ในยุคสมัย 2020 นี้สิ่งที่มาแรงแซงทางโค้งเป็นอันดับต้น ๆ คือการดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรง ให้ปราศจากโรคร้าย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกทานอาหารคลีน คีโต อาหารที่รักษาสุขภาพ
รวมไปถึงการออกกำลังกายในรูปแบบต่าง ๆ ก็กำลังเป็นที่นิยมกันในคนหมู่บ้าน หันมาเข้าฟิตเนสกันมากขึ้น เพื่อให้มีรูปร่างให้สวยงาม สุขภาพแข็งแรง
และการออกกำลังกายแบบ เวทเทรนนิ่ง ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกของการออกกำลังกาย เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ทำได้ง่าย แถมยังเป็นการออกกำลังกายที่ครอบคลุมทุกสัดส่วนของร่างกายอีกด้วย
แต่รู้หรือไม่ว่าหากเล่นไม่ถูกจังหวะ เคลื่อนไหวร่างกายไม่ถูกวิธีก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน!!!
การเวทเทรนนิ่ง คืออะไร?
เวทเทรนนิ่ง เป็นการออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อชนิดหนึ่งที่อาศัยการใช้น้ำหนักเพื่อให้เกิดแรงต้านทาน โดยอาจใช้อุปกรณ์ฟรีเวท (Free Weight)
ซึ่งเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ เช่น บาร์เบล ดัมเบล หรือใช้อุปกรณ์ขนาดใหญ่ (Weight Machine) ยางยืดออกกำลังกาย
หรือจะใช้น้ำหนักร่างกายตนเองก็ได้ โดยการฝึกเวทเทรนนิ่งนี้จะให้ผลเป็นแรงตึงต่อกล้ามเนื้อ ส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดการปรับตัวและแข็งแรงขึ้นในที่สุด
ประโยชน์ของ เวทเทรนนิ่ง?
- ช่วยให้เกิดสุขภาพดี แข็งแรง
- ช่วยกำจัดไขมัน ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น เผาผลาญไขมันได้แม้ในตอนหลับ
- ช่วยให้มีรูปร่างที่สมส่วน และช่วยในการลดน้ำหนัก ไม่อ้วนง่าย
- ช่วยให้ร่างกายได้บริหารกล้ามเนื้อทุกส่วน กระดูกแข็งแรง
- ระดับคอเลสเตอรอลเลว (LDL) และไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglycerides) ในเลือดจะลดลง และร่างกายก็จะตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีขึ้น เมื่อเรากินอาหารเข้าไป สารอาหารจะถูกนำไปใช้เป็นพลังงานทันที ไม่เหลือเก็บไว้เป็นไขมัน
- ช่วยให้มีรูปร่างทรวดทรงองค์เอวที่กระชับเข้ารูป และได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น
- เหมาะกับผู้ชายที่อยากเพิ่มกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ หรือสร้างซิกซ์แพ็คบนหน้าท้อง
- ส่งผลดีต่อร่างกายโดยรวมเมื่ออายุมากขึ้น
- ช่วยลดไขมันตามอวัยวะต่างๆ ได้อย่างเห็นผล
- สำหรับผู้หญิงที่เสี่ยงมีปัญหาความหนาแน่นของกระดูกลดน้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น การเวทเทรนนิ่งจะช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก
อุปกรณ์ เวทเทรนนิ่ง มีอะไรบ้าง?
การออกกำลังกายแบบ เวทเทรนนิ่ง จำเป็นต้องมีตัวช่วยที่เพิ่มแรงต้านทานให้กับกล้ามเนื้อ ได้แก่ ดัมเบล ตุ้มน้ำหนัก อุปกรณ์ยกน้ำหนักต่างๆ
หรืออาจจะเป็นการออกกำลังกายโดยใช้น้ำหนักของตัวเองเป็นแรงต้านทานเอง อุปกรณ์สำหรับการเล่น เวทเทรนนิ่ง จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
1. อุปกรณ์ Free Weights
ซึ่งเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ เช่น ดัมเบล (Dumbbell) และคานเหล็ก (Bar Bell) เป็นต้น
2. อุปกรณ์ Weight Machines
เป็นอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เช่น Smith Machine ยางยืดออกกำลังกาย และเครื่องบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง เป็นต้น
คำแนะนำ
จะต้องเริ่มจากน้ำหนักเบาก่อน และจะต้องเริ่มต้นอย่างถูกต้อง จึงต้องมีโค้ชให้คำแนะนำ เพราะอาจเล่นผิดฟอร์ม หรือเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ รวมถึงหากออกกำลังกายผิดวิธี อาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บ กล้ามเนื้อฉีกขาด หรือถึงขั้นกระดูกหักได้
ระยะเวลา การเล่นเวทเทรนนิ่ง
- สำหรับผู้เริ่มต้นในการออกกกำลังกายแบบ เวทเทรนิ่ง แนะนำให้ใช้เวลาเพียง 20 – 30 นาทีต่อวัน 3 – 4 วันต่อสัปดาห์ ก็เพียงพอแล้ว แนะนำให้ทำควบคู่กับการคาร์ดิโอ เพื่อเร่งให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น
- หากต้องการสร้างกล้ามเนื้อ แนะนำให้ทำประมาณ 8 – 12 ครั้งต่อเซ็ท และไม่ควรทำต่ำกว่า 2 เซ็ต ไม่ควรเกินวันละ 4 เซ็ท
- น้ำหนักที่ใช้ยก สำหรับผู้ที่เริ่มต้นควรเริ่มจามน้ำหนักเบา ๆ ก่อน เน้นน้ำหนักที่ไม่หนักมาก จากนั้นค่อยเพิ่มน้ำหนักขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามที่ร่างกายเราไหว
ศัพท์พื้นฐาน “การเล่นเวทเทรนนิ่ง” ที่ควรรู้
คือน้ำหนักที่เราใช้น้ำหนักมาก ทำให้เรายกจำนวนครั้งได้น้อย ดังนั้น น้ำหนักที่ใช้ จะสัมพันธ์กับจำนวนครั้งที่เรายกได้
คือจำนวนครั้งที่เรายกได้ หรือเลือกที่จะยก
เป็นจำนวน “ยก” เช่นถ้าเรายก 10 reps แล้วพัก นั่นคือ 1 set = 10 reps
ระยะเวลาในการพักต่อ set
ความถี่ในการฝึก เช่น อาทิตย์ละ 4 ครั้ง และฝึกกล้ามเนื้อมัดละ 1 ครั้งต่ออาทิตย์
ความเข้มข้นในการฝึก ยิ่งพักน้อยและใช้น้ำหนักเยอะขึ้น เท่ากับการฝึกซ้อมนั้นๆ เข้มข้นขึ้น
คือ จำนวน หรือปริมาณในการฝึกในแต่ละท่า หรือกล้ามเนื้อแต่ละส่วน
คือน้ำหนักที่เรายกได้ 1 ครั้งที่ดีที่สุด เป็นสถิติ เอาไว้วัดว่าครั้งต่อๆ ไปเราควรจะเล่นเท่าไหร่ดี
ทั้งหมดนี้ก็คือคำตอบที่ ทาง beauty.worthen-life.com ได้รวบรวมข้อมูลเพื่อให้เพื่อน ๆ ทุกคนได้หายสงสัยกันแล้วนะคะ หากเพื่อน ๆ อยากมีสุขภาพที่แข็งแรง และรูปร่างที่สวยงาม ก็อย่าลืมออกกำลังกายควบคู่ไปกับการเวทเทรนนิ่งด้วยนะคะ
Write a comment