#7 ผลิตภัณฑ์กับขั้นตอนมหัศจรรย์ที่จะช่วยให้สิวยุบใน 1 คืน

ปัญหาสิว ผิวหน้าไม่พร้อมรับงาน

   เมื่อพรุ่งนี้มีงานเข้า ต้องใช้ใบหน้าหากินแต่ดันมีสิวเม็ดโต ๆ มาโผล่บนหน้าของเราซะได้ แล้วทีนี้จะทำอย่างไรดี    แบบนี้ต้องเปิดสัญญาณขอความช่วยเหลือแบบด่วน ๆ  เชื่อว่าปัญหานี้หลายคนต้องเคยเจอมาก่อนกับสถานการณ์เร่งรีบ แต่หน้าเราดันไม่พร้อม ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหาทางให้เจ้าสิวพวกนี้หายไปได้ในชั่วข้ามคืน ใครที่กำลังประสบกับปัญหานี้เรามีวิธีช่วยเพียงแค่ 7 ผลิตภัณฑ์กำจัดสิวกับขั้นตอนมหัศจรรย์ก็สามารถช่วยกู้งานผิวสิวยุบใน 1 คืนแบบเห็นผลชัดเจน มาดูกันว่าเราต้องทำอย่างไรกันบ้าง

7 ขั้นตอนมหัศจรรย์ช่วยให้สิวยุบใน 1 คืน

1. เช็ดหน้าด้วยคลีนเซอร์ให้สะอาด

            ก่อนอื่นเมื่อเรารู้แล้วว่าพรุ่งนี้เรามีงานใหญ่ให้เราเริ่มต้นจากการไปเช็ดหน้าด้วยคลีนเซอร์ เพื่อลบเอาสิ่งสกปรก และคราบเครื่องสำอางออกก่อน ซึ่งแน่นอนว่ามันจะช่วยในเรื่องของสิวที่จะอักเสบขึ้นมาในเบื้องต้น อีกทั้งเป็นการเปิดรูขุมขนด้วย โดยคลีนเซอร์สำหรับคนเป็นสิวที่เราอยากแนะนำก็จะมีดังนี้

Bifesta Cleansing Lotion Acne Care

ใครที่มักจะเป็นสิวบ่อย ๆ บอกเลยว่าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าของบีเฟสต้าเอาอยู่จริง ๆ โดยเฉพาะคลีนซิ่งโลชั่นสูตรน้ำสีเขียวตัวนี้ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อคนที่มีผิวแพ้ง่าย และมักจะเป็นสิวบ่อย ๆ เจ้าคลีนเซอร์ตัวนี้จะเข้ามาช่วยทำความสะอาดเครื่องสำอาง และสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจด เป็นสูตร Oil-free ทำให้ไม่เหนอะหนะผิว พร้อมมอบความสดชื่นคืนสู่ผิว  มีส่วนประกอบของสารฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว พร้อมสารลดการอักเสบ มาพร้อมสารบำรุง Hyaluronate ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว หมดกังวลเรื่องอาการแพ้ หรือกลัวว่าใช้ไปนาน ๆ รูขุมขนจะกว้าง เพราะไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม สี และสารกันเสียชนิดพาราเบนให้ต้องกังวล เป็นคลีนเซอร์ที่ได้ใจคนไปสิวไปเต็ม ๆ

ปริมาณ	90 ml
ราคา	90 THB

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก

สั่งซื้อออนไลน์คลิก

 

