
การแว๊กขนขาโดยปกติแล้วต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นหลักร้อย หรือถ้าทำทั้งขาก็ต้องเสียประมาณพันสองพัน และต้องทำทุก 1-2 เดือน ไหนจะแว๊กบริเวณอื่นๆร่วมอีก ก็คงต้องใช้เงินไม่ใช่น้อยเลยนะคะ หลายคนจึงหันมาลองแว๊กเองซะเลย มีทั้งการทำแว๊กด้วยสูตรยอดนิยมอย่างการเคี่ยวน้ำตาลกับน้ำผึ้ง
หรือจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทั้งแวกซ์ร้อนและแวกซ์เย็นที่มีให้เลือกมากมาย แต่การแวกซ์ด้วยวิธีเหล่านี้อาจไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรหากเพื่อนๆเตรียมผิวไม่ถูกวิธี เพราะฉะนั้นก่อนจะลงมือแว๊ก เราไปดูกันดีกว่าว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
เตรียมตัวก่อนอย่างไรก่อนแว๊กขน

เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นการแว๊กร้อนหรือเย็น เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลา และไม่เลอะเทอะ โดยควรทดสอบอาการแพ้ก่อนทุกครั้ง ถ้าเป็นแว๊กร้อน ก็ต้องเช็คอุณหภูมิให้อุ่นลงหน่อย ไม่อย่างนั้นจะทำให้ผิวพองหรือไหม้ได้
ตรวจดูสภาพผิวว่าแข็งแรงพอ ไม่มีแผล ผื่นแพ้ หรือการอักเสบใดๆ ถ้ามีควรรอให้หายดีก่อนนะคะ
ทำความสะอาดผิว เพื่อให้รูขุมขนขยายตัว เส้นขนมีความอ่อนนุ่ม และแว๊กก็จะสามารถติดกับผิวได้ดียิ่งขึ้น ทำให้เส้นขนหลุดออกมาได้ง่ายและเจ็บน้อยลงด้วยค่ะ ที่สำคัญหลังจากทำความสะอาดแล้ว อย่าลืมเช็ดให้แห้ง แล้วทาแป้งตาม เพื่อช่วยดูดซับความมันและความชิ้นออกจากผิวก่อนลงแว๊กนะคะ

ขัดผิวเบาๆ เพื่อผลัดเซลล์ผิว ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เส้นขนหลุดออกมาได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังเป็นการป้องกันรูขุมขนอุดตัน และการเกิดขนคุดหลังแว๊กได้อีกด้วย แต่ห้ามขัดแรงนะคะ จะทำให้แสบเมื่อลงแว๊กได้
ไม่ควรโกน ถอน หรือเลเซอร์ขนมาก่อน เพราะผิวจะยังบอบบางอยู่ ยิ่งไปแว๊กเพิ่มจะทำให้ผิวเกิดการอักเสบได้ นอกจากนี้เส้นขนก็ควรมีความยาวพอประมาณ อย่างน้อยครึ่งนิ้ว เพื่อให้ง่ายต่อการดึง
การทาแว๊กควรทาตามแนวขน
แต่เวลาดึงแว๊กควรดึงย้อนแนวขนนะคะ
วิธีดูแลผิวหลังแว๊กขน

ประคบเย็น และทาเจลว่านหางจระเข้ เพื่อลดอาการระคายเคืองที่เกิดจากการที่เรากระชากเส้นขนออกมา ทั้งยังช่วยให้รูขุมขนกระชับและผิวดูเรียบเนียนขึ้นอีกด้วย ควรเลี่ยงครีมบำรุงหรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอล์นะคะ
ควรงดการสครับผิว อาบหรือแช่น้ำร้อน ซาวน่า ลงทะเล ออกกำลังกาย ทำกิจกรรมหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองมากกว่าเดิม เพราะเป็นช่วงที่ผิวบอบบาง ต้องให้เวลาฟื้นฟูหน่อยนะคะ แต่หลังจาก 2-3 วัน เมื่อผิวกลับมาแข็งแรงดีแล้ว ควรสครับเบาๆเพื่อป้องกันการเกิดขนคุด

หลังจากแว๊กใหม่ๆ ไม่ควรตากแดด เพราะอาจทำให้เกิดอาการแสบผิวได้ หรือถ้าจำเป็นก็ควรทาครีมกันแดดไว้ด้วยนะคะ
ถ้าเกิดอาการคัน ห้ามเกาเด็ดขาดนะคะ ให้ทาเจลว่านหางจระเข้จนกว่าอาการจะดีขึ้น แต่หากมีอาการคันรุนแรง เป็นผื่นหรือตุ่มแดง อาจเกิดจากการแพ้แว๊กก็เป็นได้ ให้รีบไปพบแพทย์เลยค่ะ

เอาล่ะค่ะเมื่อเพื่อนๆทราบแล้วว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ทีนี้ก็ถึงคิวอุปกรณ์หลักของเราอย่างครีมแว๊กขนนั่นเอง!! ปัจจุบันมีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อมากเลยนะคะ จะมียี่ห้อไหนเด็ดบ้าง ตามมาดูเลยค่าาาา
ขอแนะนำ 6 ครีมแว๊กขนขา ราคาเบาๆ
ดีมากค่ะ ไม่แพ้ ใช้ง่ายสะดวกมากค่ะ ยิ่งเวลาไปต่างจังหวัด มันยิ่งสะดวกมาก ถูกกว่าทำที่ร้านด้วย แนะนำๆค่ะ รีวิวจาก Facebook คุณ MC Nammon อ่านรีวิวเพิ่มเติมคลิกที่นี่
บทสรุปครีมแว๊กขนขา
ปัจจุบันครีมแว๊กขนมีหลากหลายยี่ห้อเลยนะคะ โดยส่วนมากจะทำมาจากน้ำผึ้ง หรือน้ำตาล เป็นหลัก ซึ่งโดยคุณสมบัติปกติของน้ำผึ้งก็จะช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้นอยู่แล้ว เมื่อนำมาใช้เป็นส่วนผสมหลักในแว๊กจึงช่วยลดการระคายเคืองไปด้วยในตัว
อย่างไรก็ตามหลายคนลองซื้อมาใช้แล้วพบว่าไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร ดึงแล้วขนไม่ออกบ้าง ดึงแล้วเจ็บบ้าง ส่วนหนึ่งเพื่อนๆต้องลองทบทวนดูนะคะว่าเราแว๊กขนอย่างถูกวิธีหรือไม่ มีการเตรียมผิวก่อนการแว๊กที่ถูกต้องหรือเปล่า ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดขนคุดหรือการอักเสบจากการดึงที่ผิดวิธีได้นะคะ