ท้อง 4 เดือนแต่ปวดหลังสุด! ปัญหานี้เกิดจากอะไร? มีทางออกไหม? พร้อมทั้งเคล็ด(ไม่)ลับ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์คลิ๊กด่วน!
การจะเป็นคุณแม่นั้นไม่ง่ายเลยใช่ไหมคะ เพราะระหว่างตั้งครรภ์นั้นคุณแม่แต่ละคนก็มีอาการแตกต่างกันไป บางคนก็อาเจียนหนัก อยากอาหารแปลก เท้าบวมและอื่นๆอีกมากมาย แต่อีก 1 อาการยอดฮิตของคุณแม่หลายๆคนคือ อาการปวดหลัง ที่มักมีอาการนี้ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป
คุณแม่หลายๆคนคงสงสัยว่า ปวดหลังเนี่ย สาเหตุเกิดจากอะไร วิธีการบรรเทาอาการปวดหลังสำหรับคุณแม่ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในช่วงนี้สามารถทำอย่างไรได้บ้าง อีกทั้งเรายังมี เคล็ด (ไม่) ลับมาฝากคุณแม่อีกด้วย อยากรู้แล้ว ไปดูกันเลย!
สาเหตุของอาการปวดหลังของคุณแม่ตั้งครรภ์
คุณแม่ตั้งครรภ์แต่ละคนก็จะมีปัญหาสุขภาพแตกต่างกัน แต่ที่ปฎิเสธไม่ได้เลยคือปัญหาปวดหลัง ยิ่งอายุครรภ์มาก ก็ยิ่งปวดมาก โดยปกติแล้ว อายุครรภ์ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป เบบี๋ในครรภ์จะดึงเอาธาตุเหล็กแคลเซียมจากกระดูกสันหลังคุณแม่ไปใช้ในการสร้างกระดูกและฟัน อีกทั้งกระดูกสันหลังคุณแม่ระหว่างตั้งครรภ์ก็เกิดการขยับขยายและนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณแม่ปวดหลังนั่นเองค่ะ
วิธีการบรรเทาอาการปวดหลังของคุณแม่ตั้งครรภ์
วิธีการแก้ปัญหาการปวดหลังของคุณแม่ตั้งครรภ์มีมากมายหลากหลายวิธีเลยนะคะ วันนี้เราจึงได้รวบรวม 5 วิธีการรับมือกับอาการปวดหลังมาฝากคุณแม่ตั้งครรภ์ ไปดูกันเลยยยย
#2 ลองสวมใส่อุปกรณ์ช่วยพยุงช่วงท้อง
#3 ลองเปลี่ยนฟูกนอนอันใหม่
#4 เปลี่ยนท่านอน
#5 หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูง
การเปลี่ยนแปลงของคุณแม่ท้อง 4 เดือน
ไม่เพียงแต่จะมีอาการปวดหลังเท่านั้นนะคะ แต่คุณแม่อายุครรภ์ 4 เดือนก็มีการเปลี่ยนแปลงทางร่ายกายเยอะแยะมากมายค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการมีสิวหรือจุดด่างดำบนใบหน้าที่เกิดจากฮอร์โมนของร่างกายคุณแม่ที่เปลี่ยนแปลงไป ปัญหาเกี่ยวกับทางเดินอาหารทั้งจุกเสียดท้อง อาหารไม่ย่อย ปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น
โดยปกติอายุครรภ์ 4 เดือนจะมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นประมาณ 1.5-2 กิโลกรัมและมีอาการอยากอาหารขึ้นเป็นเรื่องปกติค่ะ ปัญหาที่พบบ่อยอีกหนึ่งก็คือการติดเชื้อที่กะเพราะปัสสาวะ ในช่วงนี้คุณแม่จะติดเชื้อในกะเพราะปัสสาวะได้ง่าย เยอะแยะมากมายเลยใช่ไหมล่ะคะสำหรับปัญหาที่พบบ่อยๆในคุณแม่ตั้งครรภ์
เคล็ด (ไม่) ลับ ฉบับคุณแม่ท้อง 4 เดือน
– รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น อาหารที่มีโปรตีน เช่นเนื้อไก่ ไข่ และอาหารทะเล อาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก เช่น ตับ เลือด ไข่แดง อีกทั้งต้องอย่าลืมรับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืช และดื่มนมเป็นประจำด้วยนะคะ
– ไปพบแพทย์ตามนัดฝากครรภ์ทุกครั้ง ข้อนี้เป็นอีกข้อที่สำคัญ ห้ามมองข้ามเด็ดขาด เพราะการไปพบแพทย์ตามนัดนอกจากจะได้อัลตราซาวด์เพื่อตรวจสุขภาพของทารกในครรภ์แล้ว ยังต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ เพื่อหาความผิดปกติทางการตั้งครรภ์ รวมถึงได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมจากแพทย์เฉพาะทางอีกด้วย
– ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์พอดี ข้อนี้ดูเผินๆอาจจะดูไม่สำคัญ แต่ห้ามมองข้ามเลยนะคะ การที่คุณแม่น้ำหนักตัวมากเกินไป จะส่งผลโดยตรงให้คุณแม่เป็นโรคเบาหวานได้ ซึ่งการที่คุณแม่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์อาจทำให้ลูกในท้องคลอดก่อนกำหนดหรือมีปัญหาระบบทางเดินหายใจได้ แต่ถ้าแย่กว่านั้นอาจส่งผลให้ทารกเสียชีวิตในครรภ์ได้
บทสรุป
หลังจากที่ได้อ่านบทความของเราแล้ว คุณแม่ to be เป็นยังไงบ้างคะ หวังว่าทุกท่านที่อ่านจะได้รับสาระความรู้จากบทความนี้ไม่มากก็น้อย แต่สิ่งสำคัญที่สุดคุณแม่ตั้งครรภ์ควรดูแลตัวเอง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อสุขภาพของตัวคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ แล้วพบกันใหม่บทความหน้า สวัสดีค่ะ
