ก่อนอื่นของพูดถึงสกินแคร์ทุกๆตัวเพื่อเป็นความรู้ติดตัวกันก่อน จริงๆแล้วรู้หรือไม่ว่าสกินแคร์ทั้งหลายทั้งปวงที่เราใช้กันนั้นมันมีวันหมดอายุนะคะสาวๆ ไม่อยากหน้าพังสิวเห่อก็ต้องมาเช็คกันหน่อยว่าสกินแคร์แต่ละประเภทนั้นมีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่เท่าไหร่กันบ้าง
อายุการใช้งานของสกินแคร์แต่ละประเภท
ผลิตภัณฑ์ที่มีอายุใช้งานเฉลี่ย 6 เดือน – 1ปี
- โฟมล้างหน้า
- ครีมทาหน้า
- อายไลเนอร์
- รองพื้นแบบน้ำ
- คอนซีลเลอร์
- ครีมแต้มสิว
- อายครีม
- ครีมทาผิว
- เซรั่มบำรุงผิวหน้า
ผลิตภัณฑ์ที่มีอายุใช้งานเฉลี่ย 1 ปี – 2 ปี
- ลิปสติก
- ครีมกันแดด
- ครีมอาบน้ำ
- อายแชโดว์แบบครีม
- สบู่ก้อน
ผลิตภัณฑ์ที่มีอายุใช้งานเฉลี่ย 2 ปี – 3 ปี
- น้ำหอม
- แชมพูและครีมนวดผม
- สเปรย์ฉีดผม
- แป้งฝุ่น
ระวัง! ใช้ผลิตภัณฑ์ที่หมดอายุแบบไม่รู้ตัวหน้าอาจแหกได้
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่หมดอายุแล้วจะมีข้อเสียที่ตามมามากมายดังนี้
- สิวผุดขึ้นเต็มหน้า เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่หมดอายุแล้วมักจะมีเชื้อราและแบคทีเรียเกิดขึ้นในตัวเนื้อครีมเอง เมื่อเราทำการทาผลิตภัณฑ์เหล่านั้นบนผิวหน้าก็เปรียบเสมือนการนำสิ่งสกปรกทาหน้าดีๆนี้เอง ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวได้
- ทาครีมไปก็ไร้ประโยชน์ การใช้ผลิตภัณ์ที่หมดอายุแน่นอนว่าประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์นั้นๆก็จะหมดไปด้วยและยังไม่ลดประสิทธิภาพของครีมตัวอื่นๆที่ทาลงบนผิวตามมาอีกด้วย พังๆๆๆ
- เกิดอาการแก้ แสบร้อน ระคายเคืองผิว ข้อนี้ถือว่าอันตรายมากหากเกิดอาการแพ้รุนแรงจำเป็นต้องรีบเข้าพบแพทย์ผิวหนังโดยด่วน!
ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่หมดอายุแบบไม่รู้ตัวจึงมีแต่ข้อเสียกับเสียนั้นเอง รู้แบบนี้แล้วสาวๆอย่าลืมเช็ควันหมดอายุของผลิตภัณฑ์ที่ใช้กันอยู่ทุกวันด้วยล่ะ ไม่งั้น 3 ข้อเสียข้างต้นเกิดขึ้นกับผิวหน้าแน่!!!
ทริคการรีเช็คและรักษาผลิตภัณฑ์ของเราให้คงอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ
- เมื่อทำการเปิดใช้ผลิตภัณฑ์หรือสกินแคร์ใดๆแล้วควรปิดฝาให้สนิทเพื่อป้องกันอากาศที่จะเข้าไปทำปฏิกิริยากับส่วนผสมของผลิตภัณฑ์นั้นๆอาจเป็นการลดประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้
- เก็บผลิตภัณฑ์ให้ไกลจากแสงแดด และควรเก็บในอุณหภูมิห้องเพราะผลิตภัณฑ์บางชนิดเมื่อโดนแสงแดดจะทำให้เสื่อมประสิทธิภาพลงได้
- ตรวจดูวันเดือนปีที่หมดอายุให้ชัดเจน หากกลัวลืมหรือใช้ครีมหลายตัวจยสับสนให้ทำโน๊ตติดไว้ก็ได้
ทั้งนี้ทั้งนั้นอายุของการใช้งานของผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทที่เราพูดถึงวันนี้นั้นเป็นเพียงอายุเฉลี่ยส่วนใหญ่เท่านั้น ผลิตภัณฑ์บางแบรนด์อาจมีส่วนผสมที่ช่วยในการยืดอายุของผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะทำให้สามารถเก็บได้นานกว่าปกติทั่วไป หรือ บางแบรนด์อาจปราศจากสารต่างๆเหล่านี้ทำให้สามารถเก็บได้ในเวลาอันสั้นกว่า และในวันนี้เราจะขอมาเจาะลึกถึงเรื่องอายุของโฟมล้างหน้าเพราะโฟมล้างหน้าเป็นผลิตภัณฑ์ใกล้ตัวที่ทุกคนจำเป็นต้องเจอและใช้มันในทุกๆวัน
ทำไมโฟมล้างหน้าถึงมีอายุเฉลี่ยเพียง 6 เดือน – 1 ปี