Bioderma Sebium H2O Purifying Cleansing Micelle Solution

สำหรับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับผิวในตำนานที่จะไม่ยกมาพูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ไบโอเดอมา ซึ่งเหมาะกับคนที่มีผิวผสม ผิวมัน หรือผิวมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย ซึ่งตัวรนี้ถือว่าเป็นคลีนซิ่งที่ขายดีอันดับต้น ๆ ของไทยเลน ด้วยการนำเทคโนโลยี Micellar Water มาช่วยขจัดสิ่งสกปรกหมดชนิดที่เรียกว่าหมดจดทุกคราบฝังแน่น ไม่ว่าจะสิ่งสกปรกจากเมคอัพ หรือมลภาวะฝุ่นควัน เช็ดครั้งเดียวก็เอาอยู่โดยไม่ต้องล้างน้ำซ้ำ  โดยคลีนซิ่งตัวนี้ได้มีการผสานคุณค่าของ Fluidactiv ที่มีส่วนสำคัญในการลดการสะสมของไขมัน และเซลล์ผิวเสื่อมสภาพไม่ให้อุดตันรูขุมขนจนเกิดเป็นอักเสบตามมา พร้อมทั้งมี  Zinc gluconate และ Copper Sulphate  ที่จะมาควบคุมการทำงานของต่อมไขมัน ต่อต้านแบคทีเรียต่าง ๆ และที่สำคัญปราศจากสารกันเสีย ไม่มีส่วนผสมของพาราเบน และการแต่งสี คนผิวแพ้ง่ายต้องไปสอยมาใช้สักขวดจริง ๆ 
       

ปริมาณ	250 ml
ราคา	790 THB

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก

สั่งซื้อออนไลน์คลิก

      ตัวนี้ใช้มาหลายขวดแล้ว ชอบมาก เช็ดเครื่องสำอางค์ได้สะอาด ส่วนตัวคือ ชอบบบ
รีวิวจาก Konvy: bu***12 อ่านรีวิวอื่น ๆ คลิก

      ได้รับตัวอย่างทดลองใช้ เป็นคลีนซิ่งวอเตอร์ที่โอเคมากๆเลยค่ะสำหรับเรา ซึ่งปกติเราจะหน้ามันรูขุมขนกว้าง เป็นสิวง่าย แพ่ง่าย มีสิวผด ผื่น หน้าแดง คัน สิวเม็ดเล็กใหญ่ผุดขึ้นช่วงแนวกราม และจะแสบหน้าค่อนข้างไว
แต่ตัวนี้คือเค้าดีจริงๆค่ะ หยดลงสำลี เช็ดๆถูๆคราบสกปรกบนใบหน้าก่อนทำการล้างหน้า เช็ดแรงๆไม่แสบหน้าเลย ข้างจมูกก็ไม่แสบไม่แดงเลย อ่อนโยนสุดๆ ไม่ระคายเคืองเลย
รีวิวจาก Vanilla: chanutporn อ่านรีวิวอื่น ๆ คลิก

2. ผลัดหัวสิวด้วย Ratin A

            หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนเซอร์แล้วต่อมาก็คือการหาผลิตภัณฑ์ที่สามารถละลายหัวสิวของเราได้ โดยทั่วไปเราอาจจะลองใช้มะนาวทาบริเวณหัวสิวได้ ซึ่งมันก็อาจจะทำให้เราแสบ และระคายเคืองผิวจากความเป็นกรด AHA ของมะนาว แต่ถ้าอยากจะได้อะไรที่ปลอดภัยกว่าลองแวะร้านยาแล้วซื้อกลุ่มตัวยาที่มาเรตินอยด์ (Retinoic Acid) มาใช้กัยดู โดยตัวที่แนะนำก็คือ Retin A

Retin A Cream 0.05%

มาถึงเจ้ายารักษาสิว Retin A  ที่ถือเป็นมหาเทพอีกตัวสำหรับคนต้องการรักษาสิวยาทาสิว เป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ ใช้อย่างไรสยบสิวอย่างได้ผล และปลอดภัย ในครีมตัวนี้มีคุณสมบัติที่ใช้ในการรักษาสิวโดยตรง และใช้ควบคู่กับยารักษาสิวตัวอื่น ๆ ได้ยกเว้นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA BHA เดี๋ยวจะทำให้ผิวบาง นอกจากนี้ในครีมยังมีส่วนประกอบสำคัญอย่างเตรทติโนอิน (Tretinoin) เป็นอีกชื่อของกรดวิตามินเอที่มีความเข้มข้นอยู่ที่ 0.025% และ 0.5% มีสรรพคุณเรื่องการผลัดเซลล์ผิว รักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวหนังหนองต่าง ๆ ที่เกิดจากการสะสมของแบคทีเรียใต้ผิวหนัง ควรเริ่มใช้จากความเข้มข้นน้อย ๆ ก่อน และให้แค่วันละครั้งก่อนนอน ใครใช้แล้วหัวสิวก็จะผุดออกมาห้ามแกะเกา หาทาย้ำลงอีกจนกว่าหัวสิวจะถูกดันออกมาเอง หลีกเลี่ยงการใช้ครีมตัวนี้ในตอนกลางวันเพราะมันทำให้ผิวไวต่อแสงมาก
       

