อาการของคุณแม่ท้อง 13 สัปดาห์
ในช่วงการตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 13 นี้ อาการของคุณแม่กำลังจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ คุณแม่รู้สึกสดชื่นมากขึ้น ได้เป็นตัวของตัวเอง เมื่อกำลังเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์ อาการแพ้ท้องของคุณแม่กำลังเริ่มหายไป
หากคุณแม่ยังคงรู้สึกแย่อยู่ในสัปดาห์นี้ ก็ขอให้ทนอีกสักเล็กน้อยนะคะ ไม่กี่สัปดาห์คุณแม่ก็จะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ทานอาหารได้ปกติ กินทุกอย่างได้ตามที่ใจปรารถนาค่ะ แต่คุณแม่บางท่าน ส่วนน้อยนะคะอาจจะยังคงมีอาการคลื่นไส้ไปจนถึงเดือนที่ 4-5 กันเลยทีเดียว
หากคุณเป็นคุณแม่มือใหม่แล้วล่ะก็ วันนี้เราจะมาแชร์อาการส่วนใหญ่ของคุณแม่เมื่อตั้งครรภ์ในสัปดาห์ที่ 13 กันค่ะ ว่ามีอาการอย่างไรกันบ้าง คุณแม่จะได้เตรียมรับมือได้ทัน
- อาการตกขาวค่อนข้างมาก เพื่อปกป้องช่องคลอด รักษาสมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอด โดยตกขาวนี้ไม่ได้เป็นอันตรายกับร่างกายนะคะ เว้นแต่ว่าตกขาวนั้นจะมีกลิ่น มีสีน้ำตาล เขียว เหลือง มีอาการคัน หากมีอาการเหล่านี้ ควรไปพบแพทย์ค่ะ
- มีความต้องการทางเพศสูง หรือบางท่านอาจไม่ต้องการเลย โดยช่วงนี้คุณแม่จะมีอารมณ์แปรปรวนค่อนข้างมาก อย่างไรก็ดีลองพูดคุยกับว่าที่คุณพ่อดูหน่อยนะคะ เพื่อให้เกิดความเข้าใจกันง่ายขึ้น
- อาการเหนื่อย ระหว่างการตั้งครรภ์นี้คุณแม่จะรู้สึกเหนื่อยล้ามาก ไม่อยากตื่นนอนแต่เช้า มีอาการเพลียตลอดทั้งวัน เนื่องจากร่างกายของคุณแม่กำลังเปลี่ยน บางส่วนกำลังสร้างรก เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่และลูกน้อย ให้ลูกได้รับสารอาหารและออกซิเจน ทำให้คุณแม่รู้สึกเหนื่อยล้าตลอดทั้งวัน
- ปัสสาวะบ่อยขึ้น เนื่องจากมดลูกขยายขนาด จนเกิดการเบียดกับกระเพาะปัสสาวะ ทำให้คุณแม่ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้นค่ะ
- อาการท้องผูกและอาหารไม่ย่อย เนื่องจากระบบย่อยอาหารกำลังชะลอตัว ลำไส้ทำการดูดซึมสารอาหารมากขึ้น เพราะลูกน้อย ถือว่าเป็นผลดีสำหรับลูกค่ะ แต่ไม่ค่อยดีสำหรับคุณแม่ เพราะคุณแม่อาจมีอาการเสียดท้องได้ ขับถ่ายยาก
ลูกน้อยในท้อง 13 สัปดาห์
เมื่อเริ่มเข้าสู่การตั้งครรภ์ในเดือนที่ 3 นี้ ลูกน้อยยังคงมีขนาดตัวที่เล็กมากค่ะ เท่าผลเลมอน น้ำหนักยังน้อย เพียงแค่ 28 กรัมเท่านั้น ความยาวประมาณ 8 เซนติเมตรค่ะ
- พัฒนาการของลูกน้อยในช่วงนี้ร่างกายเริ่มสมดุลมากขึ้น จากช่วงแรกที่ศีรษะจะมีขนาดใหญ่กว่าส่วนอื่น ในตอนนี้ส่วนต่างๆของร่างกายก็เริ่มพัฒนาตามขึ้นมา สร้างกระดูกเล็กๆในช่วงแขนและขา
- สายรกกำลังพัฒนา ใกล้ที่จะสมบูรณ์ เพื่อเป็นสายใยส่งอาหารและออกซิเจนให้ลูกน้อย
- ช่องปากของลูกเริ่มก่อตัวเป็นปุ่มเหงือก เป็นโครงร่างของฟันจำนวน 20 ซี่
