ปัญหาโรคเอดส์เกิดขึ้นทั่วโลก เป็นโรคที่อันตรายทำให้คนเสียชีวิตได้ ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายกับไข้หวัด แต่ปล่อยไว้ไม่รักษา
เมื่อถึงในระยะเอดส์แล้วร่างกายจะไม่สามารถเยียวยาได้ ซึ่งทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง สามารถเกิดโรคแทรกซ้อนและติดเชื้อจนทำให้เสียชีวิตได้ แต่ถ้าหากรักษาตั้งแต่ระยะช่วงแรก
ซึ่งในปัจจุบันมียาชนิดรับประทานซึ่งไม่มียารักษาให้หายขาดได้ แต่ก็สามารถช่วยประคองโรคเอดส์ ไม่ให้ร้ายแรงกว่าเดิมไปถึงขั้นระยะเอดส์ ทางที่ดีที่สุดควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษาที่เหมาะสม วันนี้มาทำความรู้จักโรคเอดส์ และอาการผิวหนังของคนเป็นเอดส์ จะเป็นยังไงไปดูกันเลย
รู้จัก โรคเอดส์ คืออะไร
โรคเอดส์ หรือที่เรียกกันว่า โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ในปัจจุบันเกิดขึ้นทั่วโลก และมีอัตราการเสียชีวิตสูง ซึ่งในปัจจุบันตอนนี้ยังไม่มียารักษาให้หายขาดได้ เป็นโรคที่เกิดจากร่างกายได้รับเชื้อไวรัส HIV ซึ่งเชื้อไวรัสตัวนี้จะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว
ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันลดลง เนื่องจากเม็ดเลือดขาว เป็นตัวช่วยสำคัญของร่างกายในการสร้างภูมิคุ้มกันและจับสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย จึงทำให้เชื้อโรคสามารถแทรกซ้อนเข้าสู่ร่างกายได้อย่างง่ายดาย ทำให้เกดโรคต่าง ๆ แทรกซ้อนตามมา เช่น
วัณโรคในปอด โรคผิวหนังบางชนิด เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อรา หรืออาจจะเป็นมะเร็งเลยก็ได้ เป็นต้น ทำให้สาเหตุเสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดการอาการของโรคเเทรกซ้อน
อาการผิวหนังคนเป็นเอดส์
สำหรับอาการผิวหนังของคนเป็นเอดส์ คือ คนที่เป็นเอดส์จะเกิดเนื้องอกของเส้นเลือดบริเวณผิวหนัง ซึ่งแพทย์ส่วนใหญ่จะซักประวัติถามอาการ เพราะคนเป็นเอดส์ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะแบบนี้ทุกราย มีชื่อเรียกว่า คาปูซี มีลักษณะนูน เป็นรอยสีม่วงอมแดง และจะเป็นทั่วร่างกาย จะเป็นมากในบริเวณขาและเเขน
เมื่อเป็นโรคเอดส์ ถ้าหากผู้ป่วยที่เป็นโรคผิวหนังและเป็นโรคเอดส์ร่วมกัน จะทำให้เกิดอาการรุนแรงมากขึ้นกว่าคนปกติที่ไม่มีเชื้อเอดส์ ตัวอย่างเช่น
ผู้ป่วยที่เป็นโรคผิวหนังติดเชื้อรา ได้แก่ โรคกลาก โรคเกลื้อน มีลักษณะเป็นขุยขาววงแดง และจะทำให้เกิดอาการคัน สามารถขยายวงกว้างไปได้เรื่อยๆ ซึ่งคนที่เป็นเอดส์ร่วมด้วยจะทำให้อาการลุกลามไปทั่วทั้งตัวอย่างรวดเร็ว
ผู้ป่วยที่เป็นโรคผิวหนังติดเชื้อไวรัส ในคนที่เป็นเอดส์ จะทำให้เกิดอาการเชื้อขยายวงกว้างขึ้นมากกว่าเดิม ผิวหนังจะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำและบวมแดง ทำให้เกิดอาการเจ็บ และเกิดอาการอักเสบมากกว่าปกติ
