สวัสดีค่าาเพื่อนๆ วันนี้เจอกันอีกแล้ว สำหรับใครที่เพิ่งรู้จักเว็บเราเป็นครั้งแรกก็ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนๆนะคะ วันนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่องของ”เทรนเนอร์” เพื่อนๆรู้จักคำว่าเทรนเนอร์ดีแค่ไหนกันคะ ถ้าเพื่อนๆยังไม่รู้หรือรู้เพียงผิวเผิน
วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับคำว่าเทรนเนอร์แบบจริงๆจังๆกันค่ะ ว่าแท้จริงแล้วคำว่าเทรนเนอร์นั้นมีความหมายเพียงแค่ผู้สอนหรือไม่ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยย
“เทรนเนอร์”คืออะไร?
เทรนเนอร์ หรือเรียกเต็มๆว่า Personal Trainer เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถเป็นพิเศษในเรื่องของการออกกำลังกาย โดยใช้เทคนิคส่วนตัวที่มีของแต่ละคนในการเทรนลูกศิษย์ควบคู่ไปกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์การกีฬา
เพื่อลดความบาดเจ็บและวิเคราะห์สรีระของแต่ละคนว่าควรออกกำลังกายแบบไหน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อบุคคลนั้นๆนั้นเอง เทรนเนอร์ไม่ได้เทรนเพียงการออกกำลังกายแต่ยังช่วยควบคุมในเรื่องของพฤติกรรมการกินอีกด้วย ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายในการออกกำลังกายได้เร็วมากยิ่งขึ้น
เชื่อว่าต้องมีหลายคนสงสัยว่าแล้วถ้าหากไม่จ้างเทรนเนอร์ จะสามารถออกกำลังกายบรรลุเป้าหมายที่เราตั้งเป้าไว้หรือไม่ วันนี้ไปไขข้อสงสัยกันค่ะ
ไม่จ้างเทรนเนอร์จะบรรลุเป้าหมายในการออกกำลังกายได้หรือไม่ ?
ทำได้เช่นกันค่ะเพื่อนๆ เพียงแต่เราต้องทำการศึกษาให้มากหน่อยเช่นถ้าเพื่อนๆมีเป้าหมายว่าอยากออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักและกระชับสัดส่วน เพื่อนๆอาจจะลองหาวิธีในอินเตอร์เน็ตแล้วทำตามก็เป็นไปได้เช่นกันค่ะ
แต่ในบางกรณีที่เป้าหมายของเรานั้นอาจยากไปหน่อยเช่น การออกกำลังกายเพื่อลดสะโพก หรือลดขนาดไหล่ที่กว้างเกินไป ตรงนี้อาจจำเป็นที่จะต้องได้รับคำแนะนำจากเหล่าเทรนเนอร์และทำการเทรนอย่างใกล้ชิดก็อาจทำให้เห็นผลที่ชัดเจนมากขึ้นค่ะเพื่อนๆ
สำหรับใครที่ต้องการเซฟมันนี่ วันนี้เรามีทริคเด็ดๆมาบอก ถ้าเพื่อนๆไม่มีกำลังพอที่จะจ้างเทรนเนอร์ งั้นก็ลองเป็นเทรนเนอร์ตัวเองหน่อยเป็นไงงง ทำได้ไม่ยากเลยวันนี้เราจะมาบอกเพื่อนๆเองง
เป็นเทรนเนอร์ตัวเองได้ ไม่ยากอย่างที่คิด
การเป็นเทรนเนอร์ตนเองให้เพื่อนๆมีความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว อย่าไขว้เขว และทำดังต่อไปนี้
- ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนว่าตนเองต้องการลดน้ำหนักไปเพื่ออะไร
- ศึกษาข้อมูลการออกกำลังกายที่สามารถทำให้เราบรรลุผลได้
- จัดเซตการออกกำลังกายด้วยตนเอง เพื่อให้ตนเองรู้ว่าวันหนึ่งควรออกกำลังกายอย่างไรบ้าง
- ทำการจัดตารางเวลาการออกกำลังกาย 3-4 ครั้งต่ออาทิตย์
- จัดตารางควบคุมอาหารให้เหมาะสมกับช่วงการออกกำลังกาย อาจเน้นโปรตีนและคาร์โบไฮเดตร
- นอนให้เต็มอิ่ม พักผ่อนให้เพียงพอ
- ทำตารางประเมินผลตนเองทุกๆสัปดาห์ หากไม่พบความเปลี่ยนแปลงให้ลองปรับอย่างเคร่งครัดมากยิ่งขึ้น
เพียงเท่านี้เพื่อนๆก็สามารถเป็นเทรนเนอร์ให้ตนเองได้ แต่อย่าลืมว่าต้องมุ่งมั่นต้องใจไม่ผลัดวันประกันพรุ่งนะคะเพื่อนๆ ผลลัพธ์ออกมาดีแน่นอนเลยย และวันนี้เรายังมีอาหารที่ควรกินในช่วงออกกำลังกายมาแนะนำเพื่อนๆอีกด้วยย
อาหารที่ควรกินช่วงออกกำลังกาย
- เมนูอกไก่ทั้งหลาย เว้นทอด
- ขนมปังโฮลวีตปิ้ง
- น้ำผลไม้คั้นสด
- ข้าวกล้อง หรือ ข้าวไรซ์เบอร์รี่
- สลัดผัก
- ผงโปรตีน
- ไข่ต้ม
- โยเกิร์ต
- ผลไม้
- ผัก
- ปลา
- ถั่ว
- ซีเรี่ยล
อาหารเหล่านี้จะช่วยให้พลังงานอย่างเพียงพอเมื่อเพื่อนๆจะต้องออกกำลังกาย อาจจะต้องควบคุมปริมาณให้พอเหมาะ พอดีอิ่มไม่อิ่มมากจนเกินไปนะคะเพื่อนๆ และก่อนลากันวันนี้เรายังมีสาระเด็ดๆออกกำลังกายช่วงไหนดีที่สุดมาบอกเพื่อนๆอีกด้วย ไปดูกันเลยย
สาระเด็ดๆ ออกกำลังกายช่วงไหนดี
จริงๆการออกกำลังกายมักนิยมออกกันทั้งช่วงเช้าและเย็น ซึ่งขอบอกตรงนี้เลยว่าดีทั้ง 2 ช่วงเวลา แต่จะมีข้อดีแตกต่างกันไปดังนี้
การออกกำลังกายช่วงเช้า
- จะทำให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ตื่นตัวไม่ง่วง
- ในช่วงกลางคืนร่างกายจะทำการเผาผลาญแคลอรี่ที่เรากินเข้าไปในระหว่างวันจนหมด ทำให้การออกกำลังกายในช่วงเช้าจึงช่วยเผาผลาญไขมันสะสมในร่างกายแทน
ข้อดีของการออกกำลังกายช่วงเย็น
- มีแรงมากกว่าในช่วงเช้า เพราะเราได้รับสารอาหารระหว่างวันมาแล้ว
- ทำให้หลับสบายมากขึ้นเนื่องจากเราใช้ชีวิตมาทั้งวัน และเหนื่อยจากการออกกำลังกาย
- ออกกำลังกายหนักได้ สำหรับใครที่อยากสร้างกล้ามเนื้อแนะนำเป็นตอนเย็นเลยค่า เพราะจะให้ไปยกเวทเล่นหนักตอนเช้าคงไม่มีแรงไปทำอะไรกันพอดี
บทสรุปเทรนเนอร์จำเป็นหรือไม่
เทรนเนอร์พูดง่ายๆเลยก็คือคนที่สอนเราในเรื่องของการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพ ให้เราได้บรรลุเป้าหมายในการออกกำลังกายที่ตั้งไว้ได้นั้นเอง แต่การจ้างเทรนเนอร์ก็อาจมีราคาสูงไม่เบา ดังนั้นวันนี้เราก็ได้แนะนำวิธีการเป็นเทรนเนอร์ตนเองให้กับเพื่อนๆไปแล้ว หวังว่าเพื่อนๆจะได้ประโยชน์และลองไปปรับใช้กันดูนะค้าาาา
Write a comment