ปัญหาโรคผิวหนัง บางครั้งแค่จุดเล็กๆ ก็ส่งผลร้ายแรง ถึงขั้นกลายเป็นโรคมะเร็งได้เลย อย่างโรคซีสต์ เกิดจากการผิดปกติของร่างกาย ทำให้เกิดถุงน้ำ หรือก้อนตุ่ม เกิดจากอุดตันของต่อมต่างๆ
ซึ่งมีลักษณะเป็นถุงที่ภายในบรรจุด้วยของเหลวกึ่ง มีลักษณะเป็นก้อนบนผิวหนัง ซึ่งจะอันตรายมากถ้าหากเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ วันนี้มีความรู้เกี่ยวกับซีสต์ใต้ผิวหนัง อาการ สาเหตุและวิธีรักษาโรคซีสต์ จะมีรายละเอียดยังไป ไปดูกันเลย
มารู้จักกับ ซีสต์ผิวหนัง คืออะไร
ซีสต์ (Cyst) เกิดจากเนื้องอกของผิวหนังชนิดหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเป็นถุงที่ภายในบรรจุด้วยของเหลวกึ่งของแข็ง มีไขมัน เซลหนังกำพร้า เส้นผมหรือต่อมเหงื่อเกิดการอุดตันของรูเปิดของต่อมต่างๆ ถุงน้ำขนาดเล็กชนิดหนึ่งเกิดขึ้นบนเนื้อเยื่อผิวหนังตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย
โดยจะมีขนาดใหญ่และขนาดเล็กแตกต่างกัน สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย ซึ่งซีสต์ที่เกิดขึ้นบนผิวหนังจะทำให้ผิวหนังจะมีลักษณะนูน และซีสต์ที่เกิดขึ้นใต้ผิวหนังเมื่อคลำแล้วจะเป็นก้อน มักไม่ก่อให้เกิดอาการรุนแรง แต่ถ้าหากติดเชื้อหรืออักเสบอาจจะทำให้กลายเป็นมะเร็งได้
อาการของซีสต์ใต้ผิวหนัง
อาการของซีสต์ คือ ผู้ป่วยจะมีก้อนเป็นตุ่มนูนบนผิวหนัง เป็นก้อนเล็กนูนเกิดขึ้นใต้ผิวหนัง ภายในมีลักษณะเป็นสารสีขาว มีความนิ่ม สามารถจับเคลื่อนได้เล็กน้อย
ซึ่งซีสต์แต่ละประเภทจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับขนาดและบริเวณที่เกิดซีสต์ โดยซีสต์ที่มีขนาดเล็กจะไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดแต่ถ้าหากมีขนาดใหญ่อาจจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดได้
และจะพบบ่อยบริเวณใบหน้า คอ หน้าอก และลำตัว นอกจากนี้หากก้อนซีสต์มีอาการติดเชื้อจะทำให้เกิดอาการอักเสบอย่างมีกลิ่นเหม็น มีของเหลวไหลออกจาก้อนซีสต์ หรือเกิดอาการบวมแดง กดแล้วเจ็บ ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย เพื่อความปลอดภัย
สาเหตุของซีสต์ไขมันใต้ผิวหนัง
การเกิดซีสต์ใต้ผิวหนังนั้น สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- เกิดจากรูขุมขนอุดตันจากการสะสมของเซลล์ผิวหนัง
- เกิดจากการเกิดบาดแผลที่ผิวหนัง ทำให้รูขุมขนถูกทำลาย
- เกิดจากท่อต่อมไขมันผิดปกติ ต่อมน้ำมันใต้ผิวหนังเกิดการอุดตันหรือทำงานผิดปกติ
- เกิดจากเซลล์ได้รับความเสียหายจากการผ่าตัด
- เกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรม ทำให้เซลล์ผิวหนังบางเซลล์ผิดปกติ
การวินิจฉัยซีสต์ไขมันใต้ผิวหนัง
เมื่อสงสัยว่าเป็นซีสต์ใต้ผิวหนังหรือไม่ แพทย์จะมีวิธีวินิจฉัย เพื่อใช้ในการรักษาในขั้นตอนต่อไปดังต่อไปนี้
- การซักประวัติและตรวจร่างกาย
ขั้นตอนนี้แพทย์จะวินิจฉัยอาการโดยการสังเกตลักษณะก้อนบนผิวหนังของผู้ป่วย และตรวจร่างกายเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการรักษาต่อไป
