วิตามินเอ คืออะไร มีประโยชน์กับร่างกายเราอย่างไร?
ต้องบอกว่าบนโลกใบนี้มีวิตามินอยู่หลากหลายชนิด นอกเหนือจากที่เรารู้ ๆ กันอย่างวิตามินเอ วิตามินบี 1 ถึงบี 12 วิตามินซี ดี อีก็ยังมีที่แตกแยกย่อยออกมาจากวิตามินเหล่านี้อีก และแหล่งที่มาของวิตามินเหล่านี้ก็แตกต่างกันด้วย แต่เชื่อว่ามีน้อยคนที่จะให้
ความสำคัญในการศึกษาว่าวิตามินแต่ละตัวช่วยบำรุงงร่างกายในส่วนใดบ้าง แล้วต้องทานอาหารประเภทใดจึงได้วิตามินแบบนี้ หรือวิตามินชนิดนี้ร่างกายของเราต้องการมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจริง ๆ แล้วมันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยวันนี้วิตามินชนิดแรกที่เราอยากพาทุกคนมาทำความเข้าใจ และรู้จักกับมันให้มากขึ้นก็คือวิตามินเอ
วิตามินเอคืออะไร?
ก่อนที่เราจะไปทำความเข้าใจว่าวิตามินเอคืออะไร เราต้องมาเริ่มทำความเข้าใจก่อนว่าโดยทั่วไปวิตามินจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ วิตามินที่สามารถละลายในน้ำได้ และวิตามินที่สามารถละลายในไขมันได้ ซึ่งวิตามินเอคือวิตามินในกลุ่มที่สามารถละลายในไขมันได้ เพราะฉะนั้นมันจึงสามารถดูดซึมเข้าไปในร่างกายของเราได้ดี ถ้าเรากินร่วมกับอาหารที่มีน้ำมัน หรือมี
ไขมันเป็นส่วนประกอบ เราจะพบวิตามินเอได้ใน 2 รูปแบบ 1) เรตินอล ที่จะได้จากในเนื้อสัตว์ น้ำมันตับปลาเครื่องในสัตว์ไข่แดงนมและผลิตภัณฑ์จากนม และ 2) เบต้าแคโรทีน ที่จะพบมากในพืชผักบางชนิดที่มีสีส้ม สีเหลือง สีเขียวเข้ม อย่างแครอท ข้าวโพด มันฝรั่ง ฟักทอง ผักบุ้ง ฯลฯ
ร่างกายต้องการวิตามินเอในปริมาณเท่าไหร่?
ถ้าวัดตามมาตรฐานสากลแล้ว ร่างกายของเราควรมีปริมาณวิตามินเอตั้งแต่ 800 ไมโครกรัม อาร์ อี แต่ไม่ควรเกิน 3000 ไมโครกรัมอาร์ อี จึงจะพอเหมาะพอดีกับที่ร่างกายต้องการ ซึ่งปริมาณของวิตามินเอจะเพียงพอกับร่างกายของเราถ้าเราสามารถทานอาหาร
ในกลุ่มที่ได้พูดถึงข้างต้น แต่ถ้าใครไม่สามารถทานอาหารจำพวกเนื้อ นม พืชผักได้ วิตามินเออาจจะไม่เพียงพอ และอาจตามมาด้วยภาวะขาดวิตามินได้
วิตามินเอมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร?
เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะให้ความสำคัญกับการกินวิตามินตัวอื่น ๆ มากจนลืมสังเกตว่า ถ้าร่างกายของเราขาดวิตามินเอก็อาจจะเกิดเกิดภาวะโรคต่าง ๆ ได้ง่าย เพราะว่าวิตามินเอเป็นตัวช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายได้อย่างดี ดังนั้น ถ้าร่างกายของเรา
ขาดวอตามินเอไปก็จะทำให้เราป่วยง่าย การทำงานของระบบบางอย่างในร่างกายผิดปกติ มีภาวะติดเชื้อทางเดินหายใจ ผิวขาดความชุ่มชื้น หยาบกร้าน แห้งแตก เกิดภาวะการมองเห็นที่ผิดปกติไปจากเดิม เป็นโรคเยื่อบุตาแห้ง กระจกตาเป็นแผล หรือโรคทางสายตาต่าง ๆ เนื่องจากวิตามินเอมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา ใครที่มักมีปัญหากับสายตาบ่อย ๆ ควรกินวิตามินเออย่างต่อเนื่อง
หลังจากที่เราได้เรียนรู้ว่าวิตามินเอคืออะไร สำคัญต่อร่างกายของเราอย่างไร แล้วต้องกินวิตามินเอในปริมาณเท่าไหร่ถึงเพียงพอแล้ว เชื่อว่ามีหลายคนที่ไม่สามารถทานอาหารในหมวดหมู่วิตามินเอได้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปเพราะปัจจุบันมีนวัตกรรมมากมายที่จะทำให้เราได้รับวิตามินเอในปริมาณที่พอดี และปลอดภัย โดยวันนี้เราได้นำ 3 ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินเอที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย เหมาะกับการทานเพื่อบำรุงร่างกาย ถ้าใครอยากรู้ว่ามียี่ห้อใดบ้างก็ต้องตามมาดู
ในอดีตเคยมีการตรวจพบว่าประชากรส่วนใหญ่มีการขาดวิตามินเออยู่ค่อนข้างสูงจากการที่ได้รับโภชนาการไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ในปัจจุบัน คนเริ่มทานอาหารหลากหลายยิ่งขึ้นดังนั้นวิตามินเอ จริงไม่ใช่วิตามินหลักๆที่ร่างกายของคนเราจะขาด เพราะมันสามารถหาได้ เมื่อเราทาน ซึ่งใครที่ชื่นชอบในการทานอาหารเหล่านี้ วิตามินอีในร่างกายของเราก็คงเพียงพอต่อความต้องการ ที่จะใช้ในการบำรุงร่างกายอย่างแน่นอน แต่ถ้าคนที่ไม่สามารถทานอาหารในกลุ่มนี้ได้ก็จะค่อนข้างมีปัญหาและอาจต้อง มองหาตัวช่วย อาหารเสริมวิตามินอี ซึ่งก็มีหลากหลายยี่ห้อ ที่จะสามารถตอบโจทย์ ภาวะขาดวิตามินเอของเราได้
รวม 3 ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินเอที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
รีวิวจาก Lazada: Tk G อ่านรีวิวอื่น ๆ คลิก
รีวิวจาก Lazada: สมชัย อ่านรีวิวอื่น ๆ คลิก
ช่วยให้ตาดีขึ้นมาก ตาของฉันมีอาหารล้าน้อยลง
รีวิวจาก Iherb: Customer อ่านรีวิวอื่น ๆ คลิก
เป็นปริมาณที่เหมาะกับการบำรุงดวงตา ทั้งลูกสาว และฉันกินตัวนี้แล้วก็ค่อย ๆ มองเห็นชัดขึ้น และยังทำให้ตาล้าน้อยลงด้วย
รีวิวจาก Iherb: Customer อ่านรีวิวอื่น ๆ คลิก
วิตามินเอ สารพัดประโยชน์ที่มอบให้กับร่างกาย
ถือได้ว่าวิตามินเอเป็นอีกหนึ่งวิตามินสำคัญที่ร่างกายของเราต้องการ โดยเฉพาะในเรื่องของการบำรุงสายตา บำรุงผิวพรรณ และการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทานอาหารในหมวดหมู่ของวิตามินเอได้ ดังนั้น การมองหาอาหารเสริม หรือผลิตภัณฑ์วิตามินเอดี ๆ ก็จะมาช่วยเติมเต็มสารอาหารที่ขาดหายไปให้กับเราได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี และก็
ง่ายดายมากกว่าการต้องฝืนกินอะไรที่เรากินไม่ได้ ในอดีตนั้นมีการตรวจพบประชากรจำนวนมากที่มีภาวะขาดวิตามินเอแต่ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันพฤติกรรมการกินของคนเปลี่ยนไปมาก คนเริ่มทานอาหารหลากหลายขึ้น จึงทำให้วิตามินเอสามารถซึมซาบเข้าสู่ร่างกายของเราได้ง่ายถ้าเทียบกับวิตามินอื่น ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อยากให้ใครหลายคนมองข้ามที่จะรับประทานอาหารตามโภชนาการที่ถูกต้อง เพราะเราไม่สามารถพึ่งอาหารเสริมไปได้ในระยะยาว เนื่องจากวิตามินเอสามารถสะสมอยู่ในร่างกายของเรา
ได้นาน ซึ่งจะทำให้ตับของเราทำงานหนัก อย่างน้อย ๆ เราสามารถกินได้ 1 – 2 เดือนแล้วหยุด และพยายามออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอควบคู่ไปด้วยก็จะเป็นผลดีกับตัวเรามากที่สุด เพราะฉะนั้นหวังว่าวันนี้เราจะช่วยคลายข้อสงสัยให้ใครหลายคนได้แล้วว่าวิตามินเอคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร เมื่อรู้แล้วก็อย่าลืมดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีอย่าให้ร่างกายขาดวิตามินสำคัญ ๆ ไป จะได้ไม่มีโรคภัยถามหาในภายหลัง
Write a comment