วันนี้แอดมินจะมาพาไขข้อสงสัยสำหรับคุณแม่มือใหม่แบบสุดๆกันค่ะ สำหรับคนที่อยากมีลูก พยายามกันมากี่ครั้งก็ตามแต่ แล้วเราจะสามารถรู้ได้อย่างไร ว่า ติดแล้ว เรามาสังเกตุอาการของคนที่ท้องแรกเริ่มช่วง 1 เดือนแรกกันค่ะ
ซึ่งโดยปกติแล้วจะสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ช่วงเดือนแรกหลังจากที่ประจำเดือนขาด หรือมีอาการอื่นๆร่วมด้วยค่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่า แล้วอาการมันมีอะไรเพื่อให้คุณแม่มือใหม่เตรียมตัวรับมือได้ทันกันค่ะ
#7 อาการคนท้อง ช่วง 1 เดือนแรก
1. ประจำเดือนขาด
ถ้าประจำเดือนขาด มาไม่ตรงตามที่เราเคยมี คิดไว้เลยว่าต้องใช่แน่ๆค่ะ ฮ่าๆ สาเหตุที่ทำให้เกิดประจำเดือนขาดเพราะว่า เราเข้าสู่ภาวะตั้งครรภ์เรียบร้อยแล้วนั่นเองค่ะ เนื่องจาก ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่เรียกว่า
โพรเจสเทอโรน ออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งฮอร์โมนนี้ทำหน้าที่หยุดประจำเดือนและช่วยให้ การตั้งครรภ์ของเราสมบูรณ์แบบและมีสุขภาพที่แข็งแรงค่ะ แต่อีกนัยนึงหากเราไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ หรือป้องกันดีแล้ว
แล้วประจำเดือนขาด ก็อาจจะมีสาเหตุอื่นก็ได้นะคะ เช่น อาจเกิดความผิดปกติภายในมดลูกของเรา ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ร่วมด้วยค่ะ
ตอนของแอดมินเองก็คือ ประจำเดือนขาด เลยตรวจ เลยเฮลโหลเบบี๋กันไปค่ะ ฮ่าๆ
2. อาการฉี่บ่อย
ถ้าเราฉี่บ่อย ก็อาจจะเกิดจากการที่เราเริ่มตั้งครรภ์อย่างสมบูรณ์แบบแล้วก็ได้นะคะ เพราะว่าระดับฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนที่เพิ่มขึ้นนี้
ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงที่มดลูกมากขึ้น เนื่องจาก ฮอร์โมนนี้กำลังเสริมความแข็งแกร่งให้กับ มดลูกของเราเพื่อให้เด็กที่กำลังจะเติบโต เติบโตมาได้อย่างสมบูรณ์และแข็งแรง นั่นทำให้ผนังมดลูกของเราหนาเพื่อเอื้อต่อการเติบโตของเด็กน้อยในท้องของเรา เท่านั้นยังไม่พอค่ะ เพราะฮอร์โมนตัวนี้
นอกจากทำให้มดลูกเราขยายใหญ่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้ กระเพาะปัสสาวะและไตขยายเพิ่มขึ้นด้วย นี่เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้เราฉี่บ่อยเพราะถูกอวัยวะที่ขยายใหญ่ขึ้นเบียดกันอยู่นั่นเองค่า
ตอนแอดมิน ด้วยความที่ตอนทำงานที่ออฟฟิศพยายามกินน้ำเยอะ ดังนั้นเลยมีอาการฉี่บ่อยเป็นปกติอยู่แล้ว เลยยังไม่แน่ใจว่าท้องรึยังค่ะ จนตรวจนั่นแหละ
3. ความต้องการทางเพศการเปลี่ยนแปลง
เนื่องด้วยฮอร์โมนของเราเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ส่งผลต่ออารมณร์ของเรา ซึ่งว่าที่คุณแม่บางรายอาจจะเกิดความต้องการทางเพศเพิ่มขึ้น หรือบางรายก็อาจจะลดลง แล้วแต่คน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อาการนี้จะมีเพียงแค่ในช่วงไตรมาสแรกเท่านั้น เพราะฮอร์โมนสวิง พอเข้าสู่ช่วงไตรมาสที่ 2 ร่างกายก็จะเริ่มปรับสภาพได้แล้ว
ตอนแอดมินรู้ว่าท้องในช่วงเดือนแรก ของแอดมินคือ ลดลงเลยค่ะ สงสัยเพราะว่ามีเรื่องเครียด และ กังวลหลายเรื่อง ทำให้ไม่มีเวลาไปคิดเรื่องพวกนั้นเลยค่ะ เป็นแม่ครั้งแรกอ่ะเนาะ มีเรื่องให้ต้องเตรียมตัวมากมาย
4. อาการเพลีย และ ล้า
พอเราท้องในช่วงเดือนแรกจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ทำให้เรารู้สึกมีแรงน้อยลงและเหนื่อยง่ายมากขึ้นค่ะ เพราะร่างกายของเรากำลังใช้พลังงานเป็นอย่างมมากเพื่อนำมาพัฒนาเด็กในท้องของเรา นอกจากนี้ พลังงานเหล่านั้นยังใช้ในการปรับสภาพแวดล้อมภายในครรภ์ของเรา เพื่อให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเด็กค่ะ
ตอนแอดมินคือ เพลียและรู้สึกร่างกายเราอ่อนแอลงเยอะมากๆค่ะ นอนบ่อยมาก จนคนในทีมสงสัยว่าเป็นอะไรรึเปล่า
5. อาการแพ้ท้อง
