สำหรับการออกกำลังกายในปัจจุบัน เริ่มเป็นที่นิยมกันมากขึ้น เพราะการออกกำลังกายจะช่วยทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และยังช่วยควบคุมน้ำหนัก ช่วยทำให้หุ่นสวยดูเพียว และช่วยทำให้สุขภาพผิวพรรณและ
สุขภาพจิตดีขึ้นอีกด้วย
ซึ่งการออกกำลังกายมีหลากหลายรูปแบบ สำหรับคนที่ต้องการเร่งการเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกาย ก็ต้องเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ซึ่งการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอจะช่วยทำให้สาวๆ สลายไขมันที่สะสมในร่างกายได้ดี ทำให้มีหุ่นที่สวยกระชับขึ้น ซึ่งวันนี้ได้พาส่อง เคล็ดลับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ จากชาว pantip จะเป็นยังไงไปดูกันเลย
ทำไมต้อง “คาร์ดิโอ”
การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เป็นการออกกำลังกายที่เป็นที่นิยมสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนัก เพราะการคาร์ดิโอสามารถช่วยเร่งการเผาผลาญและช่วยลดน้ำหนักและลดสัดส่วนได้ดี ซึ่งการคาร์ดิโอก็มีหลายชนิด เช่น การวิ่ง การว่ายน้ำ กระโดดเชือก การเล่นกีฬาต่างๆ เป็นต้น
โดยการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอควรจะออกกำลังกายต่อเนื่องประมาณ 30 นาทีขึ้นไป จะช่วยทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดียิ่งขึ้น ทำให้น้ำหนักและสัดส่วนลดลงเร็วขึ้น
นอกจากนี้การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอยังช่วยทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้กล้ามเนื้อหัวใจและปอดเเข็งแรงมากขึ้น และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น
ควรเลือกคาร์ดิโอ แบบไหนดี
สำหรับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอมีหลายแบบให้สาวๆ หนุ่มๆได้เลือก เช่น การวิ่ง เต้นแอโรบิก เต้นซูมบ้า กระโดดเชือก เป็นต้น เป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่มีแรงกระแทกสูง เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีปัญหาเรื่องกระดูกและข้อต่างๆ เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ และการคาร์ดิโอแบบแรงกระแทกต่ำ เช่น การว่ายน้ำ การออกกำลังกายในน้ำ ปั่นจักรยาน เดิน พายเรือ เป็นต้น
แต่อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอก็มีข้อเสีย ถ้าหากคาร์ดิโอไม่เหมาะกับร่างกาย อาจจะทำให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บได้ ดังนั้นควรเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับตัวเอง จะทำให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น
พาส่อง เคล็ดลับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
จากชาว pantip
ขึ้นอยู่กับน้ำหนัก สุขภาพ ความแข็งแรงทางร่างกายของคุณ ถ้าอึดก็วิ่งเร็วระดับนึง กระโดดเชือก นานอย่างน้อยครึ่ง ชม. ขึ้นไป ถ้าน้ำหนักมาก ก็เดินเร็ว วิ่งเหยาะแทนไปก่อน ให้น้ำหนักลดหน่อย ว่ายน้ำ ปั่นจักรยานก็ดี ทุกอย่างโอเคทั้งนั้นถ้าทำนานพอ หนักพอ และทำเป็นประจำ 4-6 วันต่อสัปดาห์
รีวิวจาก pantip คุณ tormay
อันไหนดีสุดไม่มีครับ จะวิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน อะไรก็ได้ครับ หัวใจสำคัญอยู่ที่อัตราการเต้นของหัวใจ
รีวิวจาก pantip คุณ สมาชิกหมายเลข 1342404
ตอนนี้เราออกกำลังแบบ Hiit สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 25-30 นาที สลับอาทิตย์กับคาร์ดิโอปกติ และเวท เทรนนิ่ง 5 วัน/สัปดาห์ เทียบกับที่เราบ้าวิ่งช้าหรือเดินบนลู่เป็นชั่วโมงในอดีต และเล่นโยคะ แบบแรกให้ผลดีกว่าเยอะจริงๆค่ะ ตอนนี้บางทีช่วงไหนยุ่งมากๆ ไม่ได้ออกกำลังเป็น 2 สัปดาห์ (และทานอาหารไม่ได้น้อยเลยแต่เลือกทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ และเราทานข้าวเยอะมากด้วย) รู้สึกว่ารูปร่างไม่ได้อ้วนขึ้น การเผาผลาญดีกว่าเดิมมาก
รีวิวจาก pantip คุณ แฟชึ่นไอค่อนตัวแม่ระดับHD
ผมคาร์ดิโอ+งดอาหารเย็น น้ำหนักลดจาก70กิโลเหลือ63กิโลภายใน2เดือน จากที่เคยวิ่ง500เมตรเหนื่อย ตอนนั้นวิ่งได้7-8กิโลสบายๆ มันฟิตจริงอะไรจริง แต่พละกำลังก็หายไปด้วยครับ เพราะฉะนั้น คาร์ดิโอไปด้วย เวทเทรนนิ่งไปด้วยจะดีที่สุด จะได้ไม่ผอมหัวโตยังไงล่ะครับ
รีวิวจาก pantip คุณ TPhetB
เล่นคาดิโอ กับควบคุมอาหาร ประมาณ 3 เดือน ลงไป 18 ก.ก. ค่ะ
รีวิวจาก pantip คุณ casanovy_aom
ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอช่วยลดน้ำหนักได้แน่นอนคับ แต่ต้อง30นาทีขึ้นไป ร่างกายถึงจะนำไขมันออกมาใช้
แต่ก้ออย่าลืมเล่นเวทคู่กันด้วยนะคับ ก้อจะช่วยให้ลดได้เพิ่มขึ้นและรกล้ามเนื้อได้แข็งแรงขึ้น
รีวิวจาก pantip คุณ boomba6
โปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาสำหรับคนมีปัญหาเจ็บเข่า เจ็บข้อเท้า วิ่งแล้วเจ็บ ไม่รู้จะคาร์ดิโอยังไง วันนี้ผมเลยออกแบบโปรแกรมให้มีแรงกระแทกต่ำ ป้องกันการบาดเจ็บ ให้คนที่ไม่ว่าจะเจ็บเข่า หรือ คนออกกำลังกายทั่วไป ก็ทำคาร์ดิโอได้ ลดไขมันกันสุดๆแบบ สบายใจ หายห่วงเลยว่าจะมีอาการบาดเจ็บตามมาให้รำคาญใจ
รีวิวจาก pantip คุณ สมาชิกหมายเลข 2009740
บทสรุป
พาส่อง เคล็ดลับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
จากชาว pantip
จบไปแล้วนะคะ สำหรับพาส่อง เคล็ดลับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ จากชาว pantip ซึ่งการคาร์ดิโอเป็นการออกกำลังกายที่เป็นที่นิยมสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนัก เพราะการคาร์ดิโอสามารถช่วยเร่งการเผาผลาญและช่วยลดน้ำหนักและลดสัดส่วนได้ดี ช่วยทำให้หุ่นสวยดูเพียว และช่วยทำให้สุขภาพผิวพรรณ แถมยังช่วยทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้กล้ามเนื้อหัวใจและปอดเเข็งแรงมากขึ้น
จะเห็นว่าการคาร์ดิโอมีประโยชน์มากมาย แต่สิ่งสำคัญเราควรเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายตัวเอง เพื่อจะช่วยทำให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้นและไม่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ
