คอลลาเจนช่วยอะไร สำคัญต่อเราแค่ไหน ไปหาคำตอบกัน!
ในยุคสมัยนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักคำว่า “คอลลาเจน” เพราะคำนี้ถูกฝังหัวจากสื่อต่างๆ รวมถึงวงการความสวยความงามถึงสรรพคุณที่เป็นตัวช่วยในเรื่องของความงาม ให้คุณสาวๆ แลดูอ่อนเยาว์ เปร่งปรั่ง สวยสะพรั่งด้วยคอลลาเจนตัวเดียว แล้วสรรพคุณของคอลลาเจนนั้นดีจริงอย่างที่ใครๆ ต่างเคลมไว้หรือไม่ คำตอบอยู่ที่นี่แล้ว
คอลลาเจน คืออะไร? คอลลาเจนคือโปรตีนชนิดหนึ่งที่อยู่ภายใต้ชั้นผิวหนังแท้ เป็นส่วนประกอบหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และเป็นส่วนประกอบของผิวหนังในชั้นผิวหนังแท้ ซึ่งร่างกายของคนเราประกอบไปด้วยคอลลาเจนมากถึง 90% เลยทีเดียว ซึ่งโดยปกติแล้วร่างกายจะสามารถผลิตและสร้างคอลลาเจนได้จนถึงอายุประมาณ 20 ปี หลังจากอายุ 20 ปีขึ้นไป ร่างกายยังสามารถสร้างคอลลาเจนได้เช่นเดิม แต่จะสร้างได้ในปริมาณที่น้อยลง แล้วคอลลาเจนช่วยอะไร และมีประโยชน์อันใดกับร่างกายของเราบ้างล่ะ?
ปัจจุบันเรามักจะเห็นคอลลาเจนในรูปแบบอาหารเสริมมากมาย หลากหลายยี่ห้อ หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นคอลลาเจนที่สกัดจากปลาทะเลน้ำลึก คอลลาเจนที่สกัดจากสาหร่ายทะเล คอลลาเจนผสมกลูตา คอลลาเจนบริสุทธิ์ 100% คอลลาเจนแบบผงชง แคปซูลคอลลาเจน ครีมที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นอาหารผิวชั้นดีเลยก็ว่าได้ แล้วคอลลาเจนช่วยอะไรกันล่ะ?
หน้าที่หลักของคอลลาเจน
- คอลลาเจนช่วยให้ผิวของเรามีความยืดหยุ่น เต่งตึง เรียบเนียน และมีความทนต่อแรงดึงดูด เพราะคอลลาเจนเปรียบเสมือนกาวที่ช่วยยึดเกาะให้เนื้อเยื่อและชั้นผิวหนังของเรา คอยสร้างความแข็งแรงให้กับเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย และมีหน้าที่คอยเชื่อมเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ของร่างกายเข้าไว้ด้วยกัน คอลลาเจนจะพบมากบริเวณผิวหนัง กระดูกและข้อต่อ เมื่ออายุมากขึ้นคอลลาเจนจะเสื่อมลงตามวัย เมื่อคอลลาเจนในร่างกายลดน้อยลง ผลที่ตามมาที่เห็นได้ชัดคือความหย่อยคล้อยของผิวหนัง ผิวพรรณมีจุดด่างดำ ผิวแห้งกร้าน ไม่เรียบตึง เกิดร่องรอยได้ง่าย เป็นสัญญาณเตือนของอายุที่ร่วงโรย และไม่เพียงแต่อายุที่มากขึ้นเท่านั้นที่ทำให้คอลลาเจนในร่างกายลดลง อาการป่วย และความเครียดก็เป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงเช่นเดียวกัน
- คอลลาเจนช่วยให้เส้นผม และเล็บแข็งแรง จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่า การรับประทานคอลลาเจนเปปไทด์ 5 กรัมต่อวันเป็นเวลา 8 สัปดาห์ จะช่วยให้ผมดูมีชีวิตชีวา ไม่ขาดหลุดร่วง ผมดูหนานุ่มและสุขภาพดี ให้ผมที่แห้งเหี่ยวกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และด้วยปริมาณของเจลาตินที่ประกอบด้วยคอลลาเจนเปปไทด์ยังช่วยบำรุงเล็บที่เปราะบางให้แข็งแรง ทนทานอีกด้วย นอกจากเรื่องผิวพรรณ เส้นผม และเล็บแล้ว คอลลาเจนช่วยอะไร และมีประโยชน์ต่อร่างกายยังไงอีกบ้าง?
https://beauty-worthen.com/2019/06/28/collagen-face/
- คอลลาเจน ยังมีส่วนสำคัญในการช่วยเสริมสร้างกระดูกและข้อให้แข็งแรง สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องโรคกระดูก และโรคข้อเสื่อม จากงานวิจัยที่ศึกษาประสิทธิภาพของคอลลาเจนพบว่า คอลลาเจนชนิดที่ 2 หรือคอลลาเจนที่มีคุณสมบัติช่วยลดอาการเสื่อมของข้อ และช่วยบำรุงกระดูก สามารถดูดซึมผ่านลำไว้ของเราและไปสะสมที่กระดูกอ่อนได้ ซึ่งจะสามารถลดภาวะความสึกกร่อนของกระดูกอ่อน เพราะเมื่ออายุมากขึ้น มวลกระดูกของเราจะต่ำลง และแคลเซียมจะถูกสลายออกจากกระดูกของเรามากขึ้น รวมถึงเนื้อเยื่อเกี่ยวพันเริ่มอ่อนตัว ไม่มีความแข็งแรง ก่อให้เกิดภาวะกระดูกพรุน กระดูกกร่อน และโรคไขข้อเสื่อม การได้รับคอลลาเจนชนิดที่ 2 ในปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน จะช่วยซ่อมแซมกระดูกอ่อนที่สึกหรอบริเวณข้อ, กระตุ้นการสังเคราะห์เซลล์กระดูกอ่อนเพิ่มขึ้น, เพิ่มระดับ กรดไฮยาลูโรนิคซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำหล่อเลี้ยงในข้อ, ยังยับยั้งการทางานของเอนไซม์ที่ขัดขวางการผลิตน้ำหล่อเลี้ยงข้อ, ช่วยลดอาการปวดข้อ เพิ่มความสามารถในการเคลื่อนไหวให้ดียิ่งขึ้น
- คอลลาเจนช่วยลดอาการปวดข้อต่างๆได้ เช่นการปวดข้อต่างๆที่เกิดจากการออกกำลังกายอย่างหนักของนักกีฬาเนื่องจากมีการทดลองจากการวิจัยพยว่านักกีฬาที่กินคอลลาเจนเข้าไป”อาการปวดเข่า”ของพวกเขาดีขึ้น
เมื่อรู้แล้วว่าคอลลาเจนช่วยอะไร คราวนี้มาดูวิธีการเพิ่มคอลลาเจนให้กับร่างกายดีกว่าว่าสามารถทำได้อย่างไรบ้าง
วิธีเพิ่มคอลลาเจนให้กับร่างกาย
- เราสามารถเติมคอลลาเจนให้กับเซลล์ผิวด้วยการทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ อาทิ
- ผักที่มีสีเขียว เพราะผักใบเขียวมีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันโรคต่างๆ อีกทั้งยังสามารถช่วยป้องกันการสลายของคอลลาเจนก่อนวัยอันควร นอกจากนี้ผักใบเขียวยังอุดมไปด้วยคลอโรฟิลล์ชนิด LL ที่ช่วยเพิ่มปริมาณของโปรคอลลาเจนในผิวหนัง ซึ่งคลอโรฟิลล์จะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีที่เป็นอันตราย รวมถึงอนุมูลอิสระที่นำไปสู่ความชราของผิว
- ผลไม้ที่มีสีแดง เนื่องจากมีสารไลโคปีน โดยสารไลโคปีนตัวนี้มีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวของเราละเอียด เรียบเนียน กระชับ ชะลอการเกิดริ้วรอย และยังช่วยป้องกันรังสียูวีจากแสงแดดอีกด้วย
- ถั่วต่างๆ เพราะว่ามีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ไม่ว่าจะเป็นอัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วลันเตา โดยเฉพาะถั่วเหลือง เพราะในถั่วเหลืองประกอบไปด้วยกรดอะมิโนถึง 3 ชนิด ได้แก่ ไกลซีน กลูตามิก ซิสเตอีน ซึ่งช่วยให้ร่างกายผลิตกลูต้าได้มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังมีไอโซฟลาโวนส์ที่ช่วยเร่งการผลิตคอลลาเจนให้กับผิวอีกด้วย
- เนื้อปลาทะเล เป็นอาหารจากธรรมชาติอันดับต้นๆ ที่ให้คอลลาเจนสูง ไม่ว่าจะเป็น ปลาแซลมอล ทูน่า ปลาทู เนื่องด้วยเนื้อปลาเป็นโปรตีนคุณภาพสูง มีกรดไขมันโอเมก้าสูง และไขมันต่ำ รวมถึงมีคอลลาเจนในปริมาณที่มาก โดยเฉพาะบริเวณเนื้อเยื่อของตาและหนังของปลา เป็นต้น
- กระดูกอ่อนของสัตว์ เป็นอวัยวะที่สำคัญที่เป็นแหล่งคอลลาเจนชั้นเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นกระดูกอ่อนหมู กระดูกวัว หรือแม้แต่ตีนไก่ ก็พบคอลลาเจนในปริมาณที่สูงเช่นเดียวกัน
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นชนิดพิเศษ ที่มีประสิทธิภาพมากกว่ามอยซ์เจอไรเซอร์ทั่วไป เพื่อเติมคอลลาเจนให้กับเซลล์ผิว จะสังเกตได้จากส่วนผสมที่ประกอบด้วย ไฮโดรไลซ์ คอลลาเจน,ไฮโดรไลซ์ อีลาสติน,โปรคอลลาเจน,เอเอชเอ เป็นต้น ที่สำคัญควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน และเหมาะกับผิวของตัวเอง เพื่อป้องกันอาการแพ้ที่เกิดจากผลข้างเคียงของผลิตภัณฑ์
ไหนๆก็พูดถึงไฮโดรไลซ์คอลลาเจนกันไปแล้วเรามาดูกันดีกว่าว่ามีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในท้องตลาดตัวไหนบ้างที่มีส่วนผสมของไฮโดรไลซ์คอลลาเจนกันบ้าง
★★Village 11 Factory Collagen Ampoule★★
เซรั่มคอลลาเจนสูตรเข้มข้นแต่เนื้อบางเบาดุจปุยนุ่นเรื่องการซึมสู่ผิวนี่ไม่ต้องห่วงนางซึมซาบลงสู่ผิวได้เร็วและแน่นอนส่วนผสมหลักของนางก็คือ ไฮโดรไลซ์คอลลาเจน บำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึกช่วยให้ผิวแข็งแรงและคงความอ่อนเยาว์
7พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง
หากไม่อยากให้คอลลาเจนหายไปจากร่างกาย
- งดรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง
- งดรับประทานอาหารประเภทปิ้งย่างและอาหารกึ่งสำเร็จรูป
- เลิกออกไปเจอมลภาวะทางอากาศเช่น ฝุ่น ควัน และสารเคมีจากยาฆ่าแมลง
- เลิกสูบบุหรี่หรือดมควันบุหรี่จากคนอื่น
- ไม่ตากแดดหรือทำกิจกรรมในที่แจ้งเพราะแสงยูวีเป็นตัวทำลายคอลลาเจน
Write a comment