สังเกตตัวเอง ช่วงเริ่มตั้งครรภ์
ในช่วงเวลา 4 สัปดาห์ หรือ 1 เดือนนี้ คุณแม่บางท่านอาจจะยังไม่แน่ใจว่าตัวเองท้องหรือยัง หรือกำลังตั้งครรภ์อยู่ สิ่งแรกที่ควรทำในช่วงนี้ หากรู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกาย ประจำเดือนมาช้า หรือการรอลุ้นว่ากำลังจะมีน้องแล้วหรือเปล่า แนะนำให้พบแพทย์ เพื่อตรวจให้แน่ใจ
หรืออาจใช้วิธีการซื้ออุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์ในร้านสะดวกซื้อมาตรวจเพื่อความชัวร์ก่อนได้ค่ะ โดยตามท้องตลาดจะมีที่คนนิยมใช้คือ การตรวจจากปัสสาวะ เพื่อหาฮอร์โมน HCG ค่ะ ซึ่งแนะนำให้ตรวจตอนเช้า หลังตื่นนอน หรือก่อนรับประทานอาหาร เพื่อให้ฮอร์โมนยังคงที่ และเพิ่มความแม่นยำมากขึ้น
แต่น้อยคนนักที่จะรู้ตัวว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ในช่วง 4 สัปดาห์แรก เพราะอาจจยังคิดว่าประจำเดือนยังไม่มาก็ได้ ถ้าหากลองตรวจดูแล้วผลลัพธ์ขึ้นเพียง 1 ขีด หรือแสดงผลว่าไม่มีการตั้งครรภ์ ก็แนะนำให้รอสักพัก
ทิ้งช่วงอย่างน้อย 7 วันหลังวันที่คาดว่ารอบเดือนจะมา แล้วค่อยตรวจใหม่ หากประจำเดือนยังไม่มาอีก ก็เว้นสัก 3 วันแล้วตรวจอีกครั้งค่ะ
พัฒนาการของลูกน้อย
ช่วงเริ่มต้นของการตั้งครรภ์นี้ เริ่มจากการที่ตัวอ่อนกำลังฝังตัวในมดลูกของคุณแม่ ในช่วงของการฝังตัว อาจทำให้มีบางส่วนของผนังมดลูกเกิดการหลุดลอกได้ ทำให้มีเลือดจางๆออกมาจากช่องคลอด แต่น้อยกว่าการเป็นประจำเดือนมาก หรือบางคนอาจจะไม่รู้สึกตัวด้วยค่ะ
ขนาดของลูกน้อยในช่วง 4 สัปดาห์จะมีขนาดเล็กมาก เรียกได้ว่าคงยังไม่สามารถสังเกตเห็นได้เลย แต่ก็กำลังจะเริ่มก่อร่างในส่วนของสมองและกระดูกแล้ว โดยตัวอ่อนของลูกน้อยจะแบ่งได้เพียง 3 ชั้นเท่านั้น ซึ่งในแต่ละชั้น จะพัฒนาต่อไปเป็นส่วนต่างๆ ของร่างกายค่ะ
โดยส่วนนอกสุด จะเจริญเติบโตไปเป็นผิวหนัง ผิวส่วนนอก ตา เส้นผม ต่อมการทำงานต่างๆ ในส่วนของชั้นที่ 2 นั้นจะเจริญเติบโตไปเป็นกระดูก กล้ามเนื้อ โครงร่าง ระบบสืบพันธุ์ ในส่วนของชั้นในสุดจะเกี่ยวข้องกับการหายใจ การย่อยอาหาร และตับค่ะ
เคล็ด(ไม่ลับ)ในการดูแลตัวเองช่วงท้อง 4 สัปดาห์
- สิ่งแรกเลยค่ะ คือการบอกคนรู้ใจและคนสำคัญให้ทราบถึงการมีสมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามาในครอบครัว
- อย่าลืมนัดหรือหาเวลาเพื่อทำการฝากครรภ์หรือไปพบแพทย์ด้วยนะคะ เพื่อได้รับการดูแลและคำแนะนำดีๆค่ะ
- ช่วงนี้อาจจะรู้สึกท้องอืด หรือบางคนอาจเริ่มรู้สึกคลื่นไส้ อาเจียนแล้ว ดังนั้นการเลือกอาหารจึงสำคัญมาก หากทานไม่ได้จริงๆ ก็ลองเริ่มมื้อเช้าด้วยขนมแสนอร่อยก่อนก็ได้ค่ะ