อาการคนเป็นเอดส์ ในระยะที่ไม่แสดงอาการ
ในระยะแรก เป็นระยะที่ไม่แสดงอาการ เป็นระยะที่ผู้ป่วยจะยังไม่ทราบว่าเป็นโรคเอดส์ ซึ่งสามารถแพร่เชื้อไปให้กับคนอื่นได้ง่ายจากการมีเพศสัมพันธ์ การใช้เข็มฉีดยาอันเดียวกัน หรือการให้เลือด เพราะในระยะนี้จะดูเหมือนร่างกายปกติ บางครั้งอาจจะมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย
อาการคนเป็นเอดส์ ระยะมีอาการสัมพันธ์กับเอดส์
ในระยะที่ 2 เป็นระยะมีอาการสัมพันธ์กับเอดส์ ซึ่งในระยะนี้จะเริ่มมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายแล้ว เช่น มีตุ่มขึ้นตามเเขนและขา ต่อมน้ำเหลืองโต มีเชื้อราในกระพุ้งแก้ม เป็นโรคงูสวัด เป็นต้น เมื่อตรวจเลือดจะพบว่าผลเลือดเป็นบวก และน้ำหนักลดลง ถ้าหากผู้ป่วยมีอาการผิดควรรีบพบแพทย์
อาการคนเป็นเอดส์ ระยะโรคเอดส์เต็มขั้น
ในระยะที่ 3 เป็นระยะสุดท้ายของโรคเอดส์ ซึ่งเป็นระยะที่ภูมิคุ้มกันถูกทำลายไปอย่างมาก โดยการตรวจเม็ดเลือดขาวจะพบว่าลดลงอย่างมาก ในขั้นนี้เชื้อจะฉวยโอกาส ทำให้เกิดโณคแทรกซ้อนได้ง่าย เสี่ยงต่อการเป็นโรควัณโรค เชื้อราในปอด และเชื้อราขึ้นสมอง ในระยะนี้ทำให้ผู้ป่วยโรคเอดส์เสียชีวิตได้มากที่สุด
โรคเอดส์ สามารถติดต่อได้อย่างไร
- การมีเพศสัมพันธ์ โดยการไม่ป้องกัน ไม่สวมถุงยางอนามัย
- การรับเชื้อทางเลือด เกิดจากการใช้เข็มฉีดยาร่วมกับคนที่มีเชื้อเอดส์ หรือการรับเลือดที่มีเชื้อเอดส์เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งในปัจจุบันการรับเลือดได้มีการตรวจเชื้อ HIV ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัยแน่นอน
- การคลอดลูก เมื่อแม่มีเชื้อเอดส์ ทำให้เชื้อเอดส์สามารถแพร่ไปยังลูกได้ตั้งแต่กำเนิด โดยจะแพร่ไปยังลูกได้ ในอัตราร้อยละ 30
บทสรุป
รู้ทัน ผิวหนังคนเป็นเอดส์ เป็นแบบไหน ต้องดู!!
จบไปแล้วนะคะ สำหรับผิวหนังคนเป็นเอดส์ เป็นแบบไหน ซึ่งคนที่เป็นโรคเอดส์หรือโณคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นโรคที่เกิดจากร่างกายได้รับเชื้อไวรัส HIV ซึ่งเชื้อไวรัสตัวนี้จะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว
ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันลดลง และสามารถทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้อย่างง่ายดาย เสี่ยงต่อการเป็นโรควัณโรค และเชื้อราในร่างกาย ซึ่งสามารถทำให้อันตรายถึงชีวิตได้
คนที่เป็นโรคเอดส์และมีโรคผิวหนังร่วมด้วย จะทำให้เกิดอาการลุกลามได้อย่างกว้างขวางและรวดเร็วกว่าปกติ นอกจากนี้โรคเอดส์ยังสาารถติดต่อได้ด้วยการมีเพศสัมพันธ์ การรับเชื้อทางเลือด และการรับเชื้อจากแม่สู่ลูก
Write a comment