เย้ สวัสดีค่าสาวๆ Beauty – Worthen >_< วันนี้เป็นบทความที่ผู้เขียนอยากเขียนมากที่สุดเลย!! นั่นก็คือ “7 รองพื้นถูกและดี 2020” นั่นเองงงงงง ซึ่งต้นปีแบบนี้สาวๆคงกำลังมองหารองพื้นตัวใหม่กันอยู่ใช่ไหมคะ วันนี้ทาง Beauty – Worthen เลยจัดมาให้อย่างจุใจเลย!!
ซึ่งบอกเลยว่าเป็นรองพื้นที่ถูกและดีของจริงที่ทาง Beauty – Worthen คัดสรรมาให้สาวๆโดยเฉพาะโดยขนมาให้ถึง 7 ตัวเลยทีเดียวพร้อมรีวิวเน้นๆ บอกเลยว่าอ่านบทความเราที่เดียวได้ครบหมดเลยทั้งข้อมูล ราคา รีวิว และช่องทางจัดจำหน่าย ถูกใจสาวๆแน่ๆค่ะ เราอย่ารอช้า ไปดูกันเลยค่า >_<
- 1. 7 อันดับรองพื้นถูกและดี 2020
- 1.1. Maybelline Fit Me Matte & Poreless Foundation
- 1.2. 4U2 Better Skin Foundation SPF50 PA+++
- 1.3. L’oreal true match foundation
- 1.4. NYX Professional Makeup CAN’T STOP WON’T STOP FULL COVERAGE FOUNDATION
- 1.5. Srichand Enchanted Cover Perfect Foundation
- 1.6. Jung saem mool Skin Nuder Foundation
- 1.7. Revlon Colorstay Foundation
- 2. สรุป 7 รองพื้นถูกและดี 2020
7 อันดับรองพื้นถูกและดี 2020
Maybelline Fit Me Matte & Poreless Foundation
(ขอบคุณรูปภาพจาก shopee)
มาตัวแรกกันนะคะกับแบรนด์ที่ครองใจสาวไทยมาเป็นเวลานานมากอย่าง Maybelline โดยคุณภาพเครื่องสำอางของเขาก็ไม่ใช่เล่นๆเลย แต่ราคาดีและจับต้องได้มากๆ ซึ่งรองพื้นของเขาที่เรานำมาอยู่ใน 7 อันดับนั้น เป็นตัวที่ได้รับความนิยมทั้งไทยและต่างประเทศเลยทีเดียว ด้วยความที่เขาเป็นรองพื้นที่เนื้อเกลี่ยง่าย ติดทนยาวนาน ให้การปกปิดในระดับดี แถมยังเบลอรูขุมขนได้อีกด้วยนะคะ
โดยเฉดสีของเขามาให้เลือกตั้ง 12 เฉดสีเลยทีเดียวซึ่งครอบคลุมทุกสีผิวของสาวๆเลย ซึ่งราคาก็เป็นตามแบบของเมเบอลีนที่ถูกและย่อมเยาอย่าง 349 บาทเท่านั้นกับปริมาณถึง 30 ml บอกเลยว่าคุ้มค่ามากๆค่า
รีวิวจาก th.priceprice Babeburin – ส่วนตัวเราไม่ใช้คนผิวมันมาก ค่อนไปทางแห้งด้วยซ้ำจะมีมันแต่ตรงจมูกนิดเดียว แต่สามารถใช้ Maybelline Fit Me Matte Poreless Foundation รุ่นนี้ได้สบาย เนื้อรองพื้นเค้าค่อนข้างบางเบาทำให้เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบระหว่างวัน ใช้ได้เดี่ยวๆ ได้ไม่ต้องใช้คอนซีลเลอร์เพิ่มเลย เพราะปกติใต้ตาเราจะค่อนข้างคล้ำ เราก็ค่อยๆ ลงเพิ่มเลเยอร์ตรงเฉพาะใต้ตา ใช้แทนคอนซีลเลอร์ไปเลยเนียนกริบจ้า ในระหว่างวันก็ติดทนไม่หลุดลอกหรือดรอปเลย อาจจะมีมันที่จมูกเล็กน้อยแต่ส่วนอื่นๆ คืออยู่ครบดีมากโดยรวมแล้วคือโอเคดีมาก อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
