามเนื้อช้ำและปวดมากกว่าเดิมนั่นเองค่ะ

  

• พักฟื้นร่างกายก่อน ถ้าการออกกำลังกายท่านั้น ท่านี้ ทำวิธีนั้น วิธีนี้ก็ยังไม่ดีขึ้น ก็ปล่อยให้ร่างกายได้พักผ่อนและฟื้นฟูตัวเองก่อนนะคะ ปล่อยให้มันซ่อมแซมส่วนที่กำลังบาดเจ็บไปก่อน เมื่อพร้อมแล้วค่อยออกไปต่อสู้ใหม่ได้ค่ะ!!!!

รู้อย่างนี้แล้วววว เป็นยังไงบ้างคะทุกคน หวังว่าเพื่อน ๆ ทุกคนคงจะนำไปปรับให้เข้ากับตัวเองได้นะคะ เราอาจจะหลงลืมว่า บางกิจกรรมที่เราทำจนเคยชิน อาจจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เรายังปวดหลังกันอยู่!!!! เพราะฉะนั้นต้องสังเกตุพฤติกรรมตัวเองให้มากขึ้น ดูแลร่างกายของเรา อย่าละเลยหรือลืมมันเด็ดขาดเลยนะคะ!!!! โรคปวดหลังฟีเว่อร์จะได้หายไปจากเราทุกคนค่ะ เย้!!!!