สวัสดีจ้าเพื่อนๆ
วันนี้แอดจะมาช่วยคนที่เป็นโรคซึมเศร้าหรือเสี่ยงที่จะเป็นมาทำความรู้จักกับแนวทางรักษาโรคนี้ที่สามารถรักษาและหายขาดได้ โดยแนวทางการรักษาแบบนี้นอกจากสามารถรักษาได้ด้วยตัวเองแล้วยังเสริมภูมิคุ้มกันให้ห่างไกลจากโรคซึมเศร้าอีกด้วย
เพื่อนๆคงต้องอยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะ แต่ก่อนอื่นแอดขอเล่าเกี่ยวกับโรคซึมเศร้านิดหน่อยว่ามันคืออะไรและสิ่งที่ก่อนให้เกิดหรือไปกระตุ้นให้เกิดโรคซึมเศร้าเกิดจากสิ่งใด แล้วการรักษาทางการแพทย์รักษาแบบไหน เราไปเริ่มกันเลยดีกว่า Let’s go!!!
ไขข้อสงสัย “โรคซึมเศร้า” คืออะไรกันแน่!!
” โรคซึมเศร้า ” คือความผิดปกติของจิต หรือความผิดปกติของสมอง ในสมองจะมาสารเคมีต่างๆ ฮอร์โมนมีความสำคัญมากต่อสมองเพราะส่งผลต่อความรู้สึก ความคิด และอารมณ์ต่างๆ เราเรียกอีกอย่างว่าสารสื่อประสาท ถ้าหากสารสื่อประสาทไม่สมดุลก็จะทำให้ส่งผลเกิดอาการเศร้าที่เป็นผลให้เกิดโรคซึมเศร้านั้นเอง แล้วทำไมสมองถึงมีความผิดปกติได้ยังไง ?? แอดขอตอบว่า เพราะความเครียดสะสม หรือ การเสียใจมากๆจนไม่สามารถผ่านพ้นมันไปได้ก็อาจไปกระตุ้นทำให้การหลั่งสารสื่อประสาททำงานบกพร่องได้ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงปัจจัยภายนอกที่ส่งผลเล็กน้อยมาก
” เราทำความรู้จักกับเจ้าโรคซึมเศร้าแล้ว ดังนั้นถึงเวลาที่เรามาดูปัจจัยหลักๆของการเกิดโรคซึมเศร้ากันเถอะค่ะ “
ไปไปไป!!!
ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้ามีอะไรบ้าง? รีบรู้ก่อนจะสาย
กรรมพันธุ์
กรรมพันธุ์มีส่วนเกี่ยวข้องสูงที่จะทำให้เกิดโรคซึมเศร้าโดยเฉพาะในกรณีของผู้ที่มีอาการเป็นซ้ำหลายๆ ครั้ง หรือคนในครอบครัวมีประวัติเคยป่วยทางจิตมาก่อน
สารเคมีในสมอง
สารเคมีในสมองมีการเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ โดยสารที่ว่าคือ serotonin , norepinephrine , norepinephrine เมื่อสารเหล่านี้ลดลงก็จะทำให้รู้สึกเศร้า หรือ ความผิดปกติของเซลล์รับสารสื่อประสาทมีความบกพร่องไม่สามารถควบคุมการทำงานของสมองให้ประสานกันได้เมื่อปล่อยไว้นานๆ จึงทำให้เกิดโรคซึมเศร้าในที่สุด
ลักษณะนิสัย
การที่เป็นคนที่อคติคิดแต่แง่ลบอยู่ตลอด คนเหล่านี้มักเสี่ยงต่อการเกิดโรคซึมเศร้ามาก เพราะพวกเขาจะมองแต่อดีตที่บกพร่องของตัวเอง มองโลกในแง่ร้ายเสมอ ถ้าหากบุคคลเหล่านี้ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่โหดร้าย กดดัน เครียด อาจจะให้เป็นโรคซึมเศร้าได้ง่ายกว่าคนที่คิดบวกอยู่เสมอ
** เป็นไงบ้างคะ ถ้าเพื่อนๆรู้แล้วว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้ามีอะไรบ้างแล้ว ลองย้อนถามตัวเองและสังเกตคนรอบข้างด้วยนะว่าพวกเขาสุ่มเสี่ยงหรือมีพฤติกรรมที่จะส่งผลให้เกิดโรคซึมเศร้าหรือเปล่า ถ้าพอแล้วต้องรีบเตือนและปรึกษาจิตแพทย์ทันเลยนะ ปล่อยไว้ไม่ได้เขียวนะโรคซึมเศร้าเนี้ยยย **
ต่อไปแอดจะพาทุกคนไปดู 3 วิธีการรักษาโรคซึมเศร้าที่สามารถทำให้หายขาดจากโรคนี้ได้
พร้อมรึยัง? Coming on!!!