รีวิวจาก ladyissue Milktea – เนื้อเค้าจะมีความแมทและปกปิดกลางๆ ถ้าใครอยากให้ปิดมากขึ้นอาจจะค่อยๆ เติมรองพื้นเพิ่มก็ได้ แต่เราชอบแบบเนื้อปกติไม่ต้องลงเพิ่ม รู้สึกว่าปิดได้โอเคแล้วและยังมีความงานผิวอยู่ ไม่โบ๊ะดีค่ะ ส่วนรูขุมขนก็ดูเบลอๆ เหมือนเนียนขึ้นกว่าเดิม เพราะรองพื้นเข้าไปช่วยกลบและเติมให้รูขุมขนดูจางๆ ไป เรื่องคุมมันก็โอเคอยู่นะ อาจจะไม่ถึงกับอยู่ได้ทั้งวัน แต่ซับหน้าเอาก็กลับมาผ่องเหมือนเดิมนะจ๊ะซิส ที่สำคัญคือชอบตรงที่ราคาไม่แรงนี่แหละ อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
รีวิวจาก jeban james_badbitch – พอลองใช้ Maybelline Fit Me Matte + Poreless Foundation แน่นอนว่า เกลี่ยง่ายสุดๆ ไม่มีตกร่องหรือเป็นคราบเลยนะครับ ที่ชอบๆก็คือเนื้อที่ คุมมัน ทาแล้วรู้สึกแห้ง Matte กำลังดี นุ่ม ลื่น ทาแล้วรู้สึกหน้าเรียบเนียนขึ้น ปัญหาต่างๆ รูขุมขน ผิวไม่เรียบก็ถูกเบลอไปเลย ก่อนหน้าที่มีปัญหา พอทาแล้วหน้าดีขึ้นเลย หน้าหายมันไประดับนึงด้วย ลองดูชัดๆ ผิวที่ได้ สวยนะ เนียนเรียบ แมทท์กำลังดี สวยอะพูดเลย !!! หลังจากที่เจมส์ได้ลองครั้งแรก ก็กลับต้องหันมามอง รองพื้นเมย์เบลลีน เลยจ๊ะ คุณภาพเกินกว่าที่คิดไว้มากๆ อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
4U2 Better Skin Foundation SPF50 PA+++
(ขอบคุณรูปภาพจาก 4u2thailand)
มาสู่ตัวที่ 2 ซึ่งก็เป็นอีกตัวที่สาวๆควรจะมีติดบ้านไว้เลยอย่าง 4u2 ซึ่งรองพื้นของเขาก็เป็นอีกตัวที่ถูกและดีมีอยู่จริงๆค่ะ ด้วยราคาที่ย่อมเยามากตรงกันข้ามกับคุณภาพที่เขาใส่มาในรองพื้น Better Skin คือตรงตามชื่อเลยค่ะ ใช้แล้วผิวเป็นผิวมาก ที่นอกจากจะสามารถปกปิดได้อย่างดีเยี่ยม แถมยังเบลอรูขุมขนให้ผิวเราเรียบเนียนสวยแล้วนั้น ยังสามารถกันแดดได้ถึง SPF50 PA+++ และป้องกันรังสี UVA / UVB ได้อีกด้วย
โดยราคาของรองพื้น 4u2 ตัวนี้จะอยู่แค่ 599 บาทเท่านั้นค่ะกับปริมาณ 30 ml บอกเลยว่าตัวนี้ก็เป็นอีกตัวที่สาวๆพลาดไม่ได้นะคะ!
