อาการคุณแม่ เมื่อท้องครบ 12 สัปดาห์
ในสัปดาห์นี้รูปร่างภายนอกร่างกายของคุณแม่อาจจะยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ภายในร่างกายคุณแม่จะเริ่มรู้สึกได้ว่าร่างกายของเรากำลังเปลี่ยนแปลงอย่างหนัก โดยบางวันคุณแม่อาจจะรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง หรือบางวันอาจรู้สึกมีพลังดีๆ ได้
เราลองมาดูกันค่ะ ว่าคุณแม่จะมีอาการอย่างไรบ้างในสัปดาห์นี้ จะได้เตรียมตัวรับมือได้ทันนะคะ
- ข้อดีของการตั้งครรภ์ในสัปดาห์ที่ 12 คือ อาการแพ้ท้องของคุณแม่บางท่านเริ่มจะหายแล้วค่ะ อาจจะมีบางคนที่ยังเป็นอยู่บ้าง แต่น่าจะลดน้อยลงแล้วนะคะ
- อารมณ์เริ่มคงที่ ไม่ค่อยแปรปรวนเหมือนเมื่อก่อนแล้วค่ะ
- มีการตกขาวมากขึ้น โดยข้อดีของการตกขาวในส่วนนี้คือช่วยปกป้องช่องคลอดของคุณผู้หญิงจากการติดเชื้อค่ะ แต่หากตกขาวมีสีเหลือ เขียว น้ำตาล รวมไปถึงสีชมพู ควรพบแพทย์ค่ะ เพราะอาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อหรือการแท้งได้
- มดลูกเริ่มขยายขนาดขึ้น ท้องของคุณแม่อาจยังไม่ป่องออกมาก แต่ก็ทำให้รู้สึกแน่นหรืออึดอัดได้ค่ะ
- มีเลือดออกเล็กน้อย ในช่วงนี้ถ้าคุณแม่มีเพศสัมพันธ์ แล้วมีเลือดออกเล็กน้อย ในส่วนนี้ไม่ได้เป็นอันตรายอะไรค่ะ แต่หากมีเลือดออกมาก พร้อมกับอาการปวดเกร็งที่ท้องด้วย ควรพบแพทย์โดยด่วนค่ะ
- สภาพผิวหนังของคุณแม่จะเริ่มขยายตัวขึ้น เส้นเลือด ตามหน้าอกจะเห็นชัดขึ้น บริเวณหน้าท้องและขาจะคันเพราะผิวแตก เพื่อขยายขนาดขึ้นค่ะ
- อาการปวดหัว เพราะฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้อาจเกิดจากความเครียดบ้าง พักผ่อนน้อย นอนไม่ค่อยหลับบ้าง หรือแม้กระทั่งน้ำตาลในเลือดต่ำลง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงทุกปัจจัยตามนี้ค่ะ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณแม่และลูกในท้อง
- อาการวิงเวียนศีรษะ เพราะความดันโลหิตและฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง คุณแม่บางท่านอาจมีอาการเหล่านี้มาก่อนแล้ว สามารถป้องกันได้ด้วยการจิบน้ำบ่อยๆ ทานของว่างเล็กน้อย หลีกเลี่ยงอากาศร้อน หรือนั่งพักสักครู่ให้ร่างกายปรับตัวก่อนค่ะ
- อาการท้องผูก ในช่วงนี้ร่างกายจะทำการดูดซึมสารอาหารอย่างหนัก คุณแม่ควรทานผักและผลไม้ ให้ได้ไฟเบอร์เพื่อลดอาการท้องผูก ขับถ่ายได้คล่องขึ้นค่ะ
การเจริญเติบโตของลูกในท้อง 12 สัปดาห์
ในช่วงท้องสัปดาห์ที่ 12 ลูกน้อยจะมีขนาดเท่ากับลูกพลัม มีความยาวประมาณ 2.1 นิ้ว หรือ 5 เซนติเมตรกว่าๆเท่านั้นค่ะ และเจ้าตัวก้อนเล็กๆนี้ กำลังเริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นใบหน้าของคนมากขึ้น
- เริ่มมีนิ้วมือ นิ้วเท้าให้เห็นชัดมากขึ้น จนสามารถขยับมือได้บ้างแล้ว และเริ่มมีไรผมขึ้น
- อวัยวะในส่วนของไตเริ่มทำงาน สามารถขจัดของเสียออกจากกระเพาะปัสสาวะ
