- 1. ทานยาคุมกำเนิด เพราะ ไม่รู้ว่าท้อง!! อันตรายต่อลูกในครรภ์แค่ไหน?! เสี่ยงแท้งหรือไม่? ที่นี่มีคำตอบ!
- 2. มาทำความรู้จักกับยาคุมกำเนิดชนิดต่างๆ
- 3. ยาคุมกำเนิดชนิดรายเดือน
- 4. ยาคุมฉุกเฉิน
- 5. ตั้งครรภ์แล้วทานยาคุมกำเนิดเสี่ยงแท้งหรือไม่?
- 6. ตั้งครรภ์แล้วทานยาคุมกำเนิดอันตรายต่อลูกในครรภ์แค่ไหน?!
- 7. บทสรุปทานยาคุมกำเนิด เพราะ ไม่รู้ว่าท้อง!! อันตรายต่อลูกในครรภ์แค่ไหน?! เสี่ยงแท้งหรือไม่?
ทานยาคุมกำเนิด เพราะ ไม่รู้ว่าท้อง!! อันตรายต่อลูกในครรภ์แค่ไหน?! เสี่ยงแท้งหรือไม่? ที่นี่มีคำตอบ!
สาวๆสมัยใหม่กับความรู้เรื่องยาคุมกำเนิดเป็นของคู่กัน การทานยาคุมกำเนิดไม่ใช่เรื่องน่าอายแล้วนะคะ เพราะนอกจากจะคุมกำเนิดได้แล้ว ยังช่วยป้องกันการท้องไม่พร้อมอีกด้วย แต่ปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นได้สำหรับคุณแม่มือใหม่แม้อาจจะเกิดโดยไม่ได้ตั้งใจ นั่นก็คือ ปัญหาไม่ทราบว่าตนเองท้องแล้วเผลอไปทานยาคุมกำเนิด!!
บทความนี้เราจะพาเพื่อนๆมาหาคำตอบกันค่ะว่า ทานยาคุมกำเนิดตอนท้อง อันตรายต่อลูกในครรภ์แค่ไหน? เสี่ยงแท้งหรือไม่? พร้อมแล้วไปอ่านกันเลยค่ะ
มาทำความรู้จักกับยาคุมกำเนิดชนิดต่างๆ
ก่อนที่เราจะเข้าเรื่องกัน วันนี้ Beauty-Worthen พาทุกท่านมาทำความเข้าใจกันให้ลึกซึ้งอีกทีกับยาคุมกำเนิดมีกี่ประเภท ข้อดีข้อเสียของแต่ละประเภทมีอะไรบ้าง ไปดูกันเล้ยยยย
ยาคุมกำเนิดชนิดรายเดือน
ยาคุมกำเนิดชนิดนี้เป็นยาคุมกำเนิดยอดฮิตที่ผู้หญิงส่วนใหญ่นิยมใช้กันค่ะ เพราะนอกจากจะราคาถูก หาซื้อได้ง่ายแล้วยังช่วยแก้ไขปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติ ช่วยรักษาสิว และช่วยเรื่องผิวพรรณอีกด้วยนะคะ
ซึ่งยาคุมกำเนิดชนิดนี้ยังถูกแบ่งไปอีก 3 ชนิดดังนี้ค่ะ ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม, ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนต่ำและยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนเดี่ยว โดยแต่ละชนิดจะมีวิธีการทานที่แตกต่างกันไป และจะแบ่งเป็นแยกย่อยเป็น 2 ชนิด ดังนี้ค่ะ
- แบบ 21 เม็ด
โดยยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ดจะมีลูกศรอยู่ด้านหลังแผง ซึ่งวิธีการทานให้สาวๆเริ่มทานตั้งแต่วันที่ 1-5 ของการมีประจำเดือน ไล่ตามลูกศรตามวันไปเรื่อยๆค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าประจำเดือนมาวันจันทร์ ให้เริ่มทานเม็ดที่ด้านหลังเขียนว่า จ.หรือMon วันละ 1 เม็ด โดยต้องรับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวันจนหมดแผง จากนั้น หยุดทานยา7วันก่อนเริ่มแผงใหม่ค่ะ
- แบบ 28 เม็ด
