ทำความรู้จักกับโรคซึมเศร้า
สวัสดีค่ะชาวโลกทุกคน เราชื่อโรคซึมเศร้านะ หลายๆคนคงรู้จักฉันไม่มากก็น้อย ไม่น้อยก็มาก แฮร่ บางคนก็ได้เจอฉันโดยที่ตัวเองไม่ทราบ จริงๆแล้วฉันสามารถเติบโตมาได้จากความเครียดและกรรมพันธุ์ ไม่ว่าเธอจะเป็นเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ เพศชาย หรือเพศหญิงก็ตาม ฉันก็เจอเธอได้เสมอโดยจะเน้นเป็นพิเศษเลยคือช่วงวัยรุ่นนั่นเอง เวลาที่ฉันต้องไปอยู่กับใครก็จะมีอาการต่างๆ ดังนี้
- ฉันจะมีอารมณ์ที่ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย
- นอนไม่หลับ
- อารมณ์ขึ้นๆลงๆไม่คงที่
- น้ำหนักลดลงมากอย่างรวดเร็ว
- หมดความสนใจต่อโลกภายนอก
เมื่อฉัน ( โรคซึมเศร้า ) แข็งแกร่งมากขึ้นฉันจะมีผลอย่างมากต่อคนนั้นๆ ถึงขั้นที่ทำให้คนๆนั้นอยากจะทำร้ายตัวเอง แต่ถ้าพูดถึงเรื่องของฉัน (โรคซึมเศร้า)
เรามักจะนึกกันว่าเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดจากความผิดหวัง หรือการสูญเสียมากกว่าที่จะเป็นโรค
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ที่เราพบกันในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกธะรรมดาๆ ที่มีกันในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าอารมณ์เศร้าที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอยู่นานโดยไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น หรือเป็นรุนแรง มีอาการต่างๆ ตามมา เช่น เบื่ออาหาร ไม่คิดอยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ก็อาจจะเข้าข่ายที่จะเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว
ลักษณะการเปลี่ยนแปลงในผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้า
การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้า อาจเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปเป็นเดือนๆ หรือเป็นเร็วภายใน 1-2 สัปดาห์เลยก็ได้
ซึ่งขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย เช่น คนรอบข้างไม่เข้าใจ เป็นต้น และผู้ที่เป็นอาจไม่มีอาการตามนี้ไปทั้งหมด แต่อย่างน้อยอาการหลักๆ จะมีคล้ายๆ กัน เช่น รู้สึกเบื่อเศร้า ท้อแท้ รู้สึกตนเองไร้ค่า นอนหลับไม่ดี เป็นต้น
คุณกำลังเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้าอยู่หรือเปล่า..?
1. อารมณ์เปลี่ยนแปลงไป
ที่พบบ่อยๆก็คือจะกลายเป็นคนเศร้าสร้อย หดหู่ สะเทือนใจง่าย ร้องไห้บ่อย เรื่องเล็กๆน้อยๆ ก็ดูเหมือนจะอ่อนไหวไปหมด บางคนอาจไม่มีอารมณ์เศร้าชัดเจนแต่จะบอกว่าจิตใจหม่นหมอง ไม่แจ่มใส
2. ความคิดเปลี่ยนไป
คือไม่ว่าจะมองอะไรที่อยู่รอบตัวก็ดูเป็นเรื่องที่แย่มากๆไปหมด การมองตัวเองในอดีตที่ผ่านมาก็เห็นแต่เหตุการณ์ที่ผิดพลาด เห็นแต่ความล้มเหลวของตัวเอง
3. การงานแย่ลง
คือ การที่มีความรับผิดชอบต่อการงานก็ลดลง หมด Passion ในการทำงาน รู้สึกว่าทำอะไรก็ไม่ดีขึ้นมีแต่ต่ำลง ผู้ที่เป็นอาจจะพอฝืนใจตัวเองให้ทำได้ แต่พอเป็นมากๆ ขึ้นก็จะหมดพลังที่จะต่อสู้ ซึ่งหากไม่มีผู้เข้าใจหรือให้การช่วยเหลือก็มักจะถูกให้ออกจากงาน
4. ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเปลี่ยนไป
คือ อาการที่ผู้เป็นมักจะดูซึมลง ไม่ร่าเริง แจ่มใส เหมือนแต่ก่อน จะเก็บตัวมากขึ้น ไม่ค่อยพูดจากับใคร บางคนอาจกลายเป็นคนใจน้อย อ่อนไหวง่าย ซึ่งคนรอบข้างก็มักจะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนไป และคู่รักบางคู่ก็อาจจะมีปากเสียงกันอยู่บ่อยๆ
5. อาการโรคจิต
คืออาการที่จะพบในผู้ป่วยที่รุนแรง ซึ่งนอกจากผู้ที่เป็นจะมีอาการซึมเศร้ามากแล้ว ยังพบว่ามีอาการของโรคจิตอีกด้วย ได้แก่ อาการหลงผิดหรือประสาทหลอนร่วมด้วย แต่ที่พบบ่อยๆมาก ก็คือ จะเชื่อว่ามีคนคอยกลั่นแกล้ง หรือประสงค์ร้ายต่อตนเอง
อาจมีหูแว่วเสียงคนมาพูดคุยด้วย แต่อาการเหล่านี้มักจะเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับการรักษา อารมณ์เศร้าดีขึ้น อาการโรคจิตก็มักทุเลาตาม
แนะนำสังเกตพฤติกรรมลดความเสี่ยงในการทำร้ายตัวเอง
ปัญหาสุขภาพจิตในเด็กและวัยรุ่นไทยเป็นปัญหาสำคัญที่สังคมไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด
ปัญหาดังกล่าวนั้นได้จากหลายปัจจัย ทั้งการถูกเพื่อนล้อ ถูกรังแก เพื่อนไม่คบ ขาดความมั่นใจในตนเอง รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาต่ำ รวมไปถึง ความกดดันในครอบครัว
ถูกพ่อแม่ดุด่า หรือถูกทำโทษเสมอ นำไปสู่ความเครียด ภาวะซึมเศร้า จนทำร้ายตัวเองได้ในที่สุด เพราะเหตุนี้พ่อแม่ผู้ปกครองจึงต้องให้ความสนใจและใส่ใจอย่างเป็นพิเศษ และสังเกตุพฤติกรรมของบุตรหลานว่า มีความผิดปกติหรือไม่
เพื่อจะได้ป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทัน ก่อนที่จะเกิดปัญหาความสูญเสียต่างๆ ตามมา แน่นอนว่าไม่มีใครอยากสูญเสียคนสำคัญในชีวิตไปแน่นอน เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยปละละเลยคนที่คุณรักให้อยู่กับความทุกข์เพียงลำพัง
การรักษาโรคซึมเศร้า
สรุปโรคซึมเศร้าคืออะไร
โรคซึมเศร้านั้นถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคประสาทอ่อนชนิดหนึ่งภายใต้หมวดของโรคทางจิตที่ไม่รุนแรง คนที่มีโรคซึมเศร้ามีอารมณ์แตกต่างต่อเนื่องจากการสูญเสียความสนใจในทุกอย่างและขาดพลังความรู้สึกของพวกเขาแย่มากจนกระทบกับชีวิตประจำวัน
คุณจะเป็นโรคซึมเศร้าเมื่อคุณมีอาการทางจิตมากกว่า 5อย่างติดต่อกันสองสัปดาห์รวมถึงอารมณ์ที่แตกต่าง และการขาดพลัง
คุณจะมีความคิดเชิงลบอย่างต่อเนื่องและชีวิตประจำวันของคุณได้รับผลกระทบอย่างมาก การนอนหลับๆตื่นๆ ไม่มีความสุขไม่ว่าจะเจอเรื่องที่มีความสุขแค่ไหนคุณก็จะมองเรื่องนั้นเป็นเรื่องลบอยู่ตลอด
Write a comment