รีวิวจาก cosmenet Emilie – ฟาวเดชั่นในตำนานที่บล็อกเกอร์หลายๆ คนพูดถึงมาตลอดอย่างต่อเนื่อง ตัวนี้เนื้อดีจริงๆ อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
รีวิวจาก jeban Taroreview – การปกปิด ปกปิดระดับกลาง-มาก ลงรอบแรกรอยเล็กๆ จิ๋วๆ ทั้งหลาย หายราบเป็นหน้ากอง
ลงรอบสอง รอยสิว เส้นเลือด กระ เอาอยู่ในขวดเดียว ไม่ต้องง้อคอนซิลเลอร์เลยจ๊ะแม่ สำหรับฝนถือว่าคุ้มเงินมากกกก จะวันสบายๆ หรือวันแน่นๆ ก็ยังใช้ได้ เราสามารถบิวท์ได้ตามความต้องการ
ความติดทน เรื่องนี้ไม่รู้คิดไปเองหรือป่าว แต่รู้สึกว่าพี่เขาโดนน้ำ โดนเหงื่อแล้วติดทนมากกกกก หน้าไม่หลุดเป็นงูลอกคราบเลย แต่พออยู่ในห้องแอร์ อากาศเย็นๆ กลับติดทนน้อยกว่า เป็นความแปลกที่ใครรู้คำตอบช่วยบอกที ว่าเกิดอะไรขึ้น ฝนสับสนไปหมดแล้ว 555
ฟินิชลุค + เนื้อ ส่วนตัวฝนหน้าค่อนข้างผิวแห้ง ดังนั้นพอแบรนด์บอกว่าได้ลุคแมท ก็ได้ลุคแมทจริงตามคำเคลม!!! แต่ยังดูเป็นผิว ไม่เหมือนโบกมาร้อยล้านรอบ แนะนำเพื่อนๆที่ชอบแต่งหน้าแมทๆ แต่ส่วนตัวแอบรู้สึกว่าเนื้อหนักผิวไปนิดนึง (นิดเดียวจริงๆ)
เบลอรูขุมขน สำหรับฝนไม่ได้เบลอรูขุมขนอันใหญ่เท่าบ้านของฝนได้เท่าไร มันได้แค่ประมาณนึง ไม่เท่าไพรเมอร์ แต่ความดีงามคือฝนเป็นคนอุดตันง่าย แต่ใช้พี่คนนี้แล้วสิวไม่ขึ้น ไม่อุดตัน ถือว่าโอเคเลยนะ เอาจริงๆ อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
รีวิวจาก pantip jayzpanda – ความรู้สึกหลังใช้รองพื้นมาแล้ว 2 อาทิตย์ เจเลิอกมาเป็นเบอร์ 02 ɴᴀᴛᴜʀᴀʟ ʙᴇɪɢᴇ สำหรับผิวขาวเหลือง
ข้อดี ราคาไม่แพงเลย แพคเกจการออกแบบดีงาม ดึงดูดสายตาสุดๆ เนื้อรองพื้นมีความปกปิดได้ปานกลาง สามารถลงเพิ่มได้ วันไหนแค่ออกไปเดินซื้อของ ก็ลงบางๆได้เลยค่ะ ที่สำคัญคือ คุมมัน ได้ค่อนข้างดี ช่วงนี้เจชอบลงรองพื้นเดี่ยวๆ ไม่เซ็ทแป้งฝุ่น ซึ่งน้องคนนี้ รอดจ้า อยู่ได้ถึงเย็น มีความมันวาวเล็กน้อย แต่โดยรวมยังสวย
ข้อเสีย ด้วยความที่เนื้อเค้าค่อนข้างแมทท์ คนผิวแห้งอาจจะไม่ชอบมากเท่าไร ถึงเจจะผิวมัน แต่วันไหนนอนน้อย ผิวแย่ รองพื้นเป็นคราบเลยนะ วันไหนที่ใช้ก็ต้องบำรุงดีนิดนึง อีกอย่างคือสีที่มีให้เลือก ค่อนข้างโดดจากกันมาก เจใช้เบอร์ 02 เข้มกว่าผิวนิดนึง สีติดโทนส้มเล็กน้อย จะไปเบอร์ 01 ก็ไม่รอดจ้า ติดชมพูเกิน แถมรองพื้นยังดรอปอีกครึ่งเฉด แงงง อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
L’oreal true match foundation
(ขอบคุณรูปภาพจาก cosmenet)
ตัวที่สามเป็นแบรนด์จากฝรั่งเศสที่เข้ามามีชื่อเสียงในไทยมานานมากๆเหมือนกันกับ L’oreal Paris นะคะ โดยรองพื้นตัวนี้ก็เป็นอีกตัวที่ได้รับความนิยมเหมือนกันกับตัว true match ซึ่งรองพื้นตัวนี้มีเนื้อที่เกลี่ยง่ายมาก ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่จับตัวเป็นก้อน อีกทั้งตัวนี้ยังสามารถกันแดดได้อีกด้วยนะคะ
นอกจากนี้ คุณสมบัติที่ถือว่าเป็น highlight เลยก็คือเนื้อรองพื้นของเขาจะผสม shimmer ประกายเล็กๆในนั้น ทำให้เมื่อสาวๆลงรองพื้นที่หน้าแล้ว ลุคที่ได้จะเป็นผิวที่สุขภาพดีแถมมีประกายในนั้นด้วย ซึ่งบอกเลยว่าสาวๆสามารถใช้ตัวนี้ได้เป็นประจำเลย ราคาของเขาก็น่ารักมากโดยอยู่ที่ 449 บาท ปริมาณ 30 ml ค่า
รีวิวจาก th.priceprice inoeiiy – ลอรีอัล ปารีส ทรูแมช ลิควิด ฟาวเดชั่นเป็นอารมณ์แบบเนื้อน้ำซาตินค่ะ คือเนื้อจะเบาๆ ไม่หนักหน้า เกลี่ยง่าย มีความฉ่ำๆ เนื้อมันจะมีเหมือนชิมเมอร์ๆ ผสมอยู่ด้วย ทาแล้วรู้สึกหน้าสว่างแบบดูเป็นธรรมชาติ ปกปิดระดับกลางนะคะ เหมาะสำหรับคนที่มีริ้วรอยไม่เยอะค่ะ สรุป N1 มันคือเฉดที่ใช่ สำหรับเราจริงๆ เลิฟเลย อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
รีวิวจาก cosmenet pinyarat – เป็นรองพื้นที่อยากแนะนำสาวๆมาก ราคาไม่แพงแต่ได้ผิวที่สวย เหมาะกับแต่งหน้าออกงาน เจ้าสาวยังไหว เพราะฟินิชลุคเค้าโกลวผ่อง เป็นธรรมชาติ ใครมี่ปัญหาผิวไม่เยอะไม่ต้องการปกปิดหนาแน่นขนาดนั้น แนะนำตัวนี้เลยค่ะ ที่สำคัญมีสีให้เลือกเยอะมากค่ะ อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
รีวิวจาก cosmenet knw_ma – เป็นรองพื้นลูกรักเลยก็ว่าได้ ใช้หมดทั้งขวด เริ่มขวด2 แล้ว เหมาะกับสาวผิวแห้งมาก ใช้แล้วไม่โป๊ะ ผิวสวย กระจ่างใส แบบไม่เวอร์ ชอบมาก เฉดสีเยอะดีนะ เป็นรองพื้นกันตายที่ต้องมีเลย ไปไหนไม่รอด ต้องกลับมาหานางตลอด แนะนำเลย ต้องมีติดโต๊ะ ไม่ผิดหวังค่ะ อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
NYX Professional Makeup CAN’T STOP WON’T STOP FULL COVERAGE FOUNDATION
(ขอบคุณรูปภาพจาก shopee)
มาสู่ตัวที่สี่กันแล้วนะคะกับรองพื้นแบรนด์ดังอย่าง NYX โดยรองพื้นตัวนี้เขาเป็นรองพื้นเนื้อแมทที่เกลี่ยง่าย ไม่ทำให้หน้าเราเหนียวเหนอะหนะ แต่ให้การปกปิดรอยต่างๆบนหน้าเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ลุคที่ออกมานั้นจะได้ลุคที่เนียนกริบที่สุดในโลกเลยค่ะ ซึ่งบอกเลยว่าเหมาะกับสาวๆที่ต้องการปกปิดมากๆแต่ก็ยังต้องการความสบายผิวซึ่งตัวนี้ก็ทำออกมาได้อย่างดีเลยทีเดียว
โดยราคาของเขาจะอยู่ที่ 629 บาทกับปริมาณ 30 ml ราคาอาจจะสูงหน่อยแต่รับรองว่าถ้าสาวๆใช้แล้วจะต้องติดใจแน่นอนค่า
รีวิวจาก vanilla PoMaYo – มันดีมากกกกกกกก เป็นรองพื้นที่ออกงานก็ได้ ใช้ประจำวันก็ได้เพราะให้ผิวที่เป๊ะแต่รู้สึกสบายผิว
เนื้อสัมผัส: เป็นรองพื้นที่มีความยืดหยุ่น ถึงแม้จะเป็นเคลมว่าเป็นเนื้อแมตต์แต่ไม่แห้งกรัง ทาง่ายเกลี่ยได้ง่าย ไม่เป็นคราบ ไม่ตกร่อง ปกปิดรูขุมขนได้ ไม่หนักหน้า ให้ความรู้สึกสบายผิว