โดยในยาคุมกำเนิดชนิดนี้ปกติแผงยาจะมี 2 สี จะเป็นตัวยาที่มีฮอร์โมน 21 เม็ด และอีก 7 เม็ด เป็นเม็ดแป้งหรือเม็ดสีขาวนั่นเองค่ะ ด้านหลังแผงจะมีตัวเลขกำกับอยู่ เริ่มกินได้ตั้งแต่วันที่ 1-5 ของรอบเดือน วิธีทานก็ง่ายนิดเดียวค่ะ ให้เริ่ม ทานยาวันละ 1 เม็ดเวลาเดียวกันทุกวัน ไล่ไปตามเลขไปเรื่อยๆจนครบ จนหมดแผงแล้วสามารถเริ่มทานแผงใหม่ได้ทันที่ในวันถัดไปค่ะ
ยาคุมฉุกเฉิน
ยาคุมกำเนิดชนิดนี้ก็ตามชื่อของมันเลยค่ะสาวๆคือใช้ในกรณีฉุกเฉิน โดยปกติแล้วจะทานในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หรืออาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นระหว่างมีเพศสัมพันธ์ค่ะ ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินเนี่ยจะไม่สู้ยาคุมรายเดือนชนิดฮอร์โมนรวมหรอกนะคะ
โดยยาคุมฉุกเฉินหนึ่งแผงจะมี 2 เม็ด ถ้าเป็นไปได้ควรทานหลังมีสัมพันธ์ทันที และไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ค่ะ โดยให้กินตามฉลากอย่างเคร่งครัดนะคะ
ตั้งครรภ์แล้วทานยาคุมกำเนิดเสี่ยงแท้งหรือไม่?
คำถามนี้ก็เป็นอีกคำถามยอดฮิตที่สาวๆหลายๆคนอยากรู้ใช่ไหมคะ ว่าถ้าเกิดเราตั้งครรภ์แล้วทานยาคุมกำเนิดเข้าไป จะแท้งหรือไม่? วันนี้ Beauty-Worthen มีคำตอบจากคุณหมอมาฝากกันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
หากเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นแล้ว การทานยาคุมฉุกเฉินหรือยาคุมกำเนิดชนิด 21 หรือ 28 เม็ด จะไม่ได้ทำให้เกิดการแท้งขึ้นได้ และการตั้งครรภ์ก็จะดำเนินต่อไปได้ ส่วนผลของยาคุมฉุกเฉินหรือยาคุมกำเนิด ไม่ได้มีผลเสียต่อทารกในครรภ์ ไม่ได้ทำให้เกิดความพิการแต่อย่างใด
คำตอบจาก แพทย์หญิงสลิล pobpad.com คลิ๊กเพื่ออ่านเพิ่มเติม
ตั้งครรภ์แล้วทานยาคุมกำเนิดอันตรายต่อลูกในครรภ์แค่ไหน?!
อีกหนึ่งคำถามที่หลายๆคนสงสัยว่าทานยาคุมกำเนิดไปหลายเม็ดแล้วพึ่งรู้ตนเองตั้งท้อง จะมีอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์มากน้อยแค่ไหน?
บทสรุปทานยาคุมกำเนิด เพราะ ไม่รู้ว่าท้อง!! อันตรายต่อลูกในครรภ์แค่ไหน?! เสี่ยงแท้งหรือไม่?
คุณแม่หลายๆท่านคงหายสงสัยแล้ใช่ไหมล่ะคะว่าทานยาคุมกำเนิดระหว่างตั้งครรภ์จะเป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์แค่ไหน?! เสี่ยงแท้งหรือไม่? แต่ทางที่ดีถ้าหากคุณแม่ท่านใดสังเกตุได้ว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับตนเองหรือสงสัยว่าจะตั้งครรภ์ แนะนำให้คุณแม่หยุดทานยาคุมกำเนิดก่อนเป็นการดีที่สุดค่ะ แต่ถ้ายังมีความกังวลสงสัยอยู่ให้คุณแม่รีบปรีกษาคุณหมอถึงผลกระทบเพื่อความสบายใจก็ไม่เสียหาย แล้วพบกับสาระความรู้ใหม่ได้ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ
Write a comment