วันนี้ beauty.worthen-life.com จะพาเพื่อน ๆ ทุกคนมาทำความรู้จักกับการออกกำลังกายแบบ “คาร์ดิโอ” (Cardio) ซึ่งเชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงเคยได้ยินการออกกำลังกายแบบนี้กันอยู่บ่อย ๆ และก็คงมีบางส่วนที่ยังมีข้อสงสัยอยู่ว่า
การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอนั้นคือการออกกลังกายแบบไหน? แล้วมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร? เคยได้ยินมาหลายทฤษฎีบอกว่า การทำคาร์ดิโอต่อเนื่อง 30 นาทีขึ้นไปนั้น จะสามารถทำให้ร่างกายของเราดึงเอาไขมันมาใช้ ข้อนี้จริงหรือไม่?
วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลมาตอบคำถามเพื่อน ๆ ให้หายสังสัย และแถมด้วยมีคำแนะนำดี ๆ มาฝากเพื่อน ๆ กันค่ะ พร้อมแล้ว…ไปเริ่มกันเลย!!!
คาร์ดิโอ คืออะไร?
การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ กล่าวคือ เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก โดยเน้นให้ร่างกายของเรานั้นได้มีการขยับเขยื้อนอย่างสม่ำเสมอ
มีจุดมุ่งหมายหลักในการเสริมสร้างความแข็งแรงของหัวใจ กระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นประมาณ 50 – 70% (หรือมากกว่า) ของอัตราการเต้นสูงสุด
ซึ่งการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอนั้น จะช่วยส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้น ช่วยให้ระบบหลอดเลือดหัวใจแข็งแรง และที่สำคัญจะช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกายอย่างได้ผล
คาร์ดิโอ แบ่งได้กี่ประเภท?
สามารถแบ่งการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ได้ทั้งหมด 2 ประเภท ได้แก่
- คาร์ดิโอแบบ HIIT (High Interval Training)
- คาร์ดิโอแบบ LISS (Long Intensity Steady State)
-
คาร์ดิโอแบบ HIIT (High Interval Training)
เป็นการออกกำลังกายที่ใช้เวลาไม่นาน แต่สามารถเผาผลาญไขมันได้ดีและต้องใช้แรงเป็นอย่างมากในการออกกำลังกายแบบ คาร์ดิโอประเภท HIIT อาจจะมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บในระหว่างการออกกำลังกายได้
โดยการออกกำลังกายคาร์ดิโอ ในรูปแบบของ HIIT จะเป็นการออกกำลังกายแบบหนักสลับกับเบา เช่น การวิดพื้น ซิทอัพ วิ่ง
- ข้อดีของการคาร์ดิโอ แบบ HIIT
- ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดียิ่งขึ้น
- การออกกำลังกายแบบ HIIT ใช้เวลาในการออกกำลังกายไม่นาน แต่สามารถดึงไขมันในร่างกายมาใช้พลังงานได้อย่างมาก
- ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ
- ช่วยทำให้อินซูลีนทำงานได้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลที่ไม่ดี และช่วยเพิ่มโคเลสเตอรอลที่ดีแกร่างกายได้
- ข้อเสียของการคาร์ดิโอ แบบ HIIT
ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มออกกำลังกายในช่วงแรก ๆ เพราะเนื่องจากการออกกำลังกายแบบ HIIT นี้เป็นการออกกำลังกายที่ใช้แรงเป็นอย่างมาก อาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้
- ตัวอย่างการคาร์ดิโอ แบบ HIIT (เริ่มต้นด้วยการวอร์มอัพ 5 นาที)
การออกกำลังกายที่จะยกตัวอย่างให้เห็นต่อไปนี้ เพื่อน ๆ ทุกคนควรที่เจะเริ่มต้นด้วยการ วอร์มอัพ (Warm up) ก่อนสัก 5 นาทีนะคะ จากนั้นให้เริ่มออกกำลังกายคาร์ดิโอ แบบ HIIT ได้เลย
สามารถทำได้หลายครั้งตามที่ร่างกายรับไหวนะคะ และหลังจากที่เพื่อน ๆ ออกกำลังกายคาร์ดิโอ แบบ HIIT เสร็จแล้วนั้นก็อย่าลืมที่จะ Cool down เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อด้วยนะคะ
- การวิ่ง 5 นาที โดยให้วิ่งเร็ว 15 วินาที แล้วจากนั้นสลับกับ การวิ่งเหยาะ ๆ 30 วินาที ทำแบบนี้สลับกันไปเรื่อย ๆ จนครบ 5 นาที
- ซิทอัพ 50 ครั้ง สลับกับการพัก 30วินาทีไปเรื่อย ๆ จนครบ 5 นาที
- วิดพื้น 30 ครั้ง สลับกับการพัก 30 วินาที ไปเรื่อย ๆ จนครบ 5 นาที
- กระโดดสคอวท 40 ครั้ง (Jump Squats) สลับกับการพัก 30 วินาที ไปเรื่อย ๆ จนครบ 5 นาที
-
คาร์ดิโอแบบ LISS (Long Intensity Steady State)
เป็นการออกกำลังกายแบบต่อเนื่อง เป็นเวลานามากกว่า 30 นาทีขึ้นไป ไม่เน้นการใช้แรงมาก แต่จะเน้นความต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจให้คงที่และต่อเนื่องไม่เกิน 50 % ของการเต้นของหัวใจสูงสุด
และรักษาระดับการเต้นของหัวใจนั้นไว้อย่างน้อย 40 – 60 นาที ร่างกายถึงจะสามารถดึงไขมันออกมาใช้ของเราเป็นพลังงานในการเผาผลาญได้ค่ะ
- ข้อดีของการคาร์ดิโอ แบบ LISS
- ลดไขมันได้
- ทำได้ง่ายกว่า HIIT และบ่อยกว่า
- สามารถทำกิจกรรมอื่นควบคู่ไปด้วย เช่น การวิ่งอยู่บนลู่วิ่งแล้วดูโทรทัศน์ไปพร้อมกัน
- ไม่เสี่ยง Overtraining
- ข้อเสียของการคาร์ดิโอ แบบ LISS
- ใช้เวลานานในการออกกำลังกาย
- ถ้าหากร่างกายเริ่มปรับตัวแล้ว น้ำหนักจะลดลงช้า
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับคำตอบที่ทาง beauty.worthen-life.com ได้รวบรวมมาให้ หวังว่าเพื่อน ๆ ทุกคนจะนำไปปรับใช้ และเลือกกิจกรรมการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับตัวเองนะคะ เพื่อให้มีสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากโรคร้าย แถมยังมีรูปร่างที่กระชับ สวยงามกันอีกด้วย
Write a comment