- แต่อย่างไรก็ตาม สุขภาพก็สำคัญ ในช่วงนี้คุณแม่และคุณพ่อ อาจจะลองสร้างสรรค์เมนูอาหารใหม่ๆ เพื่อให้คุณแม่ได้ทานง่ายขึ้น เช่น ลองสับเนื้อหรือโปรตีนเป็นชิ้นเล็กๆ แทรกลงไปในจานอาหาร หรือทำเป็นขนมเฮลตี้ที่ดีต่อสุขภาพก็ได้ค่ะ
- หากคุณหมอรับฝากครรภ์แล้ว คุณแม่อาจได้วิตามินอาหารเสริมมาทานแล้ว แต่กลับยังคงรู้สึกคลื่นไส้อาเจียนอยู่ ให้ลองทาวิตามินพร้อมขนมหรือของว่างค่ะ และแบ่งเป็นเม็ดเล็กๆ ไว้ทานช่วงเช้าและช่วงเย็นแทนค่ะ เพื่อลดอาการคลื่นไส้
- เพิ่มวิตามิน D ในช่วงนี้ ด้วยเดินสัก 15 นาที ต้อนรับแสงแดดยามเช้า หรือทานอาหารจำพวกไข่ แซลมอน ซาร์ดีน เพราะวิตามินดีจะช่วยเสริมการทำงานของแคลเซียม เนื่องจากช่วงนี้คุณแม่จะสูญเสียแคลเซียมให้ลูกมากกว่าปกติค่ะ
- แน่นอนว่า ต้องงดการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่นะคะ เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์แล้ว
บทสรุปของการท้อง 4 สัปดาห์
น้อยคนนักที่จะรู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ในช่วง 4 สัปดาห์นี้ หรือบางคนรู้ตัวเมื่อท้องได้ 5 สัปดาห์ ก็นับว่าเร็วมากเลยค่ะ นั่นอาจเป็นเพราะกำลังเฝ้ารอการมาของลูกน้อยอยู่ ก็คงจะรีบเช็คทันทีเลยค่ะว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์อยู่หรือเปล่านะ หลังจากที่ประจำเดือนยังไม่มา ก็รีบเช็กได้เลย
โดยวิธียอดฮิตในการเช็ก ก็ได้แก่การซื้อที่ตรวจการตั้งครรภ์มา หาได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อหรือร้านขายยา ใช้ปัสสาวะในการตรวจ ควรตรวจในตอนเช้า และตรวจหลังจากวันที่ครบกำหนดประจำเดือนมา 7 วัน หรืออาจจะทิ้งไว้นานกว่านี้ก็ได้ หากบางคนประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่แล้ว
เมื่อพบว่าตัวเองตั้งครรภ์ สามารถไปฝากครรภ์ได้ค่ะ แต่คุณหมอบางโรงพยาบาลอาจจะยังไม่รับ ต้องรอให้ครบ 9 สัปดาห์ก่อน ถึงจะรับฝาก แต่ในระหว่างนี้สามารถไปพบคุณหมอเพื่อนัดตรวจดูอาการได้ค่ะ และอย่าปล่อยไว้นานเกิน 12 สัปดาห์นะคะ
คุณแม่ควรเลือกฝากครรภ์กับคลินิก หรือโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่พักอาศัย เนื่องจากหากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น จะได้หาหมอได้ทันเวลาค่ะ
ในช่วงนี้หากคุณแม่แพ้ท้อง มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ควรเลือกรับประทานอาหารอ่อนๆ ไม่มีกลิ่นฉุน เพื่อลดอาการคลื่นไส้ค่ะ ด้วยการเลือกสรรเมนูใหม่ๆ ทานขนมที่มีคุณประโยชน์ ไม่จำเป็นต้องเลือกทานอาหารคาวจัดเต็มแบบเมื่อก่อน แต่เน้นคลีนๆ กินง่ายค่ะ
