ว้าวมากๆ!! กับ #5 วิธีออกกำลังกายที่ถูกต้องตามหลักกรมอนามัยเพื่อการมีสุขภาพที่ดีห่างไกลโรคร้าย!!

ว้าวมากๆ!! กับ #5 วิธีออกกำลังกายที่ถูกต้องตามหลักกรมอนามัยเพื่อการมีสุขภาพที่ดีห่างไกลโรคร้าย!!
ออกกำลังกาย กรมอนามัย
” มาสร้างเกราะป้องกันโรคร้ายด้วยการออกกำลังกายกันเถอะ “

สวัสดีจ้าคนรักสุขภาพทุกคนน!!

ตอนนี้โรคภัยไข้เจ็บอยู่ใกล้ตัวเราบางครั้งก็แอบแฝงมากับบางสิ่งบางอย่างเหมือนผี อุ้ยย!! ทุกคนสงสัยว่ามันขนาดนั้นเลยหรือเพราะเราคงไม่รู้หรอกว่าอาหารหรือสิ่งที่เราสัมผัสอากาศที่หายใจเข้าทุกวันมันเป็นมลภาวะหรือมีเชื้อโรคอะไรบ้าง

และนั่นคือตัวก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ และในตอนนี้โรคโควิดกำลังระบาดอีกด้วยเรามาเพิ่มภูมิต้านทานด้วยการออกกำลังกายให้ถูกต้องกันดีกว่า แอดขอแนะนำนี้เลยทุกคน 5 ท่าออกกำลังกายที่ถูกต้องตามหลักกรมอนามัยเพื่อการมีสุขภาพที่ดีห่างไกลโรคร้าย!!

ถ้าทุกคนพร้อมแล้วเราไปกันเลยดีกว่า ไปเพิ่มเกราะป้องกันเจ้าโรคร้ายกัน go go!!

ออกกำลังกาย กรมอนามัย

 

การออกกำลังกายตามหลักกรมอนามัยคืออะไร?

ออกกำลังกาย กรมอนามัย
https://www.egov.go.th/th/government-agency/21/

การออกกำลังกายตามหลักกรมอนามัยคือการออกกำลังกายแบบถูกต้องและสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากๆ โดยกรมอนามัยจะมีเป้าหมายคือต้องการให้ทุกคนให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายและสามารถออกกำลังกายได้อย่างถูกวิธีนำไปสู่การมีสุขภาพที่แข็งแรงพร้อมที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยผ่านหลักการออกกำลังกายและโภชนาการที่ถูกต้องอีกด้วยและที่สำคัญเหมาะกับทุกเพศทุกวัยอีกด้วย

ต่อไปเราไปดู 5 วิธีออกกำลังกายง่ายๆ ตามหลักกรมอนามัยห่างไกลโรคร้าย!!กันเถอะทุกคนน

ออกกำลังกาย กรมอนามัย

 #5 วิธีออกกำลังกายง่ายๆ ตามหลักกรมอนามัยห่างไกลโรคร้าย!!

และวันนี้แอดจะนำเอาการออกกำลังกายแบบมาตรฐานตามหลักกรมอนามัยที่อ้างอิงมาจากวิทยาลัยแพทย์เวชศาสตร์การกีฬาอเมริกัน (ACSM) และ สมาคมแพทย์โรคหัวใจอเมริกัน (AHA) ซึ่งร่วมกันวิจัยว่าการออกกำลังกายนั้นดีจริงๆ เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าการออกกำลังกายที่ได้ระดับมาตรฐานจะมีอะไรบ้างไปกันเลย!!