ปริมาณ	10 ml
ราคา	200 THB

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก

สั่งซื้อออนไลน์คลิก

3. ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น

            ขั้นตอนต่อมาหลังจากที่เราทา Retin A ทิ้งไว้ราว ๆ 20 นาทีแล้วก็ให้เราไปอาบน้ำ พร้อมกับล้างหน้าของเราด้วยน้ำอุ่น ๆ เพื่อเป็นการเปิดรูขุมขน เพราะว่าผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ไปก่อนหน้านี้มีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิว ละลายหัวสิวซึ่งมันจะทำให้หัวสิวโผล่ออกมาเป็นสีขาว ๆ หรือหัวหนอง ซึ่งผิวเราจะบอบบางมากในช่วงหลังอาอาบน้ำเสร็จ

4. กดสิวออกด้วยวิธีที่ถูกต้อง

            จากนั้นให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นหมาด ๆ แล้วมาซับให้ทั่วไปหน้า ใช้อุปกรณ์กดสิวด้านหัวแหลมสะกิดตรงบริเวณหัวสิวให้ เปิดออก ย้ำว่าแค่สะกิดเบา ๆ จากนั้นให้ใช้อีกด้านกดลงไปเบา ๆ เพื่อให้หัวสิวโผล่ออกมา แล้วให้ใช้สำลีชุบน้ำเกลือมาเช็ดบริเวณแผลสิวเพื่อฆ่าเชื้อโรค อย่ากดแรงจนเกิดไปเพราะอาจทำให้เกิดหลุมสิวขนาดใหญ่ ลองดูวิธีกดได้ตามอินเทอร์เน็ต

5. ทาหน้าด้วยเจลว่านหางจระเข้

            หลังจากนั้นให้ทาเจลว่านห่างจรเข่ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าชั้นนำทั่วไป การใช้เจลว่านหางก็เพื่อเป็นการทำให้แผลแห้งเร็วขึ้น พร้อมไปกับการฟื้นฟูผิวไม่ให้เกิดรอยดำ รอยแดง หรือเกิดการอักเสบอีก อีกทั้งยังให้ความชุ่มชื้นกับผิวหลังการกดสิวด้วย เพราะถ้าหากผิวแห้งตึงก็อาจเกิดการระคายเคืองได้ โดยเจลว่านหางที่เราจะแนะนำวันนี้ก็เป็นของ Smooto สูตรสีเขียว

Smooto Japan Aloe-E Snail Bright Gel

ถ้าเป็นเจลว่านหางจระเข้ที่มาแรงในตอนนี้ก็ต้องยกให้กับ Smooto เลยเพราะว่ามีเจลว่านหางเข้มข้นถึง 99.5% แถมยังเป็นเนื้อเจลอ่อนนุ่มบางเบาทำให้สามารถซึมซาบสู่ผิวได้รวดเร็ว เพื่อไปฟื้นบำรุงผิว พร้อมเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีส่วนผสมของวิตามินอีที่จะมาทำหน้าที่สมานผอวส่วนที่ถูกทำร้ายลดรอยแผลจากสิว รอยดำ รอยแดง จุดด่างดำต่าง ๆ บวกกับสารสกัดเมือกหอยทากจากธรรมชาติ (Snail secretion) ที่ผสานพลังกับ    ไฮยาลูรอนซึ่งมาช่วยฟื้นฟูผิวแห้งกร้าน ริ้วรอยต่าง ๆ ให้กลับมาเต่งึตงอีกครั้ง ปราศจากสารอันตราย และไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ด้วยทำให้เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวบอบบางแพ้ง่าย       

