ผิวแพ้ง่าย แต่ยังไงก็ต้องสวย
โทนเนอร์สำหรับผิวแพ้ง่ายนั้น ปัจจุบันมีตัวเลือกเยอะแยะมากมายหลากหลายตามร้านขายยา ร้านเครื่องสำอางค์ หรือ ร้านสะดวกซื้อ โทนเนอร์นั้นเป็นสิ่งจำเป็นต้องใช้ แต่โทนเนอร์บางก็แรงงงงซะเหลือเกิน ไม่สงสารใบหน้าบางๆนี้เลย
แต่ไม่ต้องห่วง เรื่องจากปัจจุบันมีนวัตกรรมที่ล้ำหน้าไปมาก การที่จะผลิตโทนเนอร์สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางจึงไม่ใช่เรื่องยาก แล้วโทนเนอร์ที่ว่ามีอะไร ตัวไหนบ้างนะ ไปดูกันน
#10 โทนเนอร์สำหรับผิวแพ้ง่าย
ใช้มาหลายขวดมากจนเลิกนับไปแล้ว คิดว่าเหมาะกับทุกสภาพผิวนะคะ ปกติเป็นคนที่ไม่ค่อยมีสิวอยู่แล้ว แต่ถ้ามีสิวขึ้นมา สิวค่อนข้างที่จะยุบแล้วหายไว และหน้าก็ไม่ค่อยแห้ง เวลาแต่งหน้าก็ทำให้เครื่องสำอางติดค่อนข้างดี ราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับคุณภาพ รีวิวจาก neutrogena : คุณ Kanthana คลิกดูรีวิวฉบับเต็ม
หลังจากที่เช็ดหน้าด้วยทิชชู่หลังจากล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว จะใช้โทนเนอร์เช็ดตามทันทีเพื่อไม่ให้ขาดตอน สัมผัสที่ได้ในช่วงของการทาสกินแคร์ต่อมาคือ ให้ความรู้สึกเหมือนทาครีมบนผิวที่เปียกน้ำมาก ชอบในฟีลที่ผิวเด้ง ๆ นุ่ม ๆ เวลาทาครีม ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเมื่อใช้เป็นประจำมาต่อเนื่องประมาณเกือบเดือน สกินแคร์ที่เคยทาซึมเข้าผิวได้ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ มากกว่าช่วงแรก ๆ ที่ไม่ใช้โทนเนอร์เลย เพราะสัมผัสได้ถึงครีมที่หลงเหลืออยู่บนใบหน้าในช่วงเช้าของการตื่นนอนในปริมาณที่น้อยลงมาก ๆ และทุกครั้งที่ได้สัมผัสผิวหน้า จะรู้สึกดีมาก ๆ ที่หน้าดูอิ่มน้ำจากการสกินแคร์ที่เห็นผล ส่วนหนึ่งเราคิดว่าเป็นเพราะการปรับสมดุลของผิวด้วยโทนเนอร์ก่อนการลงสกินแคร์ที่เป็นส่วนช่วยในการสร้างผิวที่สุขภาพดีที่ตอบสนองต่อการบำรุงที่มากขึ้น รีวิวจาก trueid : คุณ ชานมไข่มุก คลิกดูรีวิวฉบับเต็ม
เราใช้เฉพาะตอนไปต่างจังหวัดค่ะ เผื่อน้ำไม่สะอาด ก็ใช้โทนเนอร์เช็ดอีกรอบ ใช้แล้วรู้สึกสดชื่น แอบหน้าแห้งนิด ๆ ไม่แพ้ ไม่ระค่ยเคือง สิวไม่ขึ้น ปัจจุบันเราเปลี่ยนมาใช้น้ำเกลือเช็ดแทน รู้สึกว่าผลลัพคล้ายๆกัน รีวิวจาก Vanilla : คุณ bunnyfha คลิกดูรีวิวฉบับเต็ม
ใช้มาประมาณเกือบ2ปีแล้วค่ะ เป็นคนรูขุมขนกว้างมากก มองไกลๆก็เห็น