ความคุมมัน: อยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก ไม่ไหลเยิ้ม ไม่สังขยา แม้เหงื่อออก ก็ยังสามารถใช้กระดาษซับแล้วกลับมาปิ๊งเหมือนเดิมได้
ความติดทน: ติดทนดีมาก เราลองใช้ในวันที่ต้องออกกลางแจ้งและเสียเหงื่อก็ยังคงติดทนถึงเย็น
สี: เราผิวขาวเหลืองใช้สีbuffใกล้เคียงผิวที่สุด อาจจะไม่ผ่องแต่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ ตกเย็นมีสีดรอปบ้างแต่ไม่อมเทา ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นปัญหาหรือน่าเกลียดแต่อย่างใด แก้ได้ด้วยการใช้เบสที่ผ่องกว่านิดหน่อย
ราคาปกติประมาณหกร้อยกว่าบาทแต่จัดโปรค่อนข้างบ่อย สามารถซื้อได้ในราคาสี่ร้อยถึงห้าร้อยบาท คุ้มค่ากับผลลัพธ์มากๆค่ะ อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
รีวิวจาก pemikaz – – เป็นรองพื้นเนื้อแมท ที่ไม่จำเป็นต้องลงแป้ง คนผิวผสม มันใช้ดี คนผิวแห้งไม่แนะนำ
– การปกปิดสูงสุดจริงๆ แต่ก็ขอเว้นในส่วนของใต้ตาที่อาจจะทำไม่ถึง (ก็ถูกแล้ววว)
– คุมมัน กันเหงื่อ กันน้ำ ดีมาก หน้ามันนะแต่ซับแล้วสวย งงในงง ไม่พูดเยอะ ฮาๆ อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
รีวิวจาก daisy jeban styles – เป็นรองพื้น everyday look ใช้ทุกวัน ให้งานผิว แต่ปกปิด คุมมันได้ดี เนื้อกึ่งมูส ไม่เหลว แต่เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ มีตุนด้วยค่ะ ดีงามมาก อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
Srichand Enchanted Cover Perfect Foundation
(ขอบคุณรูปภาพจาก shopee)
มาสู่แบรนด์ไทยแบรนด์นี้ที่ได้รับความนิยมอย่างมากและเขาก็ได้รีแบรนด์ไปไม่นานมานี้อย่าง Srichand หรือ ศรีจันทร์นั่นเอง โดยรองพื้นฝาชมพูของเขานั้นเป็นรองพื้นที่สามารถปกปิดได้ดีทีเดียว ด้วยเนื้อของเขาเป็นเนื้อลิควิดเหลวที่เกลี่ยง่ายจึงไม่ทำให้หนักหน้าเรามากนักแต่ให้การปกปิดดีเลยทีเดียว
ซึ่งรองพื้นของเขานั้นมีทั้งหมด 4 เฉดสีด้วยกัน แถมยังกันแดดได้ดีอีกด้วยนะคะ บอกเลยว่าถ้าได้ลองใช้สาวๆจะต้องถูกใจแน่นอนด้วยราคาเพียงแค่ 320 บาท 30 ml เท่านั้นค่า
รีวิวจาก th.priceprice Babeburin – รองพื้นเจ้าหญิงของศรีจันทร์รุ่นนี้เป็นรองพื้นที่ตอบโจทย์สาวไทยมาก ด้วยคุณภาพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความบางเบา การปกปิด คุมมันกันเหงื่อ รวมไปถึงเฉดสีที่ส่วนตัวเราคิดว่าดีงามมาก เพราะเค้าเป็นแบรนด์ไทยเลยทำเฉดสีออกมาได้ค่อนข้างพอดีกับผิวแบบสุดๆ แถมยังคุ้มค่าด้านราคาจ่ายเบาๆ แต่ได้หน้าเป๊ะปัง ยิ่งถ้าใครที่เป็นสิวหรือหน้ามีจุดด่างดำเราว่าเค้าปกปิดได้ดีเลย ยังไงก็ควรมี รองพื้น Srichand Enchanted Cover Perfect Foundation ไอเทมนี้สาวๆ ไม่ควรพลาด รีบไปจัดกันเลยจ้า ไม่ผิดหวังแน่นอน อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