เนื่องจากโฟมล้างหน้าเป็นผลตภัณฑ์ที่เราต้องเปิดใช้ทุกวันเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพราะฉะนั้นไม่แปลกเลย ที่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะต้องสัมผัสกับอากาศภายนอก ซึ่งอากาศนั้นมีผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์บางตัว อาจส่งผลให้ผลิตภัณฑ์นั้นเสื่อมประสิทธิภาพลง เว้นแต่ว่าโฟมล้างหน้าบางสูตรจะมีส่วนผสมที่เป็นตัวช่วยในการยืดอายุผลิตภัณฑ์ได้ยาวนานยิ่งขึ้น แต่ทว่าได้อย่างก็ต้องเสียอย่างนะคะทุกคน การที่เราอยากเก็บโฟมล้างหน้าไว้นานๆอาจจะต้องแลกกับส่วนผสมบางตัวที่อาจทำให้เราเกิดอาการแพ้ขึ้นมาได้ เช่น สารกันเสียหรือพาราเบนนั้นเองค่ะ แต่ถ้าให้แนะนำเลยคือเราก็ไม่ควรจะเก็บโฟมล้างหน้าไว้ในระยะเวลานานๆ ควรจะเปลี่ยนหลอดทุกๆ 2-3 เดือนเป็นอย่างต่ำ จะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพเต็ม 100 % กันไปเลยย และวันนี้เราก็มีผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าดีๆสูตรอ่อนโยนที่ปราศจากสารกันเสีย พาราเบน น้ำหอม และแอลกอฮอล์มาให้สาวๆได้ใช้กันอย่างจุใจ ไม่ต้องกลัวแพ้ไม่ต้องกลัวเปลืองเพราะราคาที่เลือกมาในวันนี้นั้นย่อมเยามากก อดใจไม่ไหวที่จะบอกแล้วว!! ไปดูกันเลยดีกว่าค่าาา
โฟมล้างหน้าดีๆที่เราแนะนำ
หลังล้างหน้าเรารู้สึกว่าผิวหน้าสะอาด ผิวหน้าไม่แห้งตึงค่ะ ถึงสูตรนี้จะเหมาะกับ
คนผิวมัน – ผิวผสม แต่ยังคงรักษาระดับความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าหลังล้างได้ดีเลยค่ะโดยรวมใช้แล้วถือว่าโอเคเลย คุ้มกับเงินที่เสียไป ตอบโจทย์ให้กับคนผิวแพ้ง่ายอย่างเรามาก ๆ ค่ะ รีวิวจาก pantip คลิกอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่
ตอนที่ล้างหน้าจริงๆ สีเจลมันจะเปลี่ยนจากสีใสๆ เป็นขาวขุ่นๆ คล้ายๆตัว เซตาฟิล เจนเทิล สกิน คลีนเซอร์ แต่ในรูปมันไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ เราพยายามถูๆแล้ว แต่มันไม่เหมือนตอนล้างหน้าจริง ฮ่าๆ ล้างหน้าเสร็จแล้ว ผิวไม่แห้งตึงด้วย หน้ายังคงนุ่มนิ่มน่าจับเหมือนเดิม
รีวิวจาก Jeban คุณ Mewmeww1 คลิกอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่
มันเปนเจลล้างหน้าแบบไม่มีฟอง( อารมณ์แบบเจลล้างหน้าของหมอในคลีนิค) คนที่ไม่เคยใช้จะรู้สึกแปลกนิดๆ เหมือนล้างหน้าไม่สะอาด แต่พอนานไปก็ชิน ..เจลล้างหน้าตัวนี้ เหมาะสำหรับคนที่แพ้ง่าย และเป็นสิว เพราะมันไม่ระคายเคืองต่อสิว ไม่ทำให้สิว่เห่อ แล้วในที่สุดสิวอาจจะหายหรือดูดีขึ้น ..ถ้าคุณล้างหน้าแบบเบามือ หรือทางที่ดีอาจลองล้างหน้าตามแนวโพรงขน จะช่วยให้ลดการระคายเคืองและลดการรบกวนสิว .. รีวิวจาก pantip คลิกอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่
ลองบีบใส่ฝ่ามือแล้วนวดเบาๆ ดู ไม่ค่อยมีฟองค่ะ ที่เห็นในภาพเราลองหยอดน้ำลงไป แล้วถูต่อเพื่อให้เกิดฟอง ผลที่ได้คือ แทบจะไม่มีฟองเลย เพราะผลิตภัณฑ์ของสมูทอี เค้าจะไม่มีฟองทุกตัว (สาร SLS ที่ทำให้เกิดฟอง) ซึ่งจะทิ้งประจุไฟฟ้า อันเป็นสาเหตุสำคัญของการอักเสบ แพ้ ระคายเคือง
รีวิวจาก Jeban คุณ Goodtimeforlife คลิกอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่
ใช้ช่วงเป็นสิว สิวยุบ สิวไม่ค่อยขึ้น มีความอ่อนโยนต่อผิว เนื้อผลิตภัณฑ์