ออกกำลังกายแทบตายทำไม่น้ำหนักยังเท่าเดิม!!! มันน่าแปลกใจไหมคะเพื่อนๆทั้งๆที่เราตั้งใจลดน้ำหนัก ออกกำลังกายทุกวันแต่ทำไม่ชั่งน้ำหนักทีไรมันก็ยังเท่าเดิม หนำซ้ำมากกว่าเดิมอีกต่างหาก
ที่เพื่อนๆเจอปัญหาเช่นนี้อาจเป็นไปได้ว่าเพื่อนๆทำการออกกำลังกายไม่ถูกวิธีก็เป็นได้ ฉะนั้นถ้าเพื่อนๆอยากรู้ว่าทำไมน้ำหนักถึงไม่ลดสักที มาเช็กกันหน่อยว่าการออกกำลังกายของเพื่อนๆนั้นมีพฤติกรรมตรงตามข้อต่อไปนี้หรือไม่ ไปเช็กกันเลยย
เช็ก! ออกกำลังกายเช่นนี้ออกหนักแค่ไหนก็ไร้ค่า น้ำหนักไม่ลดเลย!
1.ออกกำลังกายออกๆหยุดๆ แม้เพื่อนๆจะออกกำลังกายเป็นอย่างหนักใน 1 วัน แต่ดันหยุดยาวไป 6-7 วัน แล้วค่อยกลับมาออกกำลังกายอีกครั้ง เช่นนี้จะทำให้การออกกำลังกายเป็นไปอย่างไม่เสมอ
ร่างกายของปรับเกิดอาการงงว่าตกลงเราจะออกกำลังกายหรือไม่ออกกันแน่ การออกกำลังกาย 1 วันต่ออาทิตย์อาจยังไม่เพียงพอต่อการลดน้ำหนักและการเบิร์นไขมันของเรา ดังนั้นสำหรับการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักที่เหมาะสมคือ 4-5 วันต่ออาทิตย์นะคะเพื่อนๆ
2.ออกกำลังกายไม่กี่นาที สำหรับการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักเพื่อนๆควรจะให้เวลาในการออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีขึ้นไปเนื่องจากให้ร่างกายได้ทำการปรับตัวและดึงไขมันส่วนเกินออกมาใช้
เพื่อนๆลองสังเกตนะคะว่าตนเองนั้นออกกำลังกายกี่นาที หากน้อยกว่า 30 นาทีก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมน้ำหนักยังไม่ลดสักที เพราะการเผาผลาญในช่วงเเรกเป็นการดึงพลังงานที่จำเป็นมาใช้แต่ยังไม่ใช่พลังงานส่วนเกิน นั้นจึงทำให้ร่างกายยังไม่สามารถเบิร์นไขมันส่วนเกินทิ้งไปได้นั้นเองค่ะ
3.การออกกำลังกายพร้อมกับการกินแบบจุกๆ หลายคนมักคิดว่าก็ฉันออกกำลังกายฉันจะกินเยอะเท่าไหร่ก็ย่อมได้ ซึ่งบอกเลยว่าเป็นความเชื่อที่ผิดเอามากๆเลยละค่ะเพื่อนๆ เพราะเราไม่สามารถทราบได้เลยว่าปริมาณที่เรากิน
กับปริมาณที่ร่างกายเราเผาผลาญเมื่อเราออกกำลังกายนั้นมันเพียงพอหรือไม่ เพราะฉะนั้นออกกำลังกายไปเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่ลดสักทีก็ไม่ต้องสงสัยเลยค่าา
ออกกำลังกายอย่างไรให้น้ำหนักลดเร็ว
การออกกำลังกายเพื่อให้น้ำหนักลดอย่างทันใจไม่ใช่เรื่องอย่างเลยค่ะ อย่างแรกคือเพื่อนๆไม่ควรทำดัง 3 ข้อก่อนหน้าที่เราพูดมา และทำดังต่อไปนี้แทน
1.เพื่อนๆต้องอย่าใจร้อน ใครที่คิดจะหักโหมร่างกายตนเองให้ออกกำลังกายอย่างหนักเพราะคิดว่ายิ่งออกหนักเท่าไหร่ น้ำหนักก็จะยิ่งลดลงไปเร็วเท่านั้น บอกเลยว่าคิดผิดนะคะเพื่อนๆ การหักโหมตนเองเพียงหนึ่งครั้ง
จะทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บ กล้ามเนื้ออาจเกิดอาการอักเสบ และเมื่อเป็นเช่นนั้น เพื่อนๆก็จะไม่สามารถออกกำลังกายได้สักพักเนื่องจากอาการบาดเจ็บนั้นเอง ทำให้ร่างกายขาดการออกกำลังกายเข้าไปใหญ่
2.รู้หลักการออกกำลังกายอย่างถูกต้อง สำหรับการออกกำลังกายอย่างถูกวิธีนั้นก็ไม่อยากเลยค่ะเพื่อนๆ
-
ต้องรู้จักหยุดพักร่างกาย สำหรับการออกกำลังกายที่ดีเพื่อนๆควรจัดตารางและให้มีวันที่ร่างกายได้หยุดพัก เพื่อฟื้นฟูและซ่อมแซมตนเอง ลดเปอร์เซ็นการบาดเจ็บลงได้มากทีเดียว
-
เลือกประเภทการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับร่างกายของตนเอง สำหรับวัยรุ่นวันเรียนอาจจะออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่และผาดโผน เช่นการวิ่งมารทอน การต่อยมวย การยกน้ำหนัก แต่สำหรับใครที่มีอายุหน่อยก็ควรจะเลือกการออกกำลังกายที่เซฟร่างกายขึ้นมาหน่อย เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและสึกหรอของร่างกาย
-
จัดเวลาการออกกำลังกายให้พอเหมาะอยู่ที่ 30 นาที ถึง 2 ชั่วโมง หากออกกำลังกายน้อยเกินไปก็อาจกระตุ้นระบบเผาผลาญได้ไม่เพียงพอ หากมากเกินไปก็จะเสี่ยงต่อร่างกายบาดเจ็บ
3. ก่อนการออกกำลังกายในทุกๆครั้งควรต้องทำการวอร์มร่างกาย หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นการอุ่นเครื่องสักหน่อยก่อนทำการออก เพื่อลดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ
ต่อไปเมื่อเพื่อนๆสามารถออกกำลังกายกันได้อย่างถูกวิธีแล้ว ต่อไปเราไปดูกันค่ะว่าสำหรับการออกกำลังกายลดน้ำหนัก ควรออกไหนช่วงเวลาไหนบ้าง ไปดูกันเลยย
ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการออกกำลังกายลดน้ำหนัก
การออกกำลังกายหลักๆนั้นมี 2 ช่วงเวลา นั้นคือช่วงเช้ากับช่วงเย็น ซึ่งสำหรับการออกกำลังกายลดน้ำหนักนั้นสามารถทำได้ทั้งสองช่วงเวลา ทั้งสองช่วงเวลาก็จะมีข้อดีแตกต่างกันไป สำหรับคนที่ช่วงเย็นหลังเลิกงาน
หรือเลิกเรียนหมดเเรงไม่มีแรงจะลุกมาออกกำลังกาย เราก็ขอแนะนำให้เพื่อนๆนั้นลุกออกกำลังกายในช่วงเช้าแทน แต่สำหรับใครที่บอกว่าตื่นไม่ไหวนอนก็ดึกแล้ว งั้นเราก็ขอแนะนำให้ออกกำลังกายในช่วงเย็นนะคะเพื่อนๆ
ก่อนจะเลือกตัดสินใจกันเราไปดูข้อดีของการออกกำลังกายในแต่ละช่วงประกอบการตัดสินใจสักหน่อยดีกว่า ไปดูกันลยย
ออกกำลังกายตอนเช้าลดน้ำหนักได้ดีแค่ไหนกันน้าา
