#5 โทนเนอร์ตัวเด็ดตลอดกาล สำหรับคนผิวแห้งโดยเฉพาะ

#5 โทนเนอร์ตัวเด็ดตลอดกาล สำหรับคนผิวแห้งโดยเฉพาะ

โทนเนอร์ผิวแห้ง

พอพูดถึงการบำรุงผิวของสาวๆชาวเรากัน ผิวของพวกเราก็ดันไม่เหมือนกันซะทุกคนอีก วันนี้เราจะมาจำแนกประเภทของผิวเพื่อให้เราสามารถดูแลได้อย่างตรงจุดกัน

ผิวมีกี่ประเภท อะไรบ้าง

ผิวของพวกเราแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท นั่นก็คือ ผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวมัน และผิวผสม

  1. ผิวธรรมดา (Normal Skin)
    เป็นผิวที่ถือว่าใครได้ไปก็คือเป็นบุญ อ่ะ ไม่ใช่ ก็คือ ผิวสุขภาพดีเลยค่ะ จะบำรุงอะไรก็ง่าย ไม่ต้องมาคอยกังวล แล้วแบบไหนที่เราจะรู้ได้กันนะ ว่าผิวเราสุขภาพดี ผิวเราคือผิวปกติ นั่นก็คือ ตัวผิวจะมีความสมดุลสุดๆ ไม่มันและไม่แห้งจนเกินไป รวมทั้ง มีการไหลเวียนของเลือดที่ดี ทำให้ ผิวเรียบเนียน รูขุมขนเล็ก ไม่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยหรือสิวมากวนใจได้ง่ายๆ เพราะผิวเราแข็งแรงสุขภาพดี
  2. ผิวแห้ง (Dry Skin)
    คนเป็นผิวแห้งก็คือเป็นบาป อ่ะ ไม่ใช่อีกค่ะ ล้อเล่นนะคะ จริงๆแล้วหากเรารู้ว่าสภาพผิวเราเป็นแบบไหน เราแค่เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวเราก็พอค่ะ เพื่อให้บำรุงได้เต็มประสิทธิภาพ ทีนี้ผิวแห้งของสาวๆ อาการมันเป็นยังไงกัน นั่นก็คือ จะเป็นผิวที่รูขุมขนเล็ก ละเอียด และบอบบาง หนักหน่อยก็ ผิวลอกเป็นขุย รวมทั้งคันยุบยิบก็มีค่ะ ซึ่งทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ง่าย เพราะผิวขาดกรดไขมันที่จำเป็นในการรักษาความชุ่มชื้นไปนั่นเองค่ะ ทำให้เรารู้สึกผิวหยาบกร้าน และดูหมองคล้ำง่าย
  3. ผิวมัน (Oily Skin)
    สภาพผิวนี้ก็คือพบเห็นได้บ่อยมากที่สุดในประเทศไทยไปเลยค่ะ ด้วยสภาพอากาศบ้านเราอะเนาะ ซึ่งผิวลักษณะนี้จะเกิดจากการที่ชั้นผิวผลิตน้ำมันที่มากเกินไป ทำให้ผิวค่อนข้างหยาบ รูขุมขนกว้าง และเป็นสาเหตุของสิวได้อีก เพราะหน้ามัน ฝุ่น ผง สิ่งสกปรกต่างๆ ก็ลอยมาติดที่ใบหน้าเราได้ง่าย ดังนั้นต้องดูแลดีๆค่ะ
  4. ผิวผสม (Combination Skin)
    สภาพผิวนี้ก็คือ มีหลายคนที่เป็นแล้วไม่รู้ตัวก็มีค่ะ แอดมินคือหนึ่งในนั้น เข้าใจมาตลอดว่าผิวมัน เอ้าทำไมเราหน้าลอกเฉพาะจุด คันยุบยิบ โอ้ยแล้วชั้นจะเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวยังไง ยากไปอีก วันนี้เราจะมาเรียนรู้กันค่ะ ว่าผิวผสมเป็นยังไง ผิวผสมก็คือผิวที่สภาพอยู่ระหว่างผิวแห้งกับผิวมัน มีการผลิตน้ำมันมากบริเวณ T-Zone (หน้าผากคางและจมูก) ส่วนบริเวณอื่นๆ ก็อาจจะเกิดอาการผิวแห้งเป็นบางจุด เช่น โหนกแก้มและข้างแก้มค่ะเกริ่นมาซะเยิ่นยาวขนาดนี้ แต่วันนี้เราก็จะเลือกพูดถึงผลิตภัณฑ์ที่เหมาะเฉพาะสำหรับสาวๆผิวแห้งเท่านั้นค่ะ!!! ผิวอื่นๆ รอไปก่อนน้า ไว้บทความหน้านะคะ

