โรคซึมเศร้า เป็นได้ก็หายได้!! สำหรับเพื่อนๆที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่อยากให้รู้ไว้ว่ามันหายไปจากเราได้ อย่าถอดใจไปนะคะ วันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ในการรักษาโรคซึมเศร้าให้กับเพื่อนๆกัน
ก่อนอื่นใครที่กลัวการพบจิตแพทย์ขอแนะนำว่าลองเปิดใจอ่านบทความของเราสักหน่อย รับรองว่าอาจจบจะทำให้เพื่อนๆนั้นมีความกล้าที่จะไปพบจิตแพทย์เพื่อการรักษามากขึ้นแน่นอน!! ถ้าพร้อมกันแล้วไปดูเลยค่ะว่าสิ่งดีๆที่เราจะนำมาแชร์ให้กับเพื่อนๆในวันนี้นั้นมีอะไรบ้างน้าา ไปดูกันเลย
จิตแพทย์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด!
ใครที่กลัวการพบจิตแพทย์ไม่ว่าจะสาเหตุใดก็ตาม ขอให้ฟังทางนี้!!! คนส่วนใหญ่มักหลีกเลี่ยงการพบจิตแพทย์เนื่องจากคิดว่าการพบจิตแพทย์นั้นต้องเป็นอาการทางจิตหรือไม่ เราคนปกติจะไปพบทำไม?
สำหรับใครที่คิดแบบนี้อยู่ขอให้เปลี่ยนความคิดโดยด่วนน จิตแพทย์ก็คือหมอคนหนึ่งที่รักษาอาการเฉพาะทาง เหมือนแพทย์เฉพาะทางอื่นๆทั่วไป การที่เราจะพบจิตแพทย์ไม่จำเป็นว่าเราต้องมีอาการทางจิตหรืออาการคลุ้มคลั่งใดๆ
แต่เมื่อเรามีไม่สบายใจ หาทางออกไม่ได้ หรือเป็นทุกข์ เพียงเท่านี้เราก็สามารถพบจิตแพทย์ได้แล้ว จิตแพทย์จะทำการดูแลรักษาให้คำปรึกษาและหาทางออกให้เราเปรียบเสมือนคนในครอบครัวคนหนึ่งที่ห่วงใยเรา
ไม่ได้ถือเข็มฉีดยาเตรียมฉีดให้เราสลบเหมือนในหนังที่เพื่อนๆดูกันมานะคะ เพราะฉะนั้นเปลี่ยนความคิดและกล้าที่จะไปพบจิตแพทย์กันได้แล้วน้าา ส่วนการรักษาของแพทย์นั้นก็จะมีเป็นขั้นตอนตามกระบวนการ ซึ่งวันนี้เราก็จะมาเผยถึงกระบวนการเริ่มรักษาของจิตแพทย์ให้เพื่อนๆได้รู้กันจะได้ไม่ต้องกลัวกันอีกต่อไป ไปดูกันเลยค่าาา
จิตแพทย์มีขั้นตอนการรักษาอย่างไร?
เมื่อเราเข้าพบจิตแพทย์ จิตแพทย์จะมีกระบวนการรักษาดังต่อไปนี้
- พูดคุยเกี่ยวกับอาการและปัญหาที่เจอ ตรงนี้เพื่อนๆสามารถเล่าแบบใส่เต็มไม่ยั้งแบบไม่ต้องเกรงใจได้เลยนะคะ ยิ่งข้อมูลเยอะ แพทย์ก็จะยิ่งวินิจฉัยเราได้ตรงจุดมากขึ้น
- แพทย์จะทำการวินิจฉัยอาการหลังจากฟังเรื่องราวอาการของเราเสร็จ โดยหากพบว่าเรานั้นเข้าขั้นเป็นโรคซึมเศร้าแพทย์ก็จะวินิจฉัยว่าเรานั้นเป็นซึมเศร้าประเภทไหน เพื่อการรักษาต่อไป
- เมื่อวินิจฉัยโรคแล้วแพทย์จะเริ่มรักษาด้วยการให้ยาไปทาน และให้คำแนะนำในการใช้ชีวิต จากนั้นอาจนัดมาดูอาการ 2-3 อาทิตย์เพื่อดูปฏิกิริยาของเราว่ายาที่ใช้รักษานั้นได้ผลกับเราหรือไม่ หากยังไม่ดีขึ้นแพทย์อาจจะสั่งเพิ่มขนาดยาเพื่อให้ได้ผลดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
เห็นไหมคะเพื่อนๆว่าการพบจิตแพทย์นั้นไม่ได้มีความน่ากลัวเลย เหมือนเราได้ไประบายให้คนที่พร้อมจะรับฟังเราในทุกๆเรื่องอีกต่างหาก การพบจิตแพทย์ไม่ใช่เรื่องน่าอาย การทำให้ตัวเองดีขึ้นไม่ใช่เรื่องผิด
เพราะฉะนั้นอะไรที่ทำให้เรารู้สึกดีและสบายใจขึ้นได้จงทำนะคะเพื่อนๆ จิตแพทย์ก็เป็นคนหนึ่งที่ห่วงใยเราเช่นกัน เพราะฉะนั้นไปค่ะไปพบจิตแพทย์กันนน เอ๊ะ!แล้วจะพบจิตแพทย์ได้ที่ไหนบ้างล่ะ????
ไม่ต้องห่วงไปค่ะเพื่อนๆวันนี้เรามี 20 โรงพยาบาลที่รักษาโรคซึมเศร้าที่มีจิตแพทย์คอยให้คำปรึกษาเราอยู่มาแนะนำให้เป็นตัวเลือกแก่เพื่อนๆ ถ้าอยากรู้ว่ามีที่ไหนบ้างไปดูกันเลยย
40 โรงพยาบาลรักษาโรคซึมเศร้า มาเล่าให้หมอฟังกันเถอะ!
ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
- โรงพยาบาลพระราม 2
- โรงพยาบาลบางปะกอก 9
- โรงพยาบาลเซ็นต์หลุยส์
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์
- โรงพยาบาลศิริราช
- โรงพยาบาลนนทเวช
- โรงพยาบาลรามคำแหง
- โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
- โรงพยาบาลหัวเฉียว
- โรงพยาบาลกรุงเทพ
- โรงพยาบาลบางมด
- โรงพยาบาลแพทย์รังสิต
- โรงพยาบาลวิชัยยุทธ
- โรงพยาบาลสุขสวัสดิ์
- โรงพยาบาลศิครินทร์
- โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ
- โรงพยาบาลพระราม 9
- โรงพยาบาลเปาโล
- โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
- โรงพยาบาลนครธน
ในต่างจังหวัด
- โรงพยาบาลสมิติเวช ชลบุรี
- โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา
- โรงพยาบาลศรีสะเกษ
- โรงพยาบาลจิตเวชนครสวรรค์ราชนครินทร์
- โรงพยาบาลจิตเวชสระแก้วราชนครินทร์
- โรงพยาบาลศูนย์ตรัง
- โรงพยาบาลยะลา
- โรงพยาบาลพัทลุง
- โรงพยาบาลระยอง
- โรงพยาบาลนครสวรรค์
- โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
- โรงพยาบาลสกลนคร
- โรงพยาบาลปากช่อง
- โรงพยาบาลราชบุรี
- โรงพยาบาลน่าน
- โรงพยาบาลลำปาง
- โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
- โรงพยาบาลอุตรดิตถ์
- โรงพยาบาลบ้านโป่ง
- โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์
เป็นอย่างไรคะเพื่อนๆ มีทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑลและในต่างจังหวัด ใครใกล้ที่ไหนไปที่นั่นได้เลยน้า รู้ทันโรคซึมเศร้าแล้วอย่าให้มันมาคุกคามเราน้าา
บทสรุปสถานที่รักษาโรคซึมเศร้า
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่รักษาโรคซึมเศร้า วันนี้เราก็มีมาแนะนำเพื่อนๆถึง 40 ที่ด้วยกันไม่ว่าจะเป็นทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด สำหรับใครที่มีเรื่องเครียดหรือคิดว่าตนเองนั้นเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่
อย่ากลัวที่จะพบจิตแพทย์กันเลยนะคะเพื่อน เราขอยืนยันอีกครั้งว่าการพบจิตแพทย์นั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด และไม่จำเป็นต้องเราให้อาการหนัก เพียงเรามีเรื่องไม่สบายใจหรือหาทางออกไม่ได้ก็สามารถเข้าพบจิตแพทย์กันได้เลยน้าาา เพื่อสุขภาพจิตที่ดีของเรานั้นเองงง
Write a comment