ใช้โทนเนอร์ตัวนี้แล้วเห็นได้ชัดเจนว่ารูขุมขนเล็กลง แต่ก็ใช่ว่าปัญหารูขุมขนจะหายไปให้ความชุ่มชื่นได้ดีในระดับนึง โทนเนอร์ตัวนี้ไม่ได้ช่วยเรื่องความขาวใสแต่อย่างใด เคยคิดอยากเลิกใช้ แต่พอไม่ได้เช็ดด้วยตัวนี้แล้วเหมือนหน้าไม่สะอาด
สรุปว่าก็ยังใช้จนถึงทุกวันนี้ และคิดว่าคงใช้ต่อไปค่ะ 🙂 รีวิวจาก Jeban : คุณ yoony คลิกดูรีวิวฉบับเต็ม
ใช้แล้วสดชื่นดี เป็นน้ำบางๆ เบาๆ เคยใช้แบบผสมดอกคาเลนดูล่า แต่เหมือนเราจะแพ้ ไม่แน่ใจว่ามีเกสรดอกไม้ผสมลงไปด้วยไหม เลยกลับมาใช้แบบแตงกวาดีกว่า สบายหน้ากว่าค่ะ รีวิวจาก kiehls.co.th : คุณ Ladda Leangthong คลิกดูรีวิวฉบับเต็ม
เราได้มาเป็นขวด 40 มล. น้ำโทนเนอร์สีเขียวๆ ใสๆ กลิ่นเหมือนยา (ไม่เหม็นไม่หอม) ใช้แล้วเย็นสบายหน้าดี ชอบใช้เวลาเป็นสิวเยอะๆ รู้สึกสะอาดและสบายผิว ไม่ทำให้สิวขึ้นเพิ่ม เรื่องรักษาสิวไม่แน่ใจแต่เราว่าก็ดี คนเป็นสิวคิดว่าใช้ได้นะ กลิ่นมันเย็นๆ แบบสมุนไพรมากๆ เลย รีวิวจาก Vanilla : คุณ Nekomi คลิกดูรีวิวฉบับเต็ม
ใช้หมดแล้วคะ ตัวนี้จะมีแอลกอฮอล์น้อยกว่าตัวสีฟ้า กลิ่นหอมกว่า เช็ดหน้าสะอาดดี ควบคุมความมัน แต่ความขาวใสยังไม่เห็นผลคะ รีวิวจาก Cosmenet : คุณ
ตอนเพิ่งลองใช้แรกๆ รู้สึกยิบๆที่ผิวหน้าเล็กน้อยตอนเช็ด คงเพราะมีส่วนผสมที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว แต่ก็ไม่ได้มีผลร้ายอะไรค่ะ ผ่านไปสักพักก็ไม่แสบ ไม่ยิบๆอีก รู้สึกเฉยๆ ใช้แล้วรู้สึกได้ว่าผิวหน้ากระจ่างใสขึ้นจริงๆค่ะ ส่วนตัวรอยสิวจางลง และเมื่อใช้ตอนที่มีสิวอักเสบขึ้น ก็จะไม่ค่อยเป็นรอยดำ รอยแดงค่ะ (และแอบรู้สึกว่าสิวหายอักเสบดีขึ้น) รูขุมขนกระชับ หลังเช็ดหน้าผิวไม่แห้งตึงค่ะ กลิ่นอาจจะไม่หอมมาก แต่ไม่ซีเรียสค่ะ เพราะไม่ถึงกับเหม็น สรุปพึงพอใจมากค่ะ และจะไปซื้อมาใช้อีก รีวิวจาก Vanilla : คุณ Newlady คลิกดูรีวิวฉบับเต็ม
ใช้แล้วสิวผดลดลง แต่ค่อนข้างใช้เวลา เหมือนจะไม่มีแอลกอฮอล์ด้วย พอดีใช้หมดไปสักพักแล้ว ไม่แสบหน้า ใช้แล้วหน้าไม่แห้ง ค่อนข้างอ่อนโยน เหมาะสมสำหรับคนเป็นสิวและแพ้ง่าย รีวิวจาก Cosmenet : คุณ Kittikan คลิกดูรีวิวฉบับเต็ม
ใช้ดีมากค่ะ ได้มาครั้งเเรกล้างหน้าเเล้วเช็ดหน้าด้วยตัวนี้ ลูบตรงบริเวณสิว เห็นได้ชัดว่าสิวลดการอักเสบลงอย่างมาก แถมผิวหน้ายังดูนุ่มอีกด้วย รีวิวจาก Kiehl’s : คุณ Mee Na คลิกดูรีวิวฉบับเต็ม
ดีมาก ประทับใจมากค่ะ ผิวดูเนียนละเอียดขึ้นตั้งแต่ 2-3 วันแรกที่ใช้ ใช้ไปเรื่อยๆ รูขุมขนยิ่งเล็กลง กลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนเก๊กฮวยค่ะ รีวิวจาก Cosmenet : คุณ Pondravin คลิกดูรีวิวฉบับเต็ม