เพราะสาวๆผิวแห้งเช่นเรา การบำรุงที่ต้องการก็คือ ถนอมความชุ่มชื่นบนใบหน้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมทั้งเพิ่มความชุ่มชื่น ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวขั้นแรก นั่นก็คือ โทนเนอร์ นั่นเองค่ะ

#5 โทนเนอร์ตัวเด็ดตลอดกาล สำหรับคนผิวแห้งโดยเฉพาะ

 

NO.5 – โทนเนอร์ผิวแห้ง – Neutrogena Alcohol Free Toner
โทนเนอร์ผิวแห้ง

โทนเนอร์ตัวนี้เขาว่ากันว่าอ่อนโยนมากๆ ช่วยเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าและปรับสภาพผิวให้พร้อมรับ การบำรุงในขั้นตอนถัดไป ซึ่งเป็นสูตรพิเศษปราศจากแอลกอฮอล์ อ่อนโยนต่อผิว ทำให้สาวๆผิวแห้งไม่ต้องกังวลว่าโทนเนอร์ตัวนี้จะมาดึงความชุ่มชื้นที่เรามีได้แน่นอน

ปริมาณ 150 ml.
ราคา 185 THB
ชอบผลิตภัณฑ์นี้มากค่ะ เริ่มใช้เพราะพี่ที่ทำงานแนะนำค่ะ แล้วพี่เค้าเป็นผู้ชายแท้ด้วย ก็เลยรู้สึกอยากลอง พื้นฐานเป็นคนผิวแพ้ง่าย มีสิวค่ะ พอใช้ตัวนี้หลังล้างหน้าแล้วรู้สึกหน้าสะอาดขึ้น
กลิ่นธรรมชาติ ไม่มีแอลกอฮอล์ ราคาไม่แพง เทจากขวดก็ลักษณะเหมือนน้ำเลยค่ะเวลาต้องไปต่างจังหวัด หรือต่างประเทศก็จะพกโทนเนอร์ตัวนี้ติดไปตลอด เพราะไม่รู้ว่าเราจะแพ้น้ำประปา หรือน้ำบาดาลที่นั่นไหม แนะนำเลยค่า

รีวิวจาก : Cosmenet – K. Pangrakkuma อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่

โทนเนอร์ตัวนี้ถือว่าเป็นโทนเนอร์กันตายเลยทีเดียว เพราะนอกจากราคาจะถูกมากกกกแล้ว ยังไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวแต่อย่างใด เช็ดทำความสะอาดได้ดี ที่ชอบใช้ตัวนี้เพราะเค้าไม่มีแอลกอฮอร์นั่นเอง^^ ..ส่วนใครที่แพ้น้ำหอมต้องระวังนิดนึงเพราะเค้ามีกลิ่นหอมๆน่าจะใส่น้ำหอมรึเปล่าไม่แน่ใจ(^_^! )

รีวิวจาก : Cosmenet – K. Juneny อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่

 

NO.4 – โทนเนอร์ผิวแห้ง – Light Toning Water สูตร High Moisture
โทนเนอร์ผิวแห้ง

โทนเนอร์มูจิสูตรนี้ คือ สูตร High Moisture ที่เหมาะกับสภาพผิวแห้ง โดยโทนเนอร์นี้จะช่วยฟื้นฟูผิวคล้ำแดดให้กลับมาสดใส พร้อมทั้งให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้นมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งโทนเนอร์มูจิตสูตรนี้ล่ำลือกันมานักต่อนักในหมู่ บิวตี้บล็อกเกอร์ก็ว่าได้เลยค่ะ แบรนด์มินิมอล ราคาก็ยังมินิมอล แถวตัวผลิตภัณฑ์บอกว่าเป็นโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมจากน้ำแร่จากจังหวัด อิวาเตะ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งน้ำแร่ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุกันเลยทีเดียว

ปริมาณ 200 ml.
ราคา 190 THB
ปราศจาก แอลกอฮอล์ ใช้แล้วหน้าชุ่มชื่นดีค่ะ หน้าไม่แห้ง สามารถใช้มาส์กหน้าได้ด้วย
รีวิวจาก : Vanilla – K. Renu อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่

