ผิวหนังอักเสบมีผื่นคัน ตกสะเก็ด….อย่านิ่งนอนใจ! รีบรักษาก่อนบานปลาย

มีหลายคนที่มีผิวที่แพ้ง่ายมักจะมีผื่นคัน แดงๆ ขึ้นตามผิวหนังในร่างกายเสมอหรือบางคนมีอาการรุนแรงถึงแรงถึงขั้นเกิดเป็นแผลพุพอง

มีน้ำหนอง และตกสะเก็ดร่วมด้วย
อาการแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยหลายสาเหตุ ใครที่เป็นแค่ผื่นคันแดงๆก็อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ

ส่วนใครที่มีอาการเกิดเป็นแผลพุพองมีหนองก็อย่าเพิ่งตกใจไป…เพราะทุกปัญหามีทางแก้

ส่วนใหญ่ผู้ที่มีอาการผิวหนังอักเสบมักมาจากอาการภูมิแพ้ แต่จริงๆแล้วสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ
ผิวหนังเสบนั้นสามารถเกิดจากสาเหตุอื่นได้เหมือนกัน

สาเหตุที่ทำไห้เกิดอาการผิวหนังอักเสบ

1. โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) 
จะมีอาการเป็นๆ หายๆ พบมากในเด็ก คนที่เป็นโรคนี้ส่วนมากจะเป็นมาจากพันธุกรรมเป็นพื้นฐาน
ส่วนใหญ่มักมีประวัติเคยเป็นเยื่อบุตาอักเสบ แพ้อากาศ ไอ จามบ่อย ๆ หรือหอบหืด โดยเฉพาะเวลาที่อากาศเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน

2. ผื่นระคายสัมผัส (Contact Dermatitis) 
คืออาการภูมิแพ้ผิวหนังที่เมื่อผิวหนังสัมผัสกับสารบางตัวแล้วเกิดอาการแพ้ขึ้นมาทำให้เกิดอาการระคายเคือง เช่น โลหะผสม เครื่องสำอาง น้ำหอม ยาย้อมผม สารฟลูออไรด์ในยาสีฟัน ผงซักฟอก ทรายแมว ผลิตภัณฑ์จากยาง หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ เป็นต้น

ในยุค COVID-19 นี้มีหลายๆคนเกิดอาการผื่นแพ้ซึ่งเกิดจากสวมใส่หน้ากากอนามัยกันมาก　ซึ่งก็ต้องดูแลเรื่องความสะอาดกันมากขึ้น

3. โรคเซบเดิร์ม 
เป็นภาวะผิวหนังอักเสบจากต่อมไขมันในชั้นผิวหนัง ซึ่งเป็นโรคเรื้อรัง โดยที่มีสาเหตุหลายอย่างด้วยกัน เช่น ฮอร์โมนที่แปรปรวน หรือเชื้อราบางชนิด เชื้อยีสต์ และอาจเกิดจากพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย

เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยโรคนี้ขาดความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน จึงต้องทำความเข้าใจกับโรคนี้ และรักษาอย่างถูกต้องโดยแพทย์เท่านั้น

ซึ่งทุกๆสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการผิวหนังอักเสบนั้นจะมีอาการตั้งแต่เป็นผื่นคันแดง

สามารถรักษาด้วยตัวเองเบื้องต้นได้แต่ต้องระวังไม่ไห้เกิดการติดเชื้อ มิฉะนั้นอาการจะลุกลามจนเป็นปัญหาใหญ่ต้องเข้ารักษาโดยแพทย์เท่านั้น ส่วนผู้ที่มีอาการอักเสบรุนแรงมีตุ่มหนอง แผลพุพองหรือตกสะเก็ดร่วมด้วย ควรเข้าปรึกษาแพทย์ไม่ควรรักษาด้วยตนเอง

การดูแลรักษาอาการผิวหนังอักเสบด้วยตนเอง

ผิวหนังอักเสบให้หยุดเกา

อาการคันที่มาพร้อมกับผื่นแดงเมื่อมีอาการอักเสบของผิวนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่เป็นเรื่องน่ารำคาญใจมากกว่า การรักษาจึงเน้นในการลดอาการคันเนื่องจากเมื่อผิวอยู่ในภาววะอักเสบจะส่งผลให้ผิวแห้งตึงและคัน แต่ถ้าเผลอไปเกามากๆแล้วหล่ะก็ อาจมีอาการติดเชื้อลุกลามตามมาได้

ผิวหนังอักเสบควรรักษาด้วบวิธีลดอาการคัน

ประคบเย็น เพื่อให้ความรู้สึกเจ็บลดลงและลดการระคายเคืองที่ผิวหนัง
เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเป็นด้วยมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่เป็นครีมหรือขี้ผึ้ง เพื่อป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น ลดความรุนแรงของอาการผื่นแพ้ ผู้ที่ไม่มีอาการอักเสบรุนแรงจะเน้นทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์เป็นหลักสำหรับการรักษา

ผิวหนังอักเสบควรหลีกเลี่ยงสารเคมี

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่อ่อนโยนและไม่มีกลิ่น เพื่อไม่ไห้เกิดการระคายเคืองของผิวจากสารเคมีเข้มข้นที่ติดอยู่บนเสื้อผ้า และหลีกเลี่ยงการใช้สบู่แรงๆและน้ำยาซักล้างอื่นที่ทำให้ระคายเคืองได้ง่าย
หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคผื่นแพ้สัมผัสที่ควรปกป้องผิวหนังของตนเองจากการสัมผัสสารที่จะก่อให้เกิดผื่นระคายเคืองเป็นพิเศษ

ผิวหนังอักเสบควรลดปัจจัยที่ทำให้ผิวหนังระคายเคือง

ผู้ป่วยควรสวมเสื้อผ้าที่สามารถปกปิดบริเวณที่คัน เพื่อป้องกันการเกิดรอยถลอกจากการเกาอย่างแรง เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้าย เพราะมีผิวสัมผัสที่เรียบนุ่มของช่วยไม่ให้เกิดการระคายเคือง

และต้องไม่ลืมที่จะดูรักษาความสะอาดเป็นพิเศษโดยเฉพาะพื้นที่บริเวณที่มีอาการอักเสบของผิวหนัง
เพื่อไม่ก่อให้เกิดการติดเชื้อและทำให้อาการแพ้แย่ลง

ระวังไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน

การอักเสบของผิวหนังอาจทำให้เกิดแผลเปิด เสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคมีเรีย เชื้อไวรัส และเชื้อรา
จึงต้องคอยระวังและดูแลความสะอาดเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อน

ผู้ที่เป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังซึ่งเป็นผิวหนังอักเสบชนิดที่พบบ่อยที่สุด
ซึ่งก็มีหลายๆคนที่เกิดการติดเชื้อ มักพบว่ามีแบคทีเรียสแตฟิโลค็อกคัส (Staphylococcus) และแบคทีเรียสเตรปโตค็อกคัส (Streptococcus) เชื้อจากแบคทีเรียเหล่านี้ทำให้อาการของโรคแย่ลงและที่แย่ไปกว่านั้นคือ บางรายเกิดการติดเชื้อไวรัสโรคเริม ซึ่งอาจจะทำให้เกิดแผลพุพองและตามมาด้วยการติดเชื้อ อาจทำให้มีไข้ อ่อนเพลีย และไม่สบายได้

อาการคันอย่างรุนแรงจากภาวะผิวหนังอักเสบอาจทำให้นอนไม่หลับ ทำให้พักผ่อนได้ไม่เพียงพอ อาจทำให้รู้สึกง่วงนอนหรืออ่อนเพลียในระหว่างวัน

สรุปส่งท้ายเข้าใจง่ายเรื่องผิวหนังอักเสบ

ปัจจุบันปัจจัยรอบตัวและสิ่งแวดล้อมของเราเต็มไปด้วยฝุ่น ควัน และมลพิษ
ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการแพ้จนกลายเป็นผื่นคัน หรืออาจตามมาด้วยอาการอักเสบรุนแรง
เพราะฉะนั้นเมื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายก็แม้แต่ตุ่มคันเล็กๆ เราก็ไม่ควรละเลย
ควรดูแลความสะอาดจะดูแลตัวเองในเบื้องต้นให้อาการผิดปกตินั้นหายไปอย่างรวดเร็ว
เพื่อเป็นการป้องกันตัวจากอาการแพ้และอักเสบรุนแรงที่อาจจะตามมา