เดิมเราเคยใช้โลชั่นของมูจิรุ่น balanced skin ที่ขวดเป็นสีออกเหลืองส้มและมีกลิ่นแบบซิตรัส ตัวนั้นจะหอมและเนื้อหนักเหนียวกว่าตัวนี้ ตัวนี้จะเป็นน้ำใสๆ ไม่มีกลิ่นเพราะเคลมว่าเหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย เป็นน้ำใสๆ แต่จะไม่ใสและเบาเหมือนอิปซ่า จะหนืดๆ กว่าหน่อยนึง ทาลงบนผิวค่อนข้างเหนอะหนะ เราเคยเอามาลองใช้แบบที่เขาแนะนำว่าเป็นขั้นตอนบำรุงผิวแบบสาวเกาหลีที่ต้องลงโทนเนอร์น้ำตบ 7 ชั้น555555 (ขั้นตอนเสียเวลามากเลยใช้ตอนกลางคืนเท่านั้น) เราลองลงกับมูจินี่แหละเพราะไม่แพง 5555555555 เราลงได้สุดๆ แค่ 3 ชั้นเท่านั้น หน้าก็เหนอะหนะ มันเมือก (ลงรอบนึง รอให้แห้ง แล้วลงรอบต่อไป) เรียกได้ว่าลงมูจิสามชั้นนี่เข้าไปไม่ต้องทาครีมต่อแล้วเพราะชุ่มชื่นไปทั้งคืนเลย กะว่าจะลองเปลี่ยนมาเป็นโลชั่นมาส์กแทน เพราะสำลีแบบ peelable ของมูจิเราก็ยังมี
ส่วนตัวใช้โลชั่นมูจิรุ่นนี้เราชอบมากกว่ารุ่น balanced skin ที่มีกลิ่นหอม ตัวนั้นจะเย็นๆ หน้าด้วย มีทั้งกลิ่นทั้งสารให้ความเย็นกับผิวเลยกลัวเรื่องระคายเคือง แต่ตัวนี้คิดว่าไม่ระคายเคืองเพราะไม่มีกลิ่นและไม่ได้เย็นผิว อ่อนโยนดี ราคาไม่แพง แนะนำใช้เป็นโลชั่นมาส์ก ใช้คู่กับสำลี peelable จะเป๊ะมากๆ รีวิวจาก Vanilla : คุณ Nekomi คลิกดูรีวิวฉบับเต็ม
น้ำตบราคาเบาๆ ค่ะ ใช้แล้วผิวชุ่มชื่นขึ้น ไม่มีกลิ่น เราว่าเค้าไม่ได้ใส่แอลกอฮอล์นะคะ ไม่ได้กลิ่น และเป็นสูตรสำหรับผิว sensitive ส่วนตัวใช้แล้วโอเค ไม่แพ้ 🙂 รีวิวจาก Jeban : คุณ Mini_Meen คลิกดูรีวิวฉบับเต็ม
สำหรับสูตรแพ้ง่ายของผลิตภัณฑ์เซ็ตนี้ ไม่มีส่วนผสมที่ใช้ในยาอะไรทั้งนั้น ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าอ่อนโยนจริงๆ สำหรับวิธีใช้ที่อยากแนะนำก็คือใช้คู่กับสำลีแล้วค่อยๆ เช็ดไปบนใบหน้า หรืออีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลดีไม่แพ้กันคือใช้กับหัวสเปรย์พ่นไปบนใบหน้า เขาว่ากันว่าวิธีนี้จะยิ่งช่วยให้ตัวโทนเนอร์ซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้นค่ะ รีวิวจาก womjapan : คุณ womjapan คลิกดูรีวิวฉบับเต็ม
