เพื่อนๆคนไหนที่แต่งหน้าเป็นประจำ จะรู้เลยว่าแค่เขียนคิ้วอย่างเดียว บางทีก็ปาไปครึ่งชั่วโมงแล้ว !! กว่าจะขึ้นโครง ไล่สี ค่อยๆแต้ม ค่อยๆเติม ห้ามเร่งนะ เดี๋ยวสองข้างไม่เท่ากันอีก วันไหนรีบๆนี่ต้องพกดินสอเขียนคิ้วไปแต่งกันบนรถ หรือที่ทำงานเลยทีเดียว เพราะชีวิตนี้ขาดคิ้วไม่ได้ !! ไม่แต่งส่วนอื่นได้แต่คิ้วต้องมี !!
เพราะฉะนั้นหลายคนจึงนิยมสักคิ้วไปเลยดีกว่า เพราะมันสบายขึ้นเยอะมากกกก แถมมีคิ้วสวยทุกวัน แต่ถ้าใครที่ยังกล้าๆกลัวๆ ไม่รู้จะสักดีไหม ลองดูข้อดีของการสักคิ้วแบบฝุ่นหรือสไลด์ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ก่อนได้นะคะ นอกจากนี้ก็ยังมีรีวิวมาฝากด้วย จะเป็นอย่างไรนั้น ไปชมกันเลยค่าาาาา
สักคิ้วแบบฝุ่นหรือสไลด์ ดีอย่างไร ?
รีวิวสักคิ้วแบบฝุ่นโดยชาว Pantip
เราเป็นคนที่เขียนคิ้วไม่เป็น และมันเป็นปัญหาในชีวิตมากกก ทุกวันเราต้องเขียนคิ้วเพื่อออกไปเรียน ซึ่งเอาจริงๆนะมันเป็นเรื่องที่โคตรรรรของโคตรยาก ยากที่สุดบนหน้าแล้วล่ะ เลยตัดสินใจจะต้องสักคิ้วละ
เริ่มจากการที่มองหาร้านทำคิ้วที่เราคิดว่าทำสวย และราคาสมเหตุสมผลก็หาไปเรื่อยๆ อยู่ 3 เดือนเลยนะ จนมาเจอร้านนี้ เราก็โทรถามรายละเอียด เค้าคุยดี ถามอะไรก็ตอบหมด แต่เราก็ยังกล้าๆกลัวๆอยู่นะ เรายังมีความกังวลเรื่องเจ็บ เรากลัวเข็มมาก แล้วเราก็ไม่เคยทำอะไรกับหน้าเลย ไปอ่านรีวิวที่มีคนเคยมาทำที่นี่ หลายคนที่มารีวิวก็บอกว่าไม่เจ็บ ยาชาโอเค เราเลย เอาก็เอาวะ ลุย!!! เลยจองคิวไปเลย (หุหุ เอาแล้วสินะ จะมีคิ้วล้าววว)
พอถึงวัน เรานี่โคตรตื่นเต้นอ่ะ เราไปรถไฟฟ้า ลงอนุสาวรีย์แล้วเดินไปหน่อยเดียว พอไปถึงร้านก็มีพี่ๆพนักงานมาต้อนรับ ก็คุยเป็นกันเองน่ารักดี ร้านก็ดูโอเค สะอาด ดูมั่นใจได้เรื่องความปลอดภัย ตอนนั่งรอก็มีลูกค้าวนเวียนมาทำเล็บตลอด
พอถึงเวลา พี่พนักงานก็จะเรียกเราไปทำความสะอาด ถ่ายรูปก่อนทำไว้แล้วพี่พัดคนทำคิ้วก็เข้ามาคุยกับเรา พี่เค้าน่ารักมากกกและเป็นกันเองสุดๆ พี่เค้าจะถามก่อนว่าเราชอบแบบไหน พอเราบอกไปพี่เค้าก็จะแนะนำ แบบนี้ทำได้ แบบนี้ทำได้เหมือนกันแต่ไม่สวย คือเค้าให้ข้อมูลละเอียดมาก ไม่ใช่มาถึงก็สักๆเลย แต่เหมือนต้องคุย ปรึกษากันก่อน เพื่อถามถึงความต้องการของเรา
แล้วเค้าดูใจเย็นมาก ตอนออกแบบโครงคิ้วให้เรา เค้าดูตั้งใจมาก ดูพิถีพิถัน แล้วพอเค้าเขียนเสร็จเค้าให้เราดูว่าชอบมั้ย คือโมเม้นต์แรกเราชอบทรงเลยนะ ก็ตกลงทรงนี้แหละ เราชอบแบบนี้เลย ก็เริ่มเลย ใส่ยาชา 15 นาที