แพ้ท้องก็เป็นอีกหนี่งผลข้างเคียงจากการที่ฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนของเราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี่แหละค่ะ ซึ่งอาการแพ้ท้องนี้สามารถเกิดได้ตลอดทุกช่วง ไม่ว่าจะ เช้า สาย บ่าย เย็นเลยค่ะ
ส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 3 เป็นต้นไป และจะเริ่มดีขึ้นเมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่สองของการตั้งครรภ์ ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว ขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละคนด้วยนะคะ คุณแม่บางท่านก็ไม่มีอาการแพ้ท้องเลย ก็มีค่ะ
ตอนแอดมินก็คือ อ้วกยับค่ะ แพ้หนักมาก ช่วง 3 เดือนแรก กินอะไรก็ไม่อร่อย กินเสร็จ พะอืดพะอม อ้วกออกหมด ประกอบกับเพลียด้วย จำได้ว่าขยาดการท้องไปเลยค่ะ
6. จมูกไวต่อกลิ่นมากขึ้น
อย่างที่บอกไปในข้อต้นๆนะคะ ว่าพอเราเข้าสู่ช่วงตั้งครรภ์ ร่างกายเราจะเกิดการเปลี่ยนแปลงก็คือ ฮอร์โมนโพรเจสเทอโรน แต่นอกจากฮอร์โมนตัวนี้แล้วก็ยังมีฮอร์โมนตัวอื่นๆเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะมีอยู่ 1 ตัวที่ทำให้จมูกของเรารับรู้กลิ่นได้ไวมากขึ้น จนถึงขั้นอาเจียนเลยก็มี นั่นก็คือ ฮอร์โมน beta hCG ซึ่งอาการเหล่านี้จะดีขึ้นเมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 เช่นกันค่า
ตอนแอดมินไม่ค่อยมีความรู้สึกอันนี้ค่ะ ส่วนใหญ่จะเรื่องกินอะไรก็อ้วกออกหมดมากกว่า
7. อยากกินอาหารแปลก ๆ
อาการนี้คือประหลาดมากค่ะ เพราะพอเราเข้าสู่การตั้งครรภ์แบบสมบูรณ์แบบแล้ว ด้วยระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นอย่ากระทันหันในช่วงแรกนั้น
จะทำให้การรับรู้รสชาติของอาหารเปลี่ยนแปลงไปด้วย จนทำให้รู้สึกกินอะไรก็ไม่อร่อย และบางทีอยากกินของแปลก ๆ ที่ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมจึงอยากกิน อย่างเช่น อาหารที่มีรสเปรี้ยว เป็นต้น
ตอนแอดมิน คือ ของเผ็ดจ้ะ งงมาก คือก็กลัวลูกในท้องจะได้รับอันตรายเหมือนกันนะ แต่ว่ามันอยากมาก แบบมากๆ จนต้องกินอ่ะ ปกติตอนไม่ท้องยังกินไม่เผ็ดขนาดนั้นเลย ดีนะลูกออกมาปกติดี ฮ่าๆ
ท้อง 1 เดือนใหญ่แค่ไหน ??
เรามาเรียนรู้กันแบบวิทยาศาสตร์เบาๆกันนิดนึงนะคะ ว่าพอเราเริ่มตั้งครรภ์แล้วเนี่ย เกิดอะไรขึ้นกับภายในร่างกายเรากันบ้าง นั่นก็คือ ในช่วงระยะแรก ตัวอ่อนที่ได้รับการฝังตัวนั้นจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วมาก
รวมทั้งมีลักษณะเป็นเหมือนตุ่มพองบนเยื่อบุโพรงมดลูกภายในร่างกายของเรา พอเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 แล้ว ภายในครรภ์ก็จะเริ่มมีถุงน้ำคร่ำเกิดขึ้น ซึ่งภายในถุงน้ำคร่ำจะมีน้ำคร่ำที่ทำหน้าที่คอยปกป้องตัวอ่อนจากสิ่งแวดล้อม การกระทบกระเทือนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากภายนอก และควบคุมอุณหภูมิให้ตัวอ่อน
ทำให้ตัวอ่อนสามารถเคลื่อนไหวได้เพื่อการเจริญเติบโตของอวัยวะต่าง ๆ รวมทั้งยังเป็นแหล่งน้ำให้ตัวอ่อนอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้น ในระยะเวลา 1 เดือนนี้ ตัวอ่อนจะมีขนาดเพียงแค่ไม่ถึง 1 กรัม ดังนั้นช่วงนี้ท้อง 1 เดือน ยังไม่ใหญ่แน่นอนค่ะ สังเกตไม่เห็นแน่ๆ ต้องคอยสังเกตจากอาการในหัวข้อด้านบนแทนค่ะ
สรุป #7 อาการคนท้อง ช่วง 1 เดือนแรก และ ท้อง 1 เดือนใหญ่แค่ไหน
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับบทความนี้สำหรับคุณแม่มือใหม่ หรือคนที่กำลังเตรียมตัวจะมีลูก พอเรารู้อาการต่างๆกันแล้ว ยังไงก็อย่าลืมสังเกตุตัวเองกันนะคะ ว่ามีอาการดังกล่าวไหม เผื่อเราจะปุ๊บปั๊บรับโชค ได้มีตัวน้อยให้ทนุถนอมกันค่ะ
ส่วนขนาดท้อง ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ 1 เดือนแรก ไม่มีความแตกต่างจากเดิมเลยค่ะ เพราะน้องยังเป็นวุ้นอยู่เลยค่ะ ไว้พบกันใหม่บทความหน้านะคะ
Write a comment