#3 วิธีการรักษาโรคซึมเศร้า
วิธีการรักษาโรคซึมเศร้านั้นจะรักษาตามอาการของผู้ป่วยและเป็นการรักษาทางการแพทย์ที่สามารถรักษาให้หายขาดได้
- การรักษาโรคซึมเศร้าด้วยยา
การรักษาด้วยยามักจะรักษาให้กับผู้ป่วยที่มีอาการระดับปานกลางถึงขั้นรุนแรงจะเป็นการให้ยาต้านซึมเศร้า เช่น
SSRIs (Selective serotonin reuptake inhibitors)
SNRIs (Serotonin-noradrenaline reuptake inhibitors)
และการใช้ยามักจะมีผลข้างเคียงทำให้มี อาการวิตกกังวล นอนไม่หลับ เมื่อยล้า และอาจส่งผลเสียไปถึงการเกิดภาพหลอนได้ด้วย
- การบำบัดพฤติกรรมและความคิด
วิธีนี้จะเป็นการรักษาเพื่อเปลี่ยนความคิดของผู้ป่วย โดยแพทย์จะให้คำแนะนำเพื่อทำให้มองโลกในแง่ดีมากขึ้นและสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง
- การกระตุ้นเซลล์สมองและประสาท
เป็นวิธีการการใช้กระแสไฟฟ้าปล่อยผ่านสมองของผู้ป่วยขณะที่ดมยาสลบอยู่ใช้กับผู้ป่วยอาการรุนแรงที่มีพฤติกรรมรุนแรง เช่น ทำร้ายตัวเอง คิดฆ่าตัวตาย เห็นภาพหลอน การรักษาด้วยวิธีนี้มีผลข้างเคียง คือ อาการปวดหัวและคลื่นไส้ ความจำเสื่อม และอาจไปถึงอาการชักเกร็งได้
** และนี้คือวิธีรักษาโรคซึมเศร้าทั้ง 3 วิธีสากลที่ปัจจุบันยังใช้วิธีนี้กันอยู่เพื่อนๆคิดว่ายังไงบ้างคะ แต่คิดว่าวิธีสุดท้ายน่ากลัวมากเลย แต่!!! ต่อจากนี้แอดจะพามาดูวิธีที่ง่ายและสามารถเริ่มต้นได้ด้วยตัวเองไปดูกันเลยยยย **
#7 แนวทางรักษาให้ห่างไกลโรคซึมเศร้า
แนวทางนี้เป็นแนวทางที่แอดเชื่อว่าทุกคนสามารถทำได้ มีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ
- ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น
การยอมรับตัวเองมาสามารถทำได้ด้วยการฝึกเรียนรู้ตัวตนของตัวเอง ทั้งข้อดีและข้อเสีย วิธีนี้จะทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้นและเราจะรักตัวตนของเรามากขึ้น
- หัวเราะบ่อยๆจิตแจ่มใส
การหัวเราะนั้นเป็นสิ่งที่ดีมากการหัวเราะสามารถสร้างได้ด้วยการทำสิ่งที่ตัวเองชอบหรือสิ่งที่สร้างความสุข เช่น การดูภาพยนตร์ตลก การพูดคุยกับกลุ่มเพื่อน การออกไปทำกิจกรรมกับกลุ่มคน การหัวเราะจะช่วยทำให้เราคลายเครียดได้
- ระบายมันออกมาให้หมด