พอได้เวลา ก่อนจะสัก พี่เค้าก็จะมาคุยเรื่องสีคิ้วที่เราต้องการ มันดูเหมือนปรึกษากัน คือมันไม่ใช่เอาแต่ใจช่างหรือเอาแต่ใจลูกค้าอย่างเดียว เค้าแนะนำสิ่งที่เหมาะสมกับเราที่สุดซึ่งมันทำให้เรารู้สึกสบายใจและมั่นใจว่าจะออกมาดี และทุกขั้นตอนเค้าจะบอกเราตลอดให้เรารู้ว่ากำลังจะทำอะไร เราชอบนะ มันเหมือนกับเค้ารู้ว่าเราเองก็กังวล
พอเริ่มสักมันไม่เจ็บเลยซักนิด จริงๆ คือมันไม่รู้สึกอะไรเลยอ่ะ เรานี่ก่อนจะทำเกร็งไปหมด พอสักแล้วไม่เจ็บ สบายละเราคิดในใจ แล้วทำไมไม่มาทำตั้งนานแล้ววะเนี่ย… แล้วเค้าก็ชวนเราคุยไปเรื่อยๆ เพลินๆ รู้ตัวอีกทีคือเสร็จแล้ว แบบงงๆ แล้วเค้าจะให้เราเช็คความเรียบร้อยดูว่าโอเคมั้ย ซึ่งมันโอเคแล้วสำหรับเรา จบด้วยคิ้วจะเข้มหน่อยๆวันแรก เพราะพึ่งสักเสร็จ ส่วนใหญ่ก็จะแบบนี้แหละ เพราะเราถามเพื่อนที่เคยทำมาก็เป็นแบบนี้
♦ BEFORE ♦
♦ AFTER ♦
หลังจากลอกหมดแล้ว เราใช้เวลาในการลอกทั้งหมด 4 วัน ผลที่ได้ถือว่าเราพอใจมากเลย โดยเฉพาะ ไม่ต้องตื่นแต่เช้าเพราะต้องเผื่อเวลาที่ต้องเขียนคิ้วอีกต่อไป นี่ยังมีต้องไป follow up อีกครั้งตอนสองเดือน เราว่ามันก็โอเคแล้วนะ โดยรวมๆเราแฮปปี้เลยอยากมาบอกต่อ — คุณ สมาชิกหมายเลข 3890163 อ่านกระทู้เพิ่มเติมคลิกที่นี่
ด้วยความที่เราเป็นคนที่คิ้วบางมาก เมื่อ 10 ปีก่อน เราก็เคยสักคิ้วแบบที่เค้านิยมกัน ทรงก็จะเล็กเรียว แล้วก็เขียนคิ้วเวลาออกไปไหนมาไหนตลอด ด้วยความที่กว่าจะออกจากบ้านได้ต้องเขียนคิ้วกันอยู่นาน ก็เลยตัดสินใจสักคิ้วสไลด์
โดยหาร้านและดูรีวิวจากคนที่ทำมาแล้วอยู่พักนึง ก็ได้ที่แถวเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เพราะใกล้ที่พัก เราติดต่อร้านเข้าไปทำ
ขั้นตอนแรกช่างเค้าก็ให้เราโปะยาชาแบบครีมสีขาว แล้วก็เอาพลาสติกแบบที่ห่อผลไม้นั่นแหละแปะคิ้วเอาไว้ ประมาณ 45 นาที พอยาชาออกฤทธิ์ช่างก็เอาดินสอเขียนคิ้ววาดทรงคิ้วสวยให้เราจากนั้นช่างก็ให้เราเลือกเฉดสี เราเลือกสีน้ำตาลเข้มสุด
แล้วช่างก็แกะเข็มใหม่ให้เราดู จากนั้นก็ใส่แหวนที่ผสมสีน้ำตาลเข้ม แล้วก็ลงมือสัก เราได้ยินเสียงเข็มสักดังหวี่ๆๆๆ ที่ข้างหู แต่ความรู้สึกคือไม่เจ็บ ช่างก็เช็ดยาชาชนิดน้ำลงบนคิ้ว ใช้เวลาสักประมาณ 1 ชั่วโมงก็เสร็จ ครั้งนั้นเราจ่ายไป 1,590 บาท (เป็นราคาโปรโมชั่น) ค่ะ
♦ BEFORE ♦
♦ AFTER ♦