รีวิวจาก jeban aummmyy – #รองพื้นเจ้าหญิง SRICHAND enchanted cover perfect foundation เหมาะสำหรับคนที่ต้องการการปกปิด เพราะตัวนี้ปกปิดดีเลยค่ะ ส่วนคุมมันอาจจะยังไม่โดดเด่นเท่าไหร่ แต่ถ้าชอบงานผิวสวย ไม่แห้ง ไม่เยิ้มจนน่าเกลียด อันนี้ผ่านนนนน! สามารถหยิบใช้ได้ทุกวัน ใช้ได้ทั้งคนผิวแห้ง ผิวผสม ผิวมัน (ไม่มาก) คิดว่าโอเคเลยค่า ด้วยราคา คุณภาพ ปริมาณถือว่าคุ้มค่าน่าซื้อ ใครกำลังมองหารองพื้นใหม่ ลองดูตัวนี้เป็นตัวเลือกดูน้า อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
รีวิวจาก konvy Mm***te – สีพอดีกับผิวเป๊ะๆ เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย มีกลิ่นน้ำหอมนิดๆแต่ค่อนข้างแรงสำหรับเรา ใช้นิดเดียวเกลี่ยได้ทั่วหน้าแล้ว ให้ฟินิชผิวเนียนสวยสมชื่อรองพื้นเจ้าหญิง แต่ว่าไม่ค่อยคุมมันเท่าไหร่ ต้องเซตแป้งเพิ่ม มีดรอประหว่างวันนิดหนึ่ง อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
Jung saem mool Skin Nuder Foundation
(ขอบคุณรูปภาพจาก shopee)
มาถึงตัวรองสุดท้ายกันแล้วกับแบรนด์เครื่องสำอางจากเกาหลีอย่าง Jung Saem Mool ที่มีชื่อเสียงในไทยโดยเฉพาะเรื่องของรองพื้นและคุชชั่น ซึ่งก็ไม่แปลกที่เขาจะเข้ามาติดใน 7 อันดับของเราได้แม้ราคาจะเกินพันก็ตาม เพราะว่ารองพื้นตัวนี้เขาเป็นรองพื้นที่เนื้อของเขาจะแตกต่างจากรองพื้นตัวอื่นโดยที่ตัวนี้เขาจะเป็นเนื้อยืดหยุ่นที่ไม่เหลวและไม่แมท ทำให้ผิวที่ออกมานั้นเป็นผิวที่ดูฉ่ำวาว ดูโกลว์แบบสาวเกาหลี แถมยังปกปิดได้ดีอีกด้วยนะคะ
และที่สำคัญเลย คือ รองพื้นตัวนี้เขาจะแถมตัวพัฟที่เอาไว้ใช้เกลี่ยรองพื้นมาให้ในเซ็ตด้วย บอกเลยว่าถึงแม้ราคาจะสูงอย่าง 1,700 บาท กับปริมาณ 30 ml แต่บอกเลยว่าคุ้มค่าทั้งคุณภาพและของแถมเลยค่า
รีวิวจาก jeban Zeibab – สรุป !! ผ่านไปทั้งหมด 10 ชั่วโมงยังรอดจ้า แต่คนที่ผิวมันเราไม่แน่ใจเลยนะคะว่าเป็นยังไง เราผิวมันแค่ช่วงทีโซนแต่ไม่มาก ผลลัพธ์ก็ได้มาเป็นแบบนี้ ไม่ผิดหวังจริงๆที่ตัดสินใจซื้อมา หลังจากเห็นรีวิวชาวบ้านเยอะมาก 55555 ป้ายยาเก่งก็ซื้อเก่งเหมือนกันเด้อ อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
รีวิวจาก cosmenet turtle.q – หลังจากลองใช้ : จะได้ลุคผิวเนียนสวย + เปล่งประกายดิวอี้ทันทีที่ทา ในเรื่องของการปกปิด ส่วนตัวว่าอยู่ในระดับบางเบา-ปานกลาง แต่สามารถบิ๊ลท์เลเยอร์ได้ ถ้าไม่ลงแป้งคือผิวสวยมากกก แต่ด้วยสภาพอากาศประเทศไทยและส่วนตัวเป็นชาวผิวผสมที่เหงื่อค่อนข้างเยอะก็อาจจะอยู่ไม่ถึงตลอดวัน เราเลยใช้แปรงลงแป้งฝุ่นแบบแมตต์ปัดเบาๆ ทับอีกชั้นนึง ช่วงแรกๆ ผิวจะดูแมตต์เล็กน้อยแต่ก็ดูไม่หนาเท่าไหร่ ยังคงเป็นงานผิวธรรมชาติ พอช่วงระหว่างวันแป้งเริ่มหลุด ผิวจะดูโกลว์สวยมากกก ผ่านไปประมาณ 8 ชั่วโมงรองพื้นอาจจะลอยเหนือผิวหรือเลือนบ้าง แต่ถ้าไม่ไปแตะ หรือไปถูก็ไม่หลุดนะคะ ซับแล้วยังสวยเด้อ โดยรวมถือว่า ดีงามสมราคาค่ะ สายเกาที่ชอบแต่งหน้าเน้นงานผิวโกลว์สวยควรมีเลย อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