การระบายความอัดอั้นในใจออกมาจะช่วยทำให้เราไม่เครียด แต่ถ้าหากเราเป็นทุกสิ่งเอาไว้เพียงคนเดียวเมื่อมันเยอะมากๆมันจะส่งผลทำให้เกิดภาวะเครียดจนป่วยเป็นซึมเศร้าได้
** แอดขอแนะนำให้ตะโกนออกมาเลยค่ะ แต่แอดขอเตือนว่าอย่าตะโกนในที่คนเยอะนะคะ เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราไม่มีมารยาท ฮ่าๆ **
- เที่ยวบ้างช้อปบ้าง
การเที่ยวคือยาชั้นดี แน่นอนค่ะ การได้เที่ยวก็คือการได้พักผ่อน ทำให้เรารู้สึกว่าเราได้ออกไปจากจุดที่อึดอัด หรือหนีออกจากงานที่ตึงเครียด การออกไปเที่ยวช้อปปิ้งก็สร้างความสุขได้เหมือนกัน
** แอดเองก็ชอบนะช้อปปิ้งยิ่งเครียดกระเป๋าแอดก็ยิ่งเบา -..- **
- หางานอดิเรกทำเพลินๆ
เมื่อเครียดจงหางานอดิเรกทำ งานอดิเรกที่เราชื่นชอบจะทำให้หายเครียดได้อย่างแน่นอน เพราะเราจะมีสมาธิเมื่อทำในสิ่งที่เราชอบการฝึกสมาธินอกจากช่วยคลายเครียดยังช่วยทำให้จิตใจสงบอีกด้วย
- ฝึกคิดบวกเสมอ
การมองโลกในแง่ดีจะช่วยทำให้ชีวิตเราไม่แต่ความสุขเพราะเราจะมองข้ามเรื่องแย่ๆออกไปได้ ที่สำคัญช่วยลดความวิตกกังวลใจไปด้วย
** ครบทั้ง7แนวทางแล้ว แต่7แนวทางนี้แอดขอบอกก่อนนะว่าเป็นวิธีเบื้องต้นสำหรับคนที่มีอาการน้อย หรือไม่รุนแรง แต่ถ้าหากรุนแรงมากๆ แอดขอแนะนำ 3 วิธีการรักษาด้านบนเลยนะ **
บทสรุป 7 วิธีแนวทางการรักษา ” โรคซึมเศร้า ” รักษาได้จริงหรือ??
แอดอยากตอบทุกคนว่า 7 แนวทางนี้แอดขอบอกก่อนนะว่าเป็นวิธีเบื้องต้นสำหรับคนที่มีอาการน้อย หรือไม่รุนแรงมาก แต่ถ้าหากปานกลาง-รุนแรงมาก แอดขอแนะนำ 3 วิธีการรักษาด้านบนเลยนะ 7 แนวทางนี้แอดขอเสริมว่าเป็นแนวทางที่จะสร้างความรักให้กับตัวเราเองถ้าหากเรารักตัวเองเราก็จะเห็นคุณค่าและมีความสุขกับชีวิตเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันโรคซึมเศร้าได้ด้วย ไม่ว่าคนที่ป่วยหรือว่าเสี่ยงที่จะป่วยสามารถใช้แนวทางนี้ได้เลยนะ
” แต่ก่อนไปแอดขอฝาก แบบทดสอบประเมินสุขภาพจิตที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าให้ทุกคนได้ลองมาเช็กกันดูว่า ตัวเองเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน แอดเป็นห่วงทุกคนอย่าลืมไปเช็กกันน้าาา ”
Write a comment