หลังจากสักคิ้วสไลด์เสร็จใหม่ๆ ไม่เจ็บเลยนะ กลับห้องมารีบถ่ายรูปเอาไว้เลย คิ้วก็จะเยิ้มเพราะว่าช่างโปะวาสลีนมาให้ วันแรกให้เราล้างหน้าได้ปกติ หลังจากนั้นห้ามโดนน้ำ ห้ามแต่งหน้า (แต่เราแอบแต่งแต่ไม่โดนคิ้ว) เวลาล้างหน้าก็ใช้หมวกคลุมอาบน้ำ เพื่อเวลาล้างหน้าไม่ให้โดนคิ้ว ช่วงแรกที่ห้ามโดนน้ำ หน้าผากก็จะเขลอะหน่อย อดทนกันไปจ้า หลังจากล้างหน้า ก่อนนอนก็จะทาวาสลีนที่คิ้ว ทะนุถนอมมากๆ
หลังจากสักคิ้วได้ 3 วัน เลยจุดที่ห้ามโดนน้ำ เราก็โปะวาสลีนก่อนล้างหน้า เริ่มล้างหน้าผากได้ สระผมได้ ความรู้สึกคือโล่งไปหมด พอเริ่มลอกก็แต่งหน้าไปทำงาน หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตปกติ ช่างบอกว่าถ้าไม่ติด หรืออยากให้เข้มขึ้น ก็สามารถไปย้ำคิ้วได้ โดยคิดราคา 1,000 บาท แต่ถ้าเราพอใจแล้วก็ไม่ต้องย้ำคิ้วก็ได้ แต่ด้วยความที่เราชอบแต่งหน้าเวลาออกไปไหน พอเข้าเดือนที่ 2 หลังสักคิ้วสไลด์ เราก็นัดเติมคิ้ว
ทายาชาแบบครีม ปิดพลาสติก (แบบที่ซีนผลไม้ตัดแต่ง) ที่คิ้ว 45 นาที คราวนี้เราเลือกสีช็อคโกแลต ช่างก็สักให้เราแบบเบามือ แต่คิดว่าลงลึกว่าครั้งแรก ความรู้สึกสะเทือนตรงบริเวณโหนกคิ้ว แต่ไม่เจ็บ ครั้งนี้ 30 นาทีก็เสร็จ แล้วช่างก็บอกให้เราดูแลเหมือนครั้งแรกที่สักเลย จากนั้นก็ป้ายวาสลีนให้เรา
ปัจจุบันหลังทำได้ 3 วัน คิ้วยังไม่ลอก ไม่ได้เขียนคิ้ว แค่เอาสีไฮไลท์ดั้ง รู้สึกแต่งหน้าแล้วก็หน้าคมขึ้น ไม่ต้องใช้เวลาเขียนคิ้วนานมากเหมือนแต่ก่อน ได้ทรงคิ้วที่พอใจ คือถ้าใครชอบแต่งหน้า อยากใช้เวลาแต่งหน้าแป๊บเดียว ทำคิ้วสไลด์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ชีวิตจะง่ายขึ้นมากๆเลย — คุณ tuktacherry อ่านกระทู้เพิ่มเติมคลิกที่นี่
ขอแนะนำ 7 ร้านสักคิ้ว ใครทำก็ติดใจ
บทสรุปสักคิ้วแบบฝุ่น
การสักคิ้วแบบฝุ่น หรือบางร้านอาจจะเรียกว่าการสักคิ้วสไลด์ โดยรวมแล้วมีลักษณะคล้ายกัน คือเป็นการสักแบบทึบ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องระวังคือ ไม่ควรใช้สีที่เข้มมาก หรือสักแน่นจนเกินไป จะทำให้ดูหนาเป็นคิ้วปลิงได้ ช่างสักต้องมีความชำนาญ ทำให้สีดูฟุ้งๆเบลอๆ
และไล่สีได้อย่างสวยงาม เหมาะสำหรับคนที่ชอบแต่งหน้า หรือแต่งหน้าบ่อยๆ เพราะเมื่อสักแล้วคุณจะได้คิ้วที่เหมือนเขียนมาเรียบร้อย หากวันไหนต้องออกงาน แต่งหน้าเยอะๆ หรืออยากให้เข้มขึ้น ก็สามารถใช้ดินสอเขียนคิ้วเติมลงไปอีกได้ นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนที่ชอบเปลี่ยนทรงคิ้วตามเทรนด์ เพราะไม่เกิน 1 ปี สีก็หลุดหมด เปลี่ยนทรงใหม่ได้ตามใจชอบเลยยยย