อาการแพ้ท้องเมื่อตั้งครรภ์ 10 สัปดาห์

สวัสดีนะคะคุณแม่ทั้งมือใหม่และเก่า วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องอาการแพ้ท้องที่คนท้องใหม่ ๆ หรือช่วงไตรมาสแรกต้องเจอ ว่ามันเป็นเพราะอะไรถึงต้องแพ้ท้อง

บางคนแทบจะไม่ต้องเตรียมตัวอะไร ไม่มีอาการแพ้หรืออะไรเลยด้วยซ้ำ หรือคุณแม่หลายคนอาจจะสงสัยว่าเป็นเพราะอะไรท้องคนที่ 2 แพ้หนักมาก คนแรกไม่เป็นอะไรเลย และอาการแพ้ท้องหนัก ๆ

จะทำให้เสี่ยงแท้งลูกจริงหรือไม่ ตามหาสาเหตุไปพร้อม ๆ กันได้ที่นี่

อาการแพ้ท้องเกิดจากอะไร

ยังไม่มีข้อมูลที่ระบุได้แน่นอนว่าอาการแพ้ท้องที่คุณแม่ตั้งครรภ์ 10 สัปดาห์ต้องเจอเกิดจากสาเหตุใด เพราะมันเกิดได้จากหลายสาเหตุมาก

เนื่องจากฮอร์โมนที่ขึ้นเหมือนกันแต่คุณแม่มีเอฟเฟคที่ต่างกันก็คืออาการตางกันออกไปนั่นเอง บางรายแพ้ บางรายไม่แพ้เลยทั้ง ๆ ที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงเหมือนกัน และอาการแพ้ท้องมักจะเกิดกับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ 4 – 20 สัปดาห์ เรามาดูข้อสังเกตที่สามารถเป็นไปได้กันดีกว่า

1. ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพิ่มขึ้น

ซึ่งสาเหตุนี้ทำให้กล้ามเนื้อระบบทางเดินอาหารคลายตัวลง ทำให้คุณแม่เป็นกรดใหลย้อน น้ำย่อยไหลย้อนกลับที่หลอดอาหารได้ง่ายขึ้นและทำให้คุณแม่รู้สึกพะอืดพะอม มีอาการอยากอาเจียนตลอดเวลาหลังรับทานประทานอาหาร

2. พันธุ์กรรม

เป็นอากาที่ส่งต่อจากแม่สู่ลูก ก็คือครั้งที่คุณยายตั้งท้องก็มีอาการแพ้ท้อง คุณแม่เมื่อตั้งท้องเองก็อาจมีลักษณะเดียวกัน

3. ไม่ยอมทานอาหารเมื่อหิว

เมื่อท้องจะมีความรู้สึกที่หิวบ่อย และถ้าไม่ได้ทานอาหารเมื่อหิวก็จะทำให้มึนหัว น้ำตาลในเลือดต่ำ ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ 10 สัปดาห์มีอาการคลื่นใส้และเกิดอาการแพ้ท้องได้

แต่ทั้งหมดนี้ไม่เป็นอันตรายหรือส่งผลกระทบถึงลูกน้อยในครรภ์เลยแม้แต่น้อย คุณแม่ไม่ต้องกังวลเลยค่ะเพราะอาการเหล่านี้จะกระทบกิจวัตรประจำวันของคุณแม่คนเดียวเท่านั้น

แต่ถึงยังไงแล้วก็ควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อส่งเสริมพัฒนาการและการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์ที่กำลังเจริญเติบโตในท้องของคุณแม่

อาการแพ้ท้องตอนตั้งครรภ์ 10 สัปดาห์เสี่ยงแท้งลูกในท้อง จริงหรือไม่?

จากที่กล่าวไปด้านบน การแพ้ท้องไม่ได้ทำให้คุณแม่เสี่ยงแท้งลูกน้อยในครรภ์ แม้ว่าคุณแม่จะตั้งครรภ์ 10 สัปดาห์ก็ตาม หมดกังวลเรื่องแพ้ท้องจะเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้เลย แต่ต้องพึงระวังจากสาเหตุเหล่านี้

1. โครโมโซมผิดปกติ

เนื่องจากการเรียงตัวของโครโมโซมและดีเอ็นเอไม่สมบูรณ์ (มีมากเกินไปหรือมีน้อยเกินไป) ทำให้ลูกน้อยในครรภ์ไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างปกติ และก็แท้งในที่สุด แต่การแท้งเพราะโครโมโซมผิดปกติ 2 ใน 3

จะไม่กลับมาแท้งเพราะสาเหตุนี้อีกเป็น และสาเหตุที่ทำให้โครโมโซมผิดปกติก็ยังไม่สามารถหาที่มาที่ไปได้แน่ชัดแต่ไม่ได้เกิดขึ้นจาก โครโมโซมคุณพ่อคุณแม่แต่อย่างใด

2. สูบบุหรี่ระหว่างตั้งครรภ์

สารนิโคตินเป็นอันตรายต่อทั้งแม่และเด็ก สารนิโคตินจะทำให้เลือดหดตัวและทำให้ลูกน้อยในครรภ์ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอและสารนิโคตินยังไปกระตุ้นให้ลูกน้อยในครรภ์มีอาการปากแหว่ง เพดานโหว่ เป็นโรคหอบหืด ซ้ำร้ายการสูบบุหรี่ระหว่างตั้งครรภ์สามารถทำให้คุณแม่แท้งลูกได้ ควรงดเมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์

3. ดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างตั้งครรภ์

สาเหตุนี้ก็ส่งผลเสียไม่ต่างจากการสูบบุหรี่ เพราะแอลกอฮอล์ส่งผลกระทบต่อลูกน้อย ทำให้เกิดความผิดปกติทางใบหน้า แขน ขา นิ้ว และหัวใจ มากไปกว่านั้นยังส่งผลถึงระบบประสาท สมอง สติปัญญาและพฤติกรรม ดังนั้นอย่าทำร้ายกันตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้ากันเลยนะคะ ลดไม่ได้ก็ต้องลด ปริมาณแอลกอฮอล์ที่น้อยนิดก็มีผลกระทบสูง

4. คุมแม่อุ้มท้องตอนอายุมาก

ลูกน้อยมีเปอร์เซ็นสูงมากที่ลูกน้อยจะมีโครโมโซมไม่สมบูรณ์ ผู้หญิงอายุเยอะตั้งครรภ์มีความเสี่ยงสูงมากกว่าผู้หญิงอายุน้อยอยู่แล้ว

และจะเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป นั่นทำคุณแม่แท้งลูกได้ง่าย

5. เคยทำแท้งมาก่อน

มีเปอร์เซ็นสูงมากถ้าหากคุณแม่เคยทำแท้งมาก่อน เนื่องจากพนักมดลูกจะบางทำให้ลูกน้อยไม่สามารถฝังตัวได้นาน ทำให้คุณแม่สูญเสียลูกน้อยไปในที่สุด

บทสรุปของบทความ

ที่นี้คุณแม่ก็สบายใจได้แล้วว่าอาการแพ้ท้องที่คุณแม่เป็นอยู่ไม่ได้เป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ของคุณแม่ เป็นแค่อาการช่วงไตรมาสแรกที่คุณแม่ต้องเจอ แต่ยังไงก็ดูแลตัวเองดี ๆ นะคะช่วงนี้เป็นระยะระวังถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ลูกน้อยก็จะอยู่กับคุณแม่นานเลย