- การทำ CT scan หรือ การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
วิธีนี้เป็นวิธีที่ทำให้เห็นก้อนซีสต์ผิวหนังที่ชัดเจนมากขึ้น โดยจะใช้ตรวจเพื่อหารายละเอียดเพื่อใช้ในการประเมินในการผ่าตัด
- การตรวจอัลตราซาวด์
สำหรับซีสต์ที่อยู่ในผิวหนังต้องใช้การอัลตราซาวด์ เพื่อตรวจดู
- การตัดชิ้นเนื้อตรวจ
สำหรับการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจเพื่อเช็คความเป็นไปได้ในการเกิดมะเร็ แพทย์จะตัดเนื้อเยื่อบางส่วนจากถุงซีสต์ไปตรวจอย่างละเอียด
วิธีการรักษาซีสต์ไขมันใต้ผิวหนัง
เมื่อพบว่าเป็นโรคซีสต์ใต้ผิวหนัง ควรพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี ซึ่งวิธีรักษามีดังต่อไปนี้
- การดูแลอาการด้วยตนเอง
การดูแลอาการด้วยตัวเองเหมาะสำหรับก้อนซีสต์ที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก การรักษาซีสต์ใต้ผิวหนังด้วยตัวเองให้ยุบลงโดยการใช้ผ้าอุ่นประคบที่ก้อนซีสต์ และไม่ควรแกะ บีบ หรือเกาบริเวณที่เป็นซีสต์อย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการอักเสบได้
- การใช้ยาสเตียรอยด์
การรักษาโดยการใช้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์นั้น จะใช้สำหรับก้อนซีสต์ที่มีอาการบวม แต่ถ้าเกิดการอักเสบ จะต้องกรีดผิวให้หนองออกมาก่อน แล้วใช้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ฉีดเพื่อที่จะช่วยให้ก้อนซีสต์ยุบลง
- การใช้ยาปฏิชีวนะ
ในการใช้ยาฏิชีวนะ จะช่วยใช้เมื่อซีสต์มีการอักเสบ และช่วยป้องกันการติดเชื้อหลังผ่าตัด ซึ่งจะมีทั้งในรูปแบบชนิดทาและแบบรับประทาน
- การใช้ยาทาลดรอยแผล
หลังจากผ่าตัด การใช้ยาทารอยแผลเป็นเพื่อช่วยลดรอยแผลให้จางลง
- การผ่าตัด
การผ่าตัด จะทำได้ก็ต่อเมื่อแพทย์วินิจฉัย เป็นการกำจัดซีสต์ออกอย่างถาวร ซึ่งวิธีผ่าตัดสามารถมีหลายวิธีทั้งผ่าตัดเอาก้อนซีสต์ออกไปทั้งก้อน เอาออกทั้งหมด จะทำให้เกิดแผลขนาดใหญ่ การผ่าตัดเอาซีสต์ออกไปบางส่วน ทำให้เกิดแผลเล็กกว่า แต่ซีสต์อาจจะกลับมาเป็นอีกได้ การเจาะน้ำออก เป็นวิธีที่เปิดก้อนซีสต์เพื่อให้ของเหลวไหลออกมาก่อนที่จะนำถุงซีสต์ออกตามมา และในปัจจุบันมีการผ่าตัดด้วยเลเซอร์อีกด้วย
บทสรุป ปัญหาซีสต์ โรคผิวหนังเล็กๆ แต่อันตราย ที่คุณไม่ควรมองข้าม
จบกันไปแล้วนะคะ สำหรับปัญหาซีสต์ โรคผิวหนังเล็กๆ แต่อันตราย ที่คุณไม่ควรมองข้าม สำหรับโรคซีสต์เป็นโรคที่ผิวหนังมีถุงที่ภายในบรรจุด้วยของเหลวกึ่งของแข็งเกิดขึ้นบนเนื้อเยื่อผิวหนังตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เกิดจากเนื้องอกของผิวหนังชนิดหนึ่ง มีไขมัน
เซลหนังกำพร้า เส้นผมหรือต่อมเหงื่อเกิดการอุดตันของรูเปิดของต่อมต่างๆ ทำให้ผิวหนังลักษณะเป็นก้อนนูนมีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างออกไป ซึ่งซีสต์จะอันตรายมากถ้าหากเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ ถ้าใครที่มีลักษณะที่มีก้อนผิดปกติควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจเช็ค เพื่อความปลอดภัย และสามารถรักษาได้ทันเวลา
Write a comment