- ร่างกายกำลังสร้างเส้นเสียง
- สามารถสังเกตเห็นเปลือกตาที่ปิดอยู่ของลูกน้อยได้ แต่ยังคงลืมตาไม่ได้
คำแนะนำสำหรับคุณแม่ท้อง 13 สัปดาห์
อาการต่างๆที่คุณแม่ต้องเผชิญในช่วงนี้ ทำให้คุณแม่รู้สึกหงุดหงิดใจ และใช้ชีวิตยากมากขึ้น วันนี้เรามีวิธีช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ให้คุณแม่รู้สึกดีขึ้นได้ ลองไปดูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง
- เคี้ยวหมากฝรั่งสูตรไม่มีน้ำตาล เพื่อเพิ่มน้ำย่อย ช่วยย่อยอาหารให้มากขึ้น ลดอาการท้องอืด
- รับประทานมะละกอสด หรือมะละกอแห้ง ช่วยลดอาการเสียดท้องได้ แถมยังมีวิตามินเอและวิตามินซีด้วย
- รับประทานอัลมอนด์สักเล็กน้อย หลังจากมื้ออาหาร เพื่อช่วยป้องกันอาการแสบร้อนกลางอก เพราะกรดในกระเพาะอาหารได้
- ปลดปล่อยใจตามอารมณ์ทางเพศได้เลย ในส่วนนี้จะช่วยให้อุ้งเชิงกรานของคุณแม่กระชับมากขึ้น ฟื้นตัวหลังคลอดได้เร็ว แต่หากคุณแม่มีปัญหาเรื่องมดลูกต่ำ หรือเคยแท้งมาก่อน ควรปรึกษาคุณหมอก่อนนะคะ
- รักษาความสะอาด เพราะภูมิคุ้มกันของคุณแม่อาจอ่อนแอได้ พยายามล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า หากคุณแม่รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองมีอาการผิดปกติใดๆ ควรรีบพบแพทย์ค่ะ
- เติมแคลเซียมให้กับร่างกายอย่างเพียงพอ ด้วยการดื่มนม นมถั่วเหลือง อัลมอนด์ แซลมอน เพื่อเพิ่มแคลเซียมให้ ป้องกันโรคกระดูกพรุนและภาวะครรภ์เป็นพิษ
บทสรุปของการตั้งครรภ์ 13 สัปดาห์
คุณแม่หลายท่านในสัปดาห์ที่ 13 นี้ จะเริ่มรู้สึกสดชื่น สดใสมากกว่า 2 เดือนที่ผ่านมาค่ะ เพราะอาการแพ้ท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว เริ่มหมดไปแล้ว คุณแม่กำลังกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง ทานอาหารตามที่ใจตัวเองต้องการ
ขนาดท้องของคุณแม่ หากเป็นท้องแรก ช่วง 3-4 เดือนนี้ ถ้าไม่มีใครสังเกตดีๆ ก็จะไม่รู้เลยว่าคุณแม่กำลังตั้งครรภ์ค่ะ เนื่องจากลูกน้อยยังมีขนาดเล็กมาก เท่าลูกมะนาวเท่านั้นเอง อวัยวะต่างๆก็ยังไม่สมบูรณ์ดี เพิ่งเริ่มสร้างแขนและขา เริ่มเห็นเปลือกตา โครงหน้าก็ยังไม่ชัดเจนดี
ในช่วงการตั้งครรภ์ 13 สัปดาห์นี้ ร่างกายของคุณแม่จะเหนื่อยเป็นพิเศษ เพราะร่างกายกำลังโฟกัสไปที่เจ้าตัวเล็กในท้อง เพื่อก่อสร้างอวัยวะต่างๆให้ลูก สร้างสายรก ขอให้คุณแม่อดทนนะคะ
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ระบบในร่างกายทำงานได้ดี โดยช่วงนี้คุณแม่ต้องเน้นเติมแคลเซียม นม รวมไปถึงผักผลไม้ เพื่อให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้นค่ะ รวมไปถึงการรักษาความสะอาดทั้งด้านร่างกาย ของเครื่องใช้ และการหากิจกรรมที่ช่วยให้คุณแม่ผ่อนคลาย เพื่อให้การตั้งครรภ์ครั้งนี้มีความสุขและราบรื่นค่ะ
Write a comment