ตั้งครรภ์….มันอาจเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของสาวๆและคุณสามีเมื่อได้เห็นผลตรวจการตั้งครรภ์ เจ้าตัวน้อยที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของคนทั้งสองได้มาอยู่ในพุงของแม่แล้ว!
แต่สำหรับคุณแม่มือใหม่ท้องแรกคงยังไม่ค่อยรู้ว่าการตั้งครรภ์ระยะแรกเป็นอย่างไร จะมีความรู้สึก มีอาการอย่างไร มีลักษณะอย่างไร ใครที่กำลังลุ้นมีน้อง เตรียมเช็คลิสต์กันได้เลยเมื่ออ่านบทความนี้จบ
รู้ทัน #5 สัญญาณการตั้งครรภ์ระยะแรก
1. ประจำเดือนขาด หรือพูดแบบบ้านๆก็คือ เมนส์ไม่มา หากประจำเดือนขาดเกิน 10 วัน ถือเป็นสัญญาณที่สามารถบ่งชี้ได้ว่ามีเจ้าตัวน้อยมาอยู่ในครรภ์แล้ว เนื่องจากว่าเมื่อเกิดกระบวนการตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่จะผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่ยับยั้งไม่ให้ผนังมดลูกลอกตัวออกมา ทำให้ไม่มีประจำเดือนนั่นเอง
2. มีตกขาวมากและมีเลือดซึมออกจากช่องคลอด เนื่องจากว่าฮอร์โมนปรับสูงขึ้นมากเมื่อมีการตั้งครรภ์ จึงเกิดการผลิตตกขาวที่มากกว่าปกติ แต่ตกขาวที่ว่าต้องเป็นสีขาวนะคะ หากเป็นสีเขียวหรือสีเหลือง คุณแม่ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที เช่นเดียวกับถ้าหากมีอาการเลือดไหลไม่หยุด รวมถึงมีอาการปวดเกร็งร่วมด้วย อาจเป็นภาวะที่เสี่ยงแท้ง ต้องรีบพบแพทย์โดยด่วน
3. หน้าอกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด หัวนม ฐานนมมีสีเข้มขึ้น เต้านมมีขนาดใหญ่ขึ้น มีอาการคัดตึง สามารถสังเกตเห็นเส้นเลือดที่ขยายขึ้น รู้สึกว่าเซ้นซิทีฟต่อการสัมผัส นั่นคือสัญญาณของการตั้งครรภ์ค่ะ
4. ปัสสาวะถี่ขึ้น เนื่องจากว่ามีของเหลวในร่างกายมากกขึ้น ในมดลูกมีเลือดไปเลี้ยงมากขึ้นทำให้มีการขยายขนาดและเกิดการกดทับกระเพาะปัสสาวะและทำให้ไตทำงานหนักขึ้น เกิดการกลั่นปัสสาวะมากขึ้นทำให้คุณแม่เข้าห้องน้ำบ่อยขึ้นนั่นเอง
5. คลื่นไส้ อารมณ์แปรปรวน อ่อนเพลีย เนื่องจากว่าระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง มีการใช้พลังงานอย่างมากเพื่ออีกหนึ่งชีวิตในครรภ์ทำให้คุณแม่รู้สึกเหนื่อยง่ายกว่าปกติ โดยฮอร์โมนที่ปรับสูงขึ้นยังส่งผลต่ออารมณ์ของคุณแม่ทำให้หงุดหงิดง่าย เซ้นซิทีฟ ร้องไห้ง่าย
เช็ค #6 ความรู้สึกของว่าที่คุณแม่เมื่อตั้งครรภ์ระยะแรก
1. รู้สึกหวาดกลัว หากคุณแม่มีความรู้สึกวิตกกังวล แพนิค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแท้งหรือเรื่องอื่นๆ ถือเป็นเรื่องธรรมดาอย่างยิ่งในช่วงระยะแรกของการตั้งครรภ์ แต่เมื่อผ่านช่วง 3 เดือนไปแล้วจะรู้สึกดีขึ้นเองค่ะ ไม่ต้องเครียดว่าตัวเองผิดปกติหรือไม่ดีพอนะคะ
2. รู้สึกว่าตัวเองเข้าห้องน้ำบ่อยกว่าปกติ คุณแม่บางท่านอาจเข้าห้องน้ำน้อยเมื่อตอนยังไม่ตั้งครรภ์ แต่เมื่อมีเจ้าตัวน้อยมาในท้องเลือดจะเริ่มส่งไปหล่อเลี้ยงบริเวณมดลูกมากขึ้น ซึ่งทำให้กระเพาะปัสสาวะถูกกดทับ
3. รู้สึกง่วงนอน อ่อนเพลีย ในบางรายอาจเกิดอาการเวียนหัว ทั้งนี้เพราะระดับน้ำตาลในเลือดของคุณแม่ต่ำลงนั่นเอง
4. รู้สึกคลื่นไส้ เกือบร้อยทั้งร้อยของคู่สามีภรรยาเมื่อมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน จะไม่ค่อยคิดเป็นอื่นนักนอกจากเป็นอาการแพ้ท้อง คุณแม่บางท่านอาจแพ้แค่ช่วงเช้า แต่บางท่านก็แพ้ท้องตลอดทั้งวัน ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
5. รู้สึกขี้หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวนหรือรู้สึกเซ้นซิทีฟ บ่อน้ำตาตื้น อาการนี้อาจคล้ายกับช่วงก่อนมีประจำเดือนแต่หากเป็นการตั้งครรภ์ คุณแม่จะไม่มีประจำเดือนแล้ว
6. รู้สึกว่าหน้าอกเปลี่ยนไป โดยคุณแม่จะเริ่มมีอาการคัดตึงเต้านม รู้สึกเซ้นซิทีฟกับบริเวณหน้าอกมากกว่าตอนปกติ จุดสังเกตที่สำคัญ คือ ฐานหัวนมและบริเวณหัวนมจะมีสีเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ
#4 วิธีดูแลตัวเองเมื่อตั้งครรภ์ระยะแรก
1. อันดับแรกที่ควรทำเมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์ระยะแรก คือ การไปฝากครรภ์ เพื่อที่จะให้การตั้งครรภ์ในครั้งนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์นะคะ
2. เมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์ระยะแรก ควรระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม เนื่องจากว่าบางอย่างนั้นอาจเป็นของแสลง ไม่ควรรับประทานเลยเพื่อสุขภาพของแม่และความปลอดภัยของลูกน้อยในครรภ์
3. ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเบาๆ ดูแลสุขภาพให้มากขึ้นกว่าเก่า ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดให้ได้ตามปริมาณที่แนะนำ
4. ควรจัดเตรียมของที่จำเป็น เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินอะไรระหว่างตั้งครรภ์หรือเปล่า ทางทีดีควรเตรียมให้พร้อมทุกสถานการณ์ค่ะ
สรุปผล ตั้งครรภ์ระยะแรก
จะเห็นได้ว่าอาการที่เป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ระยะแรกนั้นสังเกตง่ายมาก เพียงแค่คุณแม่หันมาใส่ใจรายละเอียดกันสักนิดก็จะปฏิบัติตัวรอต้อนรับสมาชิกใหม่ได้ทันที ทั้งนี้การตั้งครรภ์สำคัญที่สุดในคือ การดูแลตัวเองของคุณแม่ ไม่ควรเครียดหรือคิดมากจนเกินไป อยากให้ยิ้มแย้มแจ่มใสเพื่อให้การตั้งครรภ์คร้ังนี้ดำเนินไปอย่างดีเยี่ยมนะคะ
Write a comment