ปริมาณ	50 ml
ราคา	49 THB

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก

สั่งซื้อออนไลน์คลิก

6. ใช้เจลแต้มสิว

          ขั้นตอนต่อมาแน่นอนว่าท้ายที่สุดเราต้องมองหาตัวช่วยดี ๆ อย่างเจลแต้มสิวที่ปัจจุบันมีการผลิตออกมามากมายหลากหลายแบรนด์ และดี ๆ ทั้งนั้น ส่งตรงมาเพื่อคนเป็นสิวโดยเฉพาะ ซึ่งการเลือกเจลแต้มสิวเราอาจต้องพิจารณาในส่วนของส่วนประกอบเพราะบางที่เราอาจแพ้ หรือไม่เหมาะกับสภาพผิวของเรา ดังนั้น เจลแต้มสิวที่เอามาแนะนำ 2 ตัวนี้เป็นเจลที่ใช้ได้ทุกสภาพผิว และไม่มีสารอันตรายต่อผิวของเราแน่นอน

Smooth E Acne HydroGel

              เริ่มกันด้วยเจลแต้มสิวจากแบรนด์ที่คุ้นหูแน่นอนกับ Smooth E ที่โด่งดังในเรื่องการผลิตสกินแคร์  และโฟมล้างหน้าดูแลปัญหาผิวต่าง ๆ ซึ่งตัวนี้เป็นครีมรักษาสิวที่ขายดีมากเป็นอันดับต้น ๆ ในบรรดาผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เหมาะกับคนที่ผิวหน้าบอบบางต้องการครีมรักษาสิวที่ไม่แรงมาก เจ้าครีมตัวนี้ได้ผ่านการทดสอบทางการแพทย์มาแล้วว่าสามารถกำจัดสิวได้โดยไม่ทำให้ระคายเคืองผิว เป็นสูตร Acne Hydrogel แถมในหลอดนี้หลอดเดียวมีส่วนประกอบสำคัญมากมายอย่างตัวยา Salicylic 2% ในรูป matrix ที่จะค่อย ๆ ถูกปลดปล่อยออกมาสลายสิ่งอุดตันในรูขุมขนได้ยาวนาน และไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง Oligopeptide-10 ช่วยต่อต้านการติดเชื้อแบคทีเรีย P.Acnes สาเหตุหลักของการเกิดสิว Zingiberofficinale root extract ช่วยลดอาการอักเสบ บวม แดง และการระคายเคืองผิว ดูแลครบครันมากจริง ๆ

ปริมาณ	10 ml
ราคา	236 THB

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก

สั่งซื้อออนไลน์คลิก

Vitara Anti Acne Gel

       เจลแต้มสิวสูตรใหม่ มาแรง ที่เรียกว่าเหมาะกับคนสภาพผิว    แพ้ง่ายบอบบางเพราะว่าไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เป็นเจลแต้มสิวที่มีฤทธิ์ในการสลายสิวอักเสบได้อย่างรวดเร็ว ถูกออกแบบมาเพื่อดูแลปัญหาสิวต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นสิวประเภทใดก็รักษาได้แบบอยู่หมัด อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวในขณะที่ทา และหลังด้วยเพื่อลดอาการแห้งตึง ระคายเคืองบริเวณผิว ส่วนประกอบสำคัญในเจลตัวนี้ก็คือ Zinc PCA ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าจะบำรุงผิว ลดสิวอักเสบ พร้อมควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้า แล้วมาผสานพลัง Salicylic acid ที่มาช่วยในส่วนของการผลัดเซลล์ผิว ไม่เพียงเท่านั้นยังได้สารสกัดสำคัญจากเห็ด Fomes Officinalis  ซึ่งจะพบได้แค่ในประเทศแถบยุโรปตะวันออกเท่านั้น ซึ่งมีคุณสมบัติในเรื่องการกักเก็บความชุ่มชื้น และช่วยกระชับรูขุมขน และปิดท้ายด้วยสารสกัดจากใบบัวบกเพื่อลดรอยสิว และจุดด่างดำอย่างล้ำลึก
   

ปริมาณ	10 ml
ราคา	185 THB

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก

สั่งซื้อออนไลน์คลิก

TOMEI Clindai Gel

      มาถึงเจลแต้มสิวจากแบรนด์ดังอย่าง Tomei ซึ่งเป็นไอเท็มเด็กดที่คนเป็นสิวด้วยกันเองมักจะแนะนำ เพราะเป็นเจลที่สามารถดูแลปัญหาผิวได้ถึง 7 ประการอันเป็นผลมาจากสารสกัดสำคัญ ๆ ที่รวมไว้ในเจลตัวนี้อย่างสารสกัดจากดอก Meadowsweet ที่จะมาทำหน้าที่ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย P. acnes ต้นตอของสิว ลดอาการบวมแดงจากการอักเสบของสิว ลดความมัน สารสกัดจากดอกของต้นกระบองเพชรmujช่วยผลัดเซลล์ผิว เพื่อลดการอุดตันของรูขุมขน อีกทั้งยังมีสารสกัดจากต้น Garden Cress ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวหน้าให้กระจ่างใส และมีวิตามิน B3  ที่จะมาลดการเกิดรอยแผลเป็นจากสิว สมานผิวให้รูขุมขนกระชับ พร้อมไปกับการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวไม่แห้งตึง ยังไม่รวมกับส่วนประกอบอื่น ๆ อีกมากมายที่ต้องบอกว่าสามารถจบทุกปัญหาสิวได้ในหลอดเดียวจริง ๆ

ปริมาณ	5 ml
ราคา	115 THB

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก

สั่งซื้อออนไลน์คลิก

7. นอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่

      เคล็ดลับสุดท้ายก็สำคัญมาก ๆ ไม่แพ้กันถ้าเราอยากจะให้สิวของเราหายเร็ว ๆ หรือสิวยุบใน 1 คืนแล้วก็จำเป็นต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลับให้เต็มอิ่ม เพื่อให้ร่างกายได้สร้างฮอร์โมนสเตียรอยด์ธรรมชาติ (Glucocorticoids) ซึ่งมันจะมีส่วนช่วยในเรื่องต้านการอักเสบ และมีผลโดยตรงต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ถ้าเรานอนไม่พอฮอร์โมนตัวนี้จะผลิตน้อย และทำงานผิดปกติและนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้สิวของเราไม่ยุบแล้วยังอักเสบอีก โดยฮอร์โมนตัวนี้จะผลิตออกมามากเมื่อเรารู้สึกเครียด แล้วก็ทำให้เรานอนน้อยลงจากความเครียดนั้นทำให้ผิวของเราอ่อนแอ และแพ้อะไรง่ายมาก ๆ ดังนั้น นอนให้พอจะดีต่อผิวของเรา

บทสรุป 7 ผลิตภัณฑ์กับสุดยอดขั้นตอนที่ทำให้สิวยุบใน 1 คืน

            เชื่อว่าใครที่ได้อ่าน ๆ มาก็จะพบว่ามันเป็นขั้นตอนง่าย ๆ ที่ต้องอาศัยผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เข้ามาช่วย เพราะปัจจุบันมีไอเท็มมากมายที่ผลิตออกมาช่วยคนที่มีปัญสิวให้หายได้อย่างรวดเร็วอย่างที่เราได้แนะนำไปว่าสิวยุบใน 1 คืน แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องดูแลผิวของเราด้วยความพิถีพิถัน ยิ่งถ้าเรารู้กันสัก 2 – 3 วันว่าจะมีงานแต่ผิวหน้ายังไม่พร้อมก็ต้องรีบดูแลผิวเลยอย่ารอให้ใกล้วัน บางคนที่นำวิธีเหล่านี้ไปใช้แล้วก็อาจจะมีคำถามว่ามันจะหายสนิทเลยไปไหม อันนี้ต้องบอกว่าสิวมันเพียงแค่ยุบลงไปให้เราแต่งหน้าง่ายกว่าเดิมเท่านั้น แต่จะให้หายสนิทอาจต้องใช้เวลาอีก 2 – 5 วันแบบไม่ทิ้งรอย ซึ่งเราก็ต้องหมั่นดูแลผิวหน้าตามขั้นตอนนี้ เพียงแค่ไม่ต้องกดสิวทุกวัน เชื่อว่าใครทำตามนี้ผิวหน้าของเราจะดีขึ้น หมดปัญหา สิวยุบใน 1 คืนแน่นอน