การทำทรีทเม้นท์เป็นอีกวิธีดูแลผิวอย่างเข้มข้น ที่จะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาสวยใส ไร้ซึ่งจุดด่างดำและรูขุมขน เพราะการทำทรีทเม้นท์อุดมด้วยวิตามินแบบที่สกินแคร์มีให้ไม่ได้ คำถามที่หลายคนสงสัยคือมันช่วยผิวขนาดเลยจริง ๆ หรือเปล่า และการทำทรีตเม้นท์หน้าอาทิตย์ละครั้งคือน้อยไปหรือมากเกินไป ผิวจะบางลงมั้ย ? วันนี้เราจะมาตอบคำถามตรงนี้ให้กับทุกคน
การทำทรีทเม้นท์หน้า คืออะไร
การทำทรีทเม้นท์หน้าคือบำรุงผิวอย่างล้ำลึกโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง การบำรุงและผลิตภัณฑ์อยู่ใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังและมีวิธีการบำรุงหลายขั้นตอนเพื่อเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตได้ดีมากขึ้น สร้างเสริมผิวหน้าให้แข็งแรง ผิวหน้ากระจ่างใส กระชับรูขุมขมและครอบคลุมไปถึงเรื่องริ้วรอย แก้ไขปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด
การทำทรีทเม้นท์หน้า ดีอย่างไร?
การใช้ชีวิตในแต่ละวันท่ามกลางมลภาวะทางอากาศและรังสียูวีทำให้ผิวของเราเสื่อมสภาพเร็วมากขึ้น สกินแคร์บำรุงผิวอาจไม่เพียงพอต่อการดูแลผิวหน้า การทำทรีทเม้นท์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดูแลผิวของหลายคนเพราะความเข้มข้นของทรีทเม้นท์สามารถแก้ปัญหาผิวได้ลึกไปถึงผิวชั้นใน ช่วยฟื้นฟูผิวมาจากภายในสู่ภายนอก
แต่ละประเภทของทรีทเม้นท์ก็จะช่วยผิวแตกต่างกันออกไป การทำทรีตเม้นต์หน้าจะช่วยบำรุงผิวและช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ให้ความชุ่มชื้นกับผิว ผลัดเซลล์ผิวใหม่ให้ผิวดูกระจ่างใส ทำความสะอาดผิวลึกถึงรูขุมขน การทำทรีทเม้นท์คือการเติมอาหารให้ผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง ชะลอการเกิดริ้วรอย ผิวแลดูอ่อนเยาว์ รวมไปถึงรักษาสิว ลดรอยคล้ำใต้ตา ยกกระชับผิวหน้า
เมื่อไหร่ที่ควรจะทำทรีทเม้นท์
เมื่อที่รู้สึกว่าดูแลผิวเหมือนเดิมทุกอย่างแต่ผิวไม่ฉ่ำเหมือนที่เคย หรือเมื่อที่รู้สึกว่าบำรุงด้วยสกินแคร์ไม่เพียงพอ และโดยปกติแล้วเมื่อเริ่มเข้าวัย 25 ปี ผิวของเราจะเริ่มเสื่อมสภาพ ผิวหน้าเริ่มจะขาดความชุ่มชื้น เริ่มมีริ้วรอยร่องตื้น การผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวเริ่มช้าลง เป็นการส่งสัญญาณให้เรารับรูว่าผิวของเราต้องการ การดูแลมากขึ้นกว่าเดิม การทำทรีทเม้นท์หน้า มีกี่วิธี
วิธีที่เป็นที่นิยมมีทั้ง หมด 6 วิธี
- การทำทรีทเม้นท์ด้วยคลิ่นวิทยุ
วิธีนี้จะเป็นการกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวด้วยคลื่นวิทยุ วิธีนี้จะส่งผลให้ผิวยกกระชับและริ้วรอยดูจางลง ช่วยให้ผิวที่หมองคล้ำ กระจ่างใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น
- การทำทรีทเม้นท์ด้วยคลื่นเสียงอัลตร้าซาวนด์กระชับผิว
วิธีนี้จะเป็นการใช้คลื่นเสียงเข้าไปทำความร้อนในผิวลึก 5 มิลลิเมตรเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ลดเลือนริ้วรอย
- ครีมบำรุง
วิธีนี้จะมีอุปกรณ์ช่วยผลักวิตามินเข้าสู่ผิว และใช้ครีมบำรุงกลุ่ม เรตินเอ ช่วยยกกระชับผิวหน้าและเซรั่มช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวกระชับและกักเก็บความชุ่มชื้นได้นานมากขึ้น
- การผลักวิตามิน
วิธีนี้จะใช้เครื่องมือช่วยผลักวิตามินเข้าผิว การทำงานคล้ายกับการใช้คลื่นเสียง ทำให้วิตามินซึมเข้าผิวได้ดีมากยิ่งขึ้น
- การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี หรือ chemical peeling
วิธีนี้จะเป็นการผลัดเซลล์ผิวโดยการทาเคมีไว้สักพัก แบ่งออกเป็น 3 ระดับในการผลัดเซลล์ผิว เป็นกรดที่ใช้ในการผลัดเซลล์ผิวจะเป็นกลุ่ม AHA แฃะกรด ผลไม้ ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสมากขึ้นผิวดูสดใส ช่วยแก้ไขเรื่องผิวคล้ำเสียจากแดด ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวให้เร็วกว่าปกติ
- การผลัดเซลล์ผิวด้วยเลเซอร์
วิธีนี้จะใช้เลเซอร์เพื่อกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ช่วยลดความหมองคล้ำ จุดด่างดำบนผิวหน้า ลดเลือนแผลเป็น ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว และลดเลือนริ้วรอย
การทำทรีทเม้นท์หน้าอาทิตย์ละครั้ง ถือว่าบ่อยเกินไปหรือเปล่า
การทำทรีทเม้นท์หน้าอาทิย์ละครั้งในกลุ่มบำรุง ผลักวิตามินและผลัดเซลล์ผิวความเข้มข้นต่ำจะช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวได้ดีและไม่ทำให้ผิวบางแต่อย่างใดเพราะเป็นเพียงการบำรุงที่เข้มข้นเท่านั้น แต่จะทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมเพราะเป็นปริมาณการทำทรีตเม้นท์หน้าที่เหมาะสม
หลายคนจะเกิดความสับสนจากการทำทรีตเม้นท์หน้ากลุ่มผลัดผิวด้วยความเข้มข้นสูงและเลเซอร์ วิธีนี้จะต้องอยู่ในพิจารณาของแพทย์ผิวหนังว่าทำได้บ่อยแค่ไหน หรือผิวจะบางขึ้นหรือไม่หากทำทุกอาทิตย์
บทสรุปของบทความ
การทำทรีทเม้นท์หน้าอาทิตย์ละครั้งไม่ทำให้ผิวบาง แต่ยังช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นเพราะอยู่ในความถี่ที่เหมาะสม ทั้งนี้ต้องเป็นทรีทเม้นท์ในกลุ่มบำรุงและการผลัดเซลล์ผิวความเข้มข้นต่ำเท่านั้นที่สามารถทำได้ทุกอาทิตย์ตามต้องการ
Write a comment