รีวิวจาก phaptawan – รองพื้นตัวนี้ปกปิดดีกว่าที่คิด ติดทน แนบกับผิว การปกปิดก็ดีเลย ดูในรูปด้านบนนี้เลยค่ะ กระจายแสงดี ให้ผิวดูเป็นธรรมชาติ
ฉ่ำดี แต่ไม่เหนอะหนะ ไม่คุมมัน แต่ก็ทาแล้วหน้าไม่มันเพิ่ม ไม่คิดว่าของเกาหลีจะทนอากาศบ้านเราได้ก็ทนได้ ในคลิปตอนรีวิวแพรวไม่ได้ซับหน้าทั้งวัน ก็ดีเกินคาดจริงๆค่ะ อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
Revlon Colorstay Foundation
(ขอบคุณรูปภาพจาก shopee)
มาสู่ตัวสุดท้ายกับแบรนด์รองพื้นในตำนานอย่าง Revlon แล้วนะคะ โดยตัวนี้จะไม่พูดถึงไม่ได้กับ Colorstay Foundation ที่ผู้ใช้จริงต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นรองพื้นที่ให้ปกปิดและติดทนมาก!! และเป็นนิยามของคำว่าถูกและดีจริงๆด้วยราคาที่ไม่เกินพันแต่ให้ลุคที่ออกมาสวยเกินราคาจริงๆ
โดยรองพื้นเขาจะเป็นเนื้อแมท แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติและไม่ทำให้หน้าของเราเหนอะแต่อย่างใด เหมาะกับสาวๆทุกสภาพผิว แถมยังติดทนยาวนานถึง 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว บอกเลยว่าสาวๆห้ามพลาดเลยกับตัวนี้ ด้วยราคาเพียงแค่ 580 บาท 30 ml ค่า
รีวิวจาก cosmenet WILA – อันนี้ดี นะเธอ แต่จะแห้งกว่าตัวรุ่นเก่า
แนะนำนะ ห้านเพลินกับเวลา ลงครีมรองพื้นปุ๊บเกลี่ยเลยนะเธอ ไม่งั้นจะแห้ง เกลี่ยยากไปนิด ใครหน้ามันหมดกังวลไปเลยนะ เหมาะกับ คนที่ผิวมันมาก อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
รีวิวจาก cosmenet ploy – รองพื้นเนื้อแน่น แต่เกลี่ยไม่ยากค่ะ ปกติใช้คู่กับฟองน้ำ ติดทนอยู่นานทั้งวันเลยค่ะ ใช้แล้วส่วนตัวไม่เป็นคราบค่ะ ปกปิดดีมากค่ะๆ แต่รู้สึกเฉดสียังน้อยไปหน่อยค่ะ อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
รีวิวจาก shopjai – รองพื้นเกลี่ยง่าย ติดทน ทนน้ำทนเหงื่อได้ดี เหมาะสำหรับคนที่ต้องการการปกปิดระดับปานกลางไปจนสูง เพราะเพิ่มความหนาของรองพื้นได้ อ่านรีวิวเต็มได้ที่นี่
สรุป 7 รองพื้นถูกและดี 2020
จบไปแล้วนะคะกับ 7 รองพื้นที่นำมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าสาวๆคงได้ตัวที่ถูกใจและไปซื้อตามกันได้นะคะ ยังไงก็อย่าลืมไปลองตัวจริงตามห้างสรรพสินค้าและดูรองพื้นที่เหมาะกับสภาพผิวตัวเองที่สุดเพื่อลุคที่ออกมาจะได้ถูกใจสาวๆเนอะ ยังไงเจอกันใหม่บทความหน้านะคะ สวัสดีค่า
Write a comment