การออกกำลังกายในช่วงเช้า ระบบเผาผลาญของมนุษย์จะดึงเอาๆไขมันสะสมในร่างกายที่เป็นไขมันส่วนเกินออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ เพราะในช่วงกลางคืนระบบเผาผลาญของเรานั้นจะทำงานในการเผาผลาญไขมันหลักที่ร่างกายรากินเข้าไปในแต่ละวัน
ดังนั้นเมื่อร่างกายเผาผลาญไขมันหลักในช่วงกลางคืนแล้ว เมื่อเพื่อนๆออกกำลังกายในช่วงเช้าจะทำให้ร่างกายดึงไขมันส่วนเกินออกมาเผาผลาญแทนนั้นเองค่าา ฉะนั้นใครตื่นเช้าหน่อยก็จะเป็นปังปุริเย่พอควรเลยละค้าา
ออกกำลังกายช่วงเย็นลดน้ำหนักได้ดีแค่ไหนกันน้าา
การออกกำลังกายในช่วงเย็นก็ดีไม่แพ้กัน แม้ช่วง 20-30 นาทีแรกร่างกายอาจจะยังไม่ได้ดึงไขมันส่วนเกินออกมาใช้ แต่การออกกำลังกายในตอนเย็นนั้นเราสามารถออกได้นานกว่าช่วงเช้า เมื่อเราออกได้นานกว่าช่วงเช้านั้นก็เเปลว่าเราสามารถเบิร์นไขมันได้เยอะพอสมควรเลยทีเดียว
สรุปว่า..
สรุปว่าเพื่อนๆสะดวกแบบไหนก็เลือกแบบนั้นจะดีที่สุดค้าา ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็มีข้อควรระวังหลังการออกกำลังกายมาบอกเพื่อนๆด้วยน้าา อยากรู้ไหมคะอย่าข้ามเด็ดขาดเลยนะ!! ไปดูกันเลยดีกว่า!!
ข้อควรระวังหลังการออกกำลังกาย
ระวัง!! ตบะแตกหลังการออกกำลังกาย ร้อยทั้งร้อยมักเจอกับเหตุการณ์อดใจไม่ไหว เนื่องจากหลังการออกกำลังกายกระเพาะอาหารจะร้องขอชีวิตให้กินอาหารแบบเวอร์วังจนเราทนต่อเสียงเรียกร้องไม่ไหวกันเลยทีเดียว ซึ่งหลายคนก็พ่ายแพ้และจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบ พร้อมบอกกับตนเองว่า “พรุ่งนี้เอาใหม่”
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เมื่อเพื่อนๆได้สาระกันไปเต็มๆในวันนี้แล้วเราก็อยากจะแนะนำกีฬาลดน้ำหนักให้เพื่อนๆได้ลองไปเล่นกันเผื่อใครเบื่อที่จะออกกำลังกายกับเครื่องออกกำลังกายเดิมๆ ก็สามารถหันไปเล่นกีฬาลดน้ำหนักกันได้เลยย
4 กีฬาลดน้ำหนัก พักจากเครื่องออกกำลังกาย
-
ว่ายน้ำน้ำหนักไม่ลดให้มันรู้ไป
บทสรุป ทำไมออกกำลังกายเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่ลดสักที
เดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายกันแล้วนะคะเพื่อนๆ สรุปแบบสั้นๆสำหรับเพื่อนๆที่สงสัยว่าทำไมออกกำลังกายเท่าไหร่ก็ไม่ลดสักที นั้นก็เพราะว่าเพื่อนๆออกกำลังกายผิดวิธี!! หลายคนมีความเข้าใจเกี่ยวกับการลดน้ำหนักอย่างผิดๆซึ่งนั้นก็ส่งผลให้ทำผิดไปทุกๆอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายที่หนักหักดิบตนเอง หรือออกกำลังกายแบบออกๆหยุดๆ ทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนแต่ไม่ทำให้เกิดผลดี ฉะนั้นเพื่อนๆควรจะเลือกการออกกำลังกายที่ถูกและเหมาะสมกับตนเองให้มากที่สุด แล้วสิ่งดีก็จะตามมาเองงงง
Write a comment