- ลูกตาเริ่มเคลื่อนย้ายจากด้านข้าง มายังด้านหน้า เพื่อเจริญเติบโตต่อไป
- อัตราการเต้นของหัวใจค่อนข้างเร็วกว่าของคุณแม่ เฉลี่ยประมาณ 140-160 ครั้งต่อนาทีค่ะ
- ในส่วนของฟันและปาก สามารถขยับ อ้าได้ หุบได้
- อวัยวะเพศยังเป็นเพียงปุ่มเล็กๆ ทำให้ยังไม่สามารถระบุเพศได้
- มีโครงร่างและกระดูกที่แข็งแรงมากขึ้น เพราะได้แคลเซียมจากคุณแม่นั่นเองค่ะ
สิ่งที่คุณแม่ควรทำในช่วงท้องสัปดาห์ที่ 12
- อย่างแรกที่อยากให้ทำคือการคิดบวกค่ะ เพราะในร่างกายขณะนี้ เริ่มมีรกเป็นสายสัมพันธ์เชื่อมระหว่างน้องกับคุณแม่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือความคิด ก็ต้องอยากส่งต่อของดีๆให้ลูกทั้งนั้นใช่ไหมคะ
- การทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดโดยตรง ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ส่วนใหญในช่วงนี้จะมีแนวโน้มเป็นฝ้าค่ะ
- อย่ารับประทานอาหารขยะหรือขนมหวานมากเกินไปค่ะ จริงอยู่ว่าเมื่อรู้สึกแพ้ท้องหรือเวียนหัว ควรกินขนมสักเล็กน้อย พอประมาณ หรือเป็นขนมเฮลตี้จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่านะคะ ไม่งั้นอาจทำให้เกิดครรภ์เป็นพิษได้ เพราะความหวาน
- รับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาท้องผูกค่ะ
- วางแผนการออกกำลังกายเบาๆ เพื่อให้หัวใจและปอดแข็งแรงค่ะ เมื่อพ้นจากสัปดาห์นี้ไปแล้ว คุณแม่จะกลับมามีพลังอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่หมดแรงจากการแพ้ท้องในช่วงแรก
- ทำการอัลตร้าซาวด์เพื่อตรวจหาความผิดปกติ หรือความพิการทางร่างกายของลูกค่ะ เช่น อาการ Down syndrome
บทสรุปท้อง 12 สัปดาห์
การตั้งท้อง 12 สัปดาห์นี้ ร่างกายของคุณแม่และพัฒนาการของลูกน้อยเริ่มเปลี่ยนแปลง ภายนอกรูปร่างของคุณแม่อาจจะยังคงเดิม บางคนอาจมีท้องยื่นนิดหน่อย อึดอัด แต่ถ้าคนภายนอกก็อาจไม่รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงค่ะ
คุณแม่จะไม่มีอาการแพ้ท้องหรือเริ่มลดน้อยลงแล้ว สามารถทานอาหารได้ปกติ หรือบางท่านทานอาหารได้มากขึ้น ข้อควรระวังคือ อาจมีอาการวิงเวียนศีรษะและปวดศีรษะ เนื่องจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป
นอกจากนี้หากพบว่ามีเลือดกระปริบกระปรอยนานหลายวัน เกิน 3 วันเป็นต้นไป หรือตกขาวเป็นสีเหลือง เขียว ชมพู ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ เพราะในช่วงสัปดาห์นี้บางรายมีความเสี่ยงแท้งสูง
ในส่วนของลูกน้อยในสัปดาห์นี้เริ่มเปลี่ยนรูปร่างจากก้อนเล็กๆ กลายเป็นรูปมนุษย์มากขึ้น มีฟัน มีปาก ตอบสนองได้ โบกไม้ โบกมือได้บ้างแล้ว แต่อาจจะยังระบุเพศไม่ได้ค่ะ
ช่วงนี้คุณแม่ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ ทานอาหารเพื่อสุขภาพ ทานผักให้มากขึ้นเพื่อแก้ท้องผูก คิดเชิงบวก ผ่อนคลายบ้าง ออกกำลังกายเบาๆให้ร่างกายแข็งแรง เน้นทาครีมกันแดด เพื่อป้องกันฝ้าค่ะ
Write a comment