1. ควรออกกำลังกายแบบต่อเนื่อง  ควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน/วันละ 30 นาทีขึ้นไป โดยสามารถเลือกกำลังกายได้แบบแอโรบิก ถ้าหากอยากเพิ่มระดับสามารถเลือกการออกกำลังกายแบบ วิ่งจ๊อกกิ้งจนเหนื่อย วันละ 20 นาที ทำแบบนี้สัปดาห์ละ 3 วันอย่างน้อย
2. muscle strengthening การออกกำลังกายตามแบบที่1 แต่ควบคู่กับการออกกำลังกายแบบ muscle strengthening เป็นการออกกำลังกายที่สร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ สามารถทำแบบนี้ได้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยใน 2 ครั้งนั้นสลับทำกับการออกกำลังกายแบบที่ 1 เพื่อไม่ให้ร่างกายหักโหมมากเกินไป
3. การออกกำลังกายแบบแอโรบิกแบบ short bouts เป็นการออกกำลังกายแบบช่วงระยะเวลาสั้นๆควรทำครั้งละ10 นาทีขึ้นไปในยามว่างและสามารถแบ่งทำได้แต่ในวันนั้นนับรวมกันแล้วต้องได้ 30 นาทีขึ้นไป
4. อย่าคิดว่าการทำงานบ้านคือการออกกำลังกาย เพราะการทำกิจกรรมในระยะเวลาที่สั้นไม่ถือว่าเป็นการออกกำลังกาย เช่น การกวาดบ้าน ล้างจาน อาบน้ำ การทำแบบนี้ใช้พลังงานจริงแต่ไม่ใช่การออกกำลังกายแบบถูกวิธีดังนั้น หากต้องการออกกำลังกายให้เห็นผลจริงๆ ต้องออกกำลังกายที่ต้องที่ใช้เวลาตั้งแต่ 30 นาทีขึ้นไป หรือทำกิจกรรมที่ใช้กล้ามเนื้อเป็นต้น
5. การออกกำลังกายแบบ flexibility สำหรับผู้สูงอายุ  ผู้ที่มีอายุมากขึ้นควรออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น หรือ flexibility ให้กับร่างกายเพื่อช่วยเสริมการทรงตัวในตอนเข้าสู่วัยชรา ต้องทำอย่างน้อยวันละ 10 นาทีเป็นต้นไป แต่อย่าหักโหมมากจนร่างกายรับไม่ไหวและควรผสมผสานการขยับร่างกายให้เข้ากับการทำกิจกรรมในแต่ละวันด้วยเช่นการเดิน การขึ้นบันได,กระได จะเป็นการกระตุ้นให้เพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกายได้

ต่อไปเราไปดูทริคดีๆจากกรมอนามัยกัน เพื่อการมีสุขภาพที่ดีแค่ออกกำลังกายไม่พอหรอกนะแต่การรู้โภชนาการที่ดีควบคู่กับการออกกำลังกายจะยิ่งทำให้สุขภาพดีมากขึ้นห่างไกลโรคร้ายแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลยย!!

ออกกำลังกาย กรมอนามัย

#6 ทริคดีๆ!! โภชนาการเพื่อสุขภาพจากกรมอนามัย

วันนี้แอดเอาริคดีๆ เกี่ยวกับโภชนาการเพื่อการมีสุขภาพที่ดีจากกรมอนามัยมาฝากทุกคนโดยแอดอ้างอิงมาจากหนังสือคู่มือเพื่อการมีสุขภาพที่ดีของกรมอนามัยเลยนะ ที่สำคัญน่าสนใจมากๆ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

1. “ไขมัน” กินอย่างมั่นใจไม่ให้อ้วน

  • ไม่กินอาหารไขมันสูง เช่น อาหารทอด เนื้อติดมัน เป็นต้น
  • ใช้น้ำมันที่เหมาะสมและดีต่อสุขภาพมาปรุงอาหาร

2. “ข้าวและแป้ง” กินอย่างไรให้พอดี

  • กินข้าวและแป้งในปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ( และอย่าลืมตามผักเยอะๆด้วยน้าา )
  • กินข้าวกล้องแทนข้าวขัดสีหรือขนมปังโฮลวีทแทนขนมปังธรรมดาเพื่อเพิ่มใยอาหาร

3. “กินหวาน” ไม่ให้น้ำตาลเกิน

  • งดกินหวานในตอนที่กำลังลดน้ำหนัก
  • กินหวานในปริมาณที่น้อยลดหวานลงสักหน่อย หรือทานผลไม้หวานน้อยแทนเช่น ชมพู่ ฝรั่ง แตงโม
  • กินน้ำผลไม้ที่ไม่ใส่น้ำตาลหรือใส่น้อยๆ
  • หลีกเลี่ยงผลไม้ดอง แช่อิ่ม หรือ เชื่อม เพราะในผลไม้เหล่านี้มีน้ำตาลที่สูงมากๆ

4. “รสเค็ม” ต้องกินอย่างมีสติ

  • ห้ามเติมรสเค็มไปในอาหารเพื่อปรับต่อมรับรสให้เลิกทานรสเค็ม
  • หากมื้อไหนที่เราทานอาหารรสเค็มไปในปริมาณมากในเมื่อต่อไปหรือวันถัดไปควรลดปริมาณรสเค็มลงหรือไม่กินรสเค็ม

5. “ผักและผลไม้” กินแล้วไร้โรค

  • กินผักผลไม้ที่สะอาด ออกผลตามฤดูกาลเพื่อลดการรับสารพิษจากยาและปุ๋ย
  • เน้นการกินผักและผลไม้แบบสดที่ผ่านกระบวนการปรุงแต่งหรือแปรรูปมาแล้ว
  • กินผักและผลไม้ให้หลายชนิดจะได้รับสารอาหารที่หลากหลายมากขึ้นในแต่ละวัน

6. กินเท่าไรจึงพอดี “ไม่อ้วน”การกินให้ไม่ควรเราจะคำนวนจากปริมาณพลังงานของร่างกายว่าในแต่ละวันใช้ไปเท่าไร โดยคำนึงจากการใช้แรงงาน

  • ผู้ที่ใช้แรงงานจากน้อย-ปานกลาง ควรกินวันละ 1,600 กิโลแคลอรี
  • ผู้ที่ใช้แรงงานมาก วันละ 2,000 กิโลแคลอรี
  • หากอยู่ในช่วงลดน้ำหนักควรกินวันละ 1,200 กิโลแคลอรี

และนี้คือทริคดีๆจากกรมอนามัยเอามาฝากเพื่อนๆทุกคนต่อไปเราไปดูบทสรุปของการออกกำลังกายตามหลักอนามัยดีกว่าจะช่วยทำให้ห่างไกลโรคได้จริงหรือ?? ถ้าพร้อมแล้วไปเลยย!!

ออกกำลังกาย กรมอนามัย

    สรุป!! การออกกำลังกายตามหลัก ” กรมอนามัย ” ช่วยให้ห่างไกลโรคร้ายจริงหรือ??

การออกกำลังกายตามหลักกรมอนามัยคือการออกกำลังแบบถูกวิธีและถูกต้องเพื่อทำให้มีสุขภาพที่ดีและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและนั้นก็คือการที่สามารถทำให้ห่างไกลโรคร้ายได้ด้วยเพราะโรคร้ายที่ว่าอาจจะมาจาก อาหารการกิน

กินมากจนเกิดการสะสมของไขมันในร่างกายทำให้เป็นโรคอ้วน เบาหวาน และโรคอ้วนยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่นๆ แทรกซ่อนได้อีกด้วยดังนั้นการออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อการมีสุขภาพที่ดี

และก่อนจากกันแอดขอแนะนำหนังสือคู่มีจากกรมอนามัยที่รวบรวมเอาวิธีการออกกำลังกายและหลักโภชนาการที่ดีเพื่อสุขภาพมาฝากทุกคน เป็นคู่มือที่ฟรีดีและมีประโยชน์มากๆ อยากให้ทุกคนได้อ่านและฝึกทำตามได้นะคะ

คู่มือออกกำลังกายและโภชนาการเพื่อสุขภาพ 

วันนี้ต้องขอตัวลาก่อนนะคะทุกคนบ๊ายบายยยย 💕

 

สุขภาพLatest articles in the category