ทุกคนทราบกันอยู่แล้วว่า แสงแดดเป็นวายร้ายทำลายผิวของเราและครีมกันแดดเหมือนเปรียบเสมือนเจ้าชายขี่ม้าขาวที่มาช่วยปกป้องผิวของเราจากแสงแดด
แต่ยังมีอีกหลายคนที่รู้สึกว่าทาครีมกันแดดยังไงหน้าก็ยังคล้ำ หนักหน่อยก็มีฝ้า หรือผิวกายคล้ำขึ้น วันนี้เรามาดูกันว่า เราทาครีมกันแดดทั้งผิวหน้าและผิวกายถูกวิธีหรือเปล่า วิธีเลือกครีมกันแดดและครีมกันแดดแพงกับถูกต่างคุณภาพต่างกันยังไง เราจะมาตอบทุกคำถามที่ทุกคนสงสัยกัน
วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้องสำหรับผิวหน้า
ถ้าถามว่าทาครีมกันแดดตอนไหน ตอบได้เลยว่าวิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้องคือต้องทาหลังจากครีมบำรุงทั้งหมด เขย่าขวดทุกครั้งก่อนทา ในกรณีที่เป็นกันแดดแบบน้ำ บีบครีมกันแดดปริมานเท่าเหรียญสิบหรือ2 ข้อนิ้วมือ ทาให้ทั่วทั้งใบหน้า ลำคอ และหู ต้องทาครีมกันแดดก่อนออกแดดอย่างต่ำ 20 นาที ครีมกันแดดจะเซ็ตตัวและมีประสิทธิภาพปกป้องผิวมากกว่าการทาครีมกันแดดเสร็จแล้วออกแดดทันที กรณีนี้ทำได้ทั้งเวลาไปทะเลต้องเจอแดดหนัก ๆ และชีวิตประจำวัน
สำหรับคนที่ไม่ได้แต่งหน้าอยู่แล้ว ในชีวิตประจำวัน ก็สามารถเช็ดทำความสะอาดหน้าและทาครีมกันแดดซ้ำได้ สำหรับคนที่แต่งหน้า หลังจากทาครีมกันแดดควรปล่อยให้ครีมกันแดดเซ็ตตัว 10 นาทีค่อยแต่งหน้า และไม่ว่าเครื่องสำอางจะมีสารกันแดดอยู่แล้ว ครีมกันแดดก็ยังจำเป็นมากอยู่ดี เพราะสารกันแดดในเครื่องอำสางไม่เพียงพอต่อการปกป้องผิว
สำหรับสาวๆ ที่แต่งหน้าและอยากทาครีมกันแดดระหว่างวันก็สามารถใช้แบบกันแดดแบบสเปรย์ได้ เพื่อป้องกันการอุดตัน ชั่วโมง แต่ยังไงก็แล้วครีมกันแดดจะป้องกันแดดได้ดีที่สุดเมื่อทาตอนหน้าสะอาดกันเติมระหว่างวันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันต่อเนื่อง โดยปกติแล้วถ้าไม่ได้เหงื่อออกมาก ๆ หรือผิวเปียก ครีมกันแดดจะอยู่ได้นานสุด 6 ชั่วโมง
วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้องสำหรับผิวกาย
การทาครีมกันแดดผิวกาย ก็มีคล้ายกับทาครีมกันแดดหน้า ต้องทาก่อนออกแดดอย่างต่ำ 20 นาที เพื่อให้กันแดดเซ็ตตัวและมีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวมากขึ้น การทาครีมกันแดดผิวกายควรทาปริมานเท่าเหรียญบาทในแต่ละส่วนของร่างกาย ทั่วร่างกายต้องใช้ครีมกันแดดปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ และควรเน้นบริเวณที่บางมาก ๆ เช่น หลังเท้า หลังคอ หู สามารถเติมหรือทาครีมกันแดดซ้ำได้ระหว่างวันได้บ่อยตามต้องการ โดยเฉพาะเวลาไปทะเล ไปว่ายน้ำ ครีมกันแดดจะถูกชะล้างออกไป ประสิทธิภาพจะลดลง จึงควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก ๆ 4 ชั่วโมงหากผิวเปียกน้ำ
วิธีเลือกครีมกันแดด
- ควรเลือกครีมกันแดดที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด รังสี UVA UVB และควรเลือกครีมกันแดดแบบที่มี SPF (Sun Protection Factor) อย่างน้อย 15 ขึ้นไป ดีที่สุดคือ SPF 30
- หากเลือกกันแดดเพื่อไปทะเลหรือว่ายน้ำควรเลือกแบบที่มีคำว่า Waterproof ทั้งแบบผิวหน้าและผิวกาย
- หากเป็นคนผิวมันหรือเป็นสิวง่าย ควรเลือกครีมกันแดดที่ใช้สารตั้งต้นเป็นน้ำ
- ถ้าหากครีมกันแดดที่เราใช้ได้ผลไม่ดีเท่าที่ควรลองมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมไม่เหมือนตัวเดิมที่เคยใช้ ส่วนผสมของครีมกันแดดแต่ละแบรนด์ไม่เหมือนกัน
- เลี่ยงที่จะใช้ครีมกันแดดที่ใกล้หมดอายุ เพราะประสิทธิภาพของครีมกันแดดจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
- ครีมกันแดดผิวหน้าและผิวกายควรใช้แยกกัน
ควรใช้ครีมกันแดดราคาเท่าไหร่ ?
ของแพงไม่จำเป็นต้องเป็นต้องดีเสมอไป โดยเฉพาะกับครีมกันแดดที่มีหน้าที่ปกป้องผิวจากแดด ปกติแล้วคนเราจะเลือกครีมกันแดดที่มี SPF 50 เพราะเชื่อว่าช่วยป้องกันแสงแดด และรังสี UVA UVB ได้ดีมากกว่า แต่ความจริงแล้ว SPF 30 ช่วยปกป้องผิวจากแดดได้มากถึง 97 % และ SPF 50 ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ 98 % ซึ่งความเป็นจริงแล้วไม่ต่างกัน ความแพงอาจจะขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นเช่น กลิ่น และส่วนผสมอื่น ขึ้นอยู่กับผู้ใช้พึงพอใจ แต่ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่เลือกครีมกันแดดเพราะ SPF ที่สูงกว่าและมันแพงกว่า ทีรี้เราก็ได้รู้กันแล้วว่า 30 และ 50 ไม่ต่างกันเท่าไหร่
บทสรุปของบทความ
สรุปแล้วเราควรจะทาครีมกันแดดตอนเช้าก่อนออกแดด แต่ทุกคนคะ แสง UV UVA UVB เป็นแสงที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่ผิวของเราสัมผัสได้ ต่อให้วันนั้นไม่มีแดดหรือไม่ออกจากบ้าน ยังไงก็ต้องทาครีมกันแดดอยู่ดี และการซื้อครีมกันแดดราคาเท่าไหร่ก็ได้ตามความพึงพอใจของผู้ซื้อ เพราะสิ่งที่ต่างกันเป็นปัจจัยอื่นไม่ใช่สารป้องกันแสงแดดจ้า