บอกได้คำเดียวว่าปลื้มมากกก ใช้แล้วผิวชุ่มชื่นสุด ๆ , ไม่แพ้ ,ไม่มีกลิ่นฉุน , เนื้อโทนเนอร์ไม่ลื่นหรือหนืดเกินไป , ใช้ได้นาน แต่แพงไปหน่อย เพราะเราซื้อจากร้าน Muji โดยตรง แต่ให้อภัยได้เพราะของเค้าดีจริงค่ะ แถม Muji ยังชอบร่วมรายการใช้แต้ม The 1 Card แลกคูปองส่วนลดได้ 20% (ขวดนี้เราก็ใช้คูปองส่วนลดตอนซื้อมา)

เราชอบตัวนี้มากกว่าฮาดะลาโปะอีกค่ะ เพราะในความรู้สึกของเรา เนื้อโทนเนอร์ของฮาดะลาโบะ จะข้น หนืด ลื่น ไปหน่อย แถมเราใช้แล้วรู้สึกแสบนิด ๆ ด้วย (แต่ไม่แพ้อะไรนะคะ)

ใครกำลังมองหาโทนเนอร์มาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอยู่ เราเชียร์ตัวนี้สุดใจเลยค่ะ แต่อย่าหวังเรื่องความขาวใสนะคะ
รีวิวจาก : Vanilla – K. TjNj อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่

 

NO.3 – โทนเนอร์ผิวแห้ง – Eucerin UltraSENSITIVE [Hyaluron] Toner
โทนเนอร์ผิวแห้ง

โทนเนอร์จากแบรนด์ยูเซอริน นี้เป็นโทนเนอร์สูตรน้ำ ที่ไม่มีส่วนผสมจากแอลกอฮอล์ พร้อมทั้งเพิ่มไฮยารูรอนเข้ามา เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว และ บำรุงไปในตัว เพื่อเตรียมปรับสภาพผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนถัดไป ทำให้ผิวดูแข็งแรง ไม่เกิดการคันระคายเคืองจากอาการผิวแห้ง พร้อมทั้งทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ ไม่ไวต่อการแพ้แน่นอน

ปริมาณ 200 ml.
ราคา 630 THB
พอมาเจออันนี้ แต่งหน้าจัดอย่างเรา สำลี 2 แผ่นสะอาดกริบ แถมไม่ต้องออกแรงทำร้ายผิวมาก… นี่เป็นข้อดีใหญ่หลวงเลยนะ
รีวิวจาก : Vanilla – K. MaiP อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่

เป็นลูกรักของเราเลย ถอยใหม่มาเป็นขวดที่ 2 แล้ว คือแบบพอใช้ขวดแรกหมดส่องกระจกเห็นหน้าตัวเองละมันดีขึ้นมากทนไม่ไหวไปตำอีก แนะนำเลยคนหน้าแพ้ ต้องชอบ

รีวิวจาก : Vanilla – K. nattarikazy อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่

 

NO.2 – โทนเนอร์ผิวแห้ง – LANCÔME : TONIQUE CONFORT
โทนเนอร์ผิวแห้ง

โทนเนอร์แบรนด์ฝรั่งเศสขวดสีชมพูขวดนี้ เป็นโทนเนอร์สำหรับคนผิวแห้งหรือผิวบอบบางระคายเคืองง่าย ซึ่งช่วยปรับสภาพผิวให้ผิวสะอาด สดชื่น กระชับรูขุมขน และเนียนนุ่ม พร้อมมอบความชุ่มชื้น ด้วยส่วนผสมของน้ำผึ้ง สารสกัดจากแอลมอนด์ และสารสกัดจากดอกยี่หร่า

ปริมาณ 400 ml.
ราคา 1,950 THB
ครั้งแรกที่ใช้คือได้ไปลองที่เคาเตอร์กับเพื่อนที่มีผิวแห้งค่ะ แค่ลองนิดเดียวรู้สึกว่าผิวนุ่มมากกกก จนแทบจะกรี๊ตตรงเคาเตอร์นั้นเลย โชคดี BA ที่สาขานี้ใจดีเลยไม่ได้โดนกันตอบ หุๆๆตอนหลังกลับกลายเป็นว่าเราซึ่งมีผิวมันกลับไปซื้อเอง ^0^ จริงๆแล้ว toner ตัวนี้เหมาะกับคนผิวแห้งค่ะแต่เราใช้หลังจากเช็ดด้วย toner ของอีกยี่ห้อนึง(ที่ซื้อมาแล้วเฉยๆ จะไม่ใช้ก็เสียดาย) โดยใช้ทำเป้น tissue mask คือเหยาะ toner อันนี้ลงไปชุ่มๆแผ่นสำลีแล้วฉีกสำลีนั้นออกเป็นชั้นๆแล้วแปะที่แก้ม 2 ข้าง จมูก และหน้าผากหรือถ้าวันไหนรีบจริงๆก็ใช้ toner ตัวนี้มาตบๆที่หน้าค่ะใช้แล้วชอบมาก ชุ่มชื่นมากๆ รู้สึกว่าผิวเต้งขึ้นด้วยค่ะ ใช้แล้วหน้าไม่มันเลย จะมีแบ่งใว้ขวดเล็กติดตัวใช้ข้างนอกหลังจากตอนออกแดดจัดๆแล้วรู้สึกหน้าเย็นขึ้นค่ะแนะนำให้ลองใช้ค่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ผิวแห้งก็แนะนำค่ะ คาดว่าหมดขวดใหญ่สุดนี้ จะไปซื้อขวดใหม่ค่ะ (เมืองนอกขวดใหญ่สุดเค้าขนาดใหญ่กว่าขวดใหญ่สุดของไปทยอีก >_< )รีวิวจาก : Vanilla – K. Fridayde16 อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่
เป็นโทนเนอร์ที่มีน่ำลักษณะหนืดๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับใบหน้า หลังจากเช็ดหน้า รู้สึกหน้าชุ่มชื้นมาก แต่แอบหนักหน้าไปนิดหนึ่ง ให้คะแนน8/10 สำหรับโทนเนอร์นี้รีวิวจาก : Konvy – K. Ka***uaอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่

 

NO.1 – โทนเนอร์ผิวแห้ง – Dear Klairs Supple Preparation Facial Toner
โทนเนอร์ผิวแห้ง

โทนเนอร์แดนกิมจิที่เข้าใจคนเอเชียผิวแห้งเป็นอย่างดี ได้แก่ตัวนี้เลยจ้าเพราะคุณเขาคว้าขายดีอันดับ 1 ในแบรนด์สกินแคร์คุณภาพจากประเทศเกาหลีไปครองนั่นเอง และตัวนี้เป็นสูตรอ่อนโยนที่จะช่วยสร้างความสมดุลของค่า pH ให้กับผิวหน้า

พร้อมทั้งมอบความชุ่มชื้นมากกว่าโทนเนอร์ปกติทั่วไป และปลอบประโลมผิวที่อ่อนโยนแพ้ง่าย ให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้งทั้งยังปราศจากสารเคมีอันตราย ไม่ผสมสี ไม่มีพาราเบน ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่แต่งกลิ่น เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแห้งขาดน้ำ ผิวแพ้ง่าย ที่ไวต่อสารเคมี

ปริมาณ 180 ml.
ราคา 620 THB
กลิ่นหอมอ่อนๆ เทใส่สำลีเช็ดหน้าก่อนแต่งหน้าทุกครั้ง รู้สึกหน้าเนียน เต็ม ผิวเด้งพร้อมลงเครื่องสำอางค์ตัวอื่นต่อมากๆ ส่วนตัวใช้ประมาณอาทิตย์กว่าๆก็เห็นผลแล้วว่าหน้าดีขึ้น
รีวิวจาก : Beauticool – K. PKstars อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่

เรารู็สึกเลยว่าหน้ามันดูนุ่มๆ ดูอิ่มน้ำ แล้วก็ฉ่ำมากเลยค่ะ เค้าทำให้เราเราแต่งหน้าติดดีขึ้นด้วย
ที่สำคัญไม่แพ้นะจ้ะ อ่อนโยนมากกกกกก สามารถใช้เป็นมาส์กบำรุงหน้าได้ด้วยน้า
แต่หยดใส่สำลี แล้วเอามาแปะๆบนใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วค่อยเอาออกค่ะ

รีวิวจาก : Cosmenet – K. Nattapohn  อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่

 

บทสรุปโทนเนอร์สำหรับผิวแห้ง

เป็นยังไงกันบ้างคะกับโทนเนอร์สำหรับคนผิวแห้ง ทั้ง 5 ตัว บางคนอาจจะมองว่าโทนเนอร์ไม่สำคัญ แค่ล้างหน้าแล้วก็บำรุงครีมได้เลยนี่นา แต่แอดมินอยากให้ได้ลองซักครั้งค่ะ ลองเช็ดซักที จะเจอสำลีที่หมองๆ นั่นก็คือ

เราล้างหน้าไม่สะอาดแน่นอนค่ะ ทำให้เป็นบ่อเกิดของปัญหาผิวต่างๆมากมายตามมา เราจะได้ไม่ต้องมาวนถามตัวเองซ้ำๆกันว่า ทำไมบำรุงแทบตาย ผิวก็ยังไม่สวยใส แข็งแรงเสียที รอบนี้มีโทนเนอร์เพิ่มมาแล้ว ผิวสวยใส แข็งแรงแน่นอนค่ะ

สกินแคร์Latest articles in the category