ทั้งครีมและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ ของ Clarins คือแบรนด์ที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วและแน่นอนว่าโทนเนอร์ของแบรนด์นี้ก็เข้าใจผิวของคุณได้ดีไม่แพ้กัน ใครที่อยากจะปรับความขาวกระจ่างใสให้เกิดขึ้นกับใบหน้าของคุณแล้วล่ะ ก็นี่คือโทนเนอร์ที่ควรอยู่คู่กับโต๊ะเครื่องแป้งของคุณเลยก็ว่าได้ และไม่ใช่แค่ขาวใสธรรมดาแต่โทนเนอร์ขวดนี้ยังมีส่วนผสมของมะขามเข้ามาช่วยขจัดสิ่งสกปรกและผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไปให้เซลล์ผิวใหม่ได้เผยความกระจ่างใสกันอีกด้วย ใช้ไปเรื่อย ๆ มีรูขุมขนที่แสนกระชับมาเป็นของแถมกันอีกบอกเลยว่าขวดเดียวคุ้มสุด ๆ แน่นอน รีวิวจาก salehere : คุณ sale here editor คลิกดูรีวิวฉบับเต็ม
แรกๆ ก็ใช้ขนาดทดลอง 30 ml. หลังๆ ติดใจถอย 200 ml. หมดไปสามขวด แนะนำเลยค่ะ คุ้มค่า รู้สึกสะอาด อ่อนโอนและเม็ดผดเล็กๆ หายหมดเกลี่้ยงเลยค่ะ พร้อมบำรุงได้ดีในขั้นตอนต่อไป รีวิวจาก Cosmenet : คุณ anya(อัญญ่า) คลิกดูรีวิวฉบับเต็ม
อ่อนโยนมากๆ ผิวแพ้ง่ายเหมือนเราใช้แล้วผ่าน ไม่แสบไม่คัน ซึบซาบเร็วเหมือนใช้น้ำเปล่า แต่มันดีจริงๆ รีวิวจาก beauticool.com : คุณ Crisistraz คลิกดูรีวิวฉบับเต็ม
ตัวนี้จะช่วยทำความสะอาดผิวและเติมเต็มน้ำให้ผิวชุ่มชื้น ลดปัญหาผิวแห้งกร้าน พร้อมกับปลอมประโลมไปในตัว ลดความมันส่วนเกิน และฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใส เรียบเนียน ใช้ได้ทั้งเป็นโทนเนอร์และน้ำตบ โดยสูตรนี้จะเหมาะกับผิวบอบบาง และในสูตรก็ไม่มีสารแต่งสี น้ำหอม แอลกอฮอล์ ที่จะก่อให้เกิดการระคายเคืองใด ๆ จะเห็นได้เลยนะคะ ว่าเนื้อผลิตภัณฑ์ของโทนเนอร์นี้ใสแจ๋ว เหมือนน้ำเปล่าเลย ไม่ได้กลิ่นใด ๆ ที่จะรบกวนตอนใช้เลยค่ะ เนื้อผลิตภัณฑ์บางเบา วิธีการใช้ของเราคือ ใช้เป็นโทนเนอร์คู่กับสำลีก่อนการลงสกินแคร์ขั้นต่อ ๆ ไปค่ะ เราเลยอยากได้โทนเนอร์ที่ทำให้ไม่รู้สึกหนักหน้า แต่ยังชุ่มชื้นอยู่บ้าง เพื่อเป็นการเตรียมผิวก่อน ตัวนี้สามารถตอบโจทย์เราในเรื่องนี้ได้เลยค่ะ หลังจากเช็คโทนเนอร์เสร็จ ผิวยังคงความชุ่มชื้นอยู่ รู้สึกสบายผิว รีวิวจาก trueid : คุณ Rainpink คลิกดูรีวิวฉบับเต็ม
เลือกให้ดี เลือกใช้ให้ถูก
แต่ละขวดของผลิตภัณฑ์นั้นจะมีส่วนผสมเขียนไว้อยู่แล้ว หากใครเป็นประเภทที่ผิวแพ้ง่ายมาก แนะนำว่าควรอ่านให้ครบถี่ถ้วนก่อนซื้อใช้จะดีกว่า ป้องกันการหน้าแหก ซ้ำร้ายอาจจะต้องเสียตังค์ค่ารักษาอาการแพ้หนักเข้าไปเสียอีกนี่ อย่างไรก็ตามหวังว่ารีวิวแต่ละกระทู้ที่นำมารวมให้อ่านกันจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆกันไม่มากก็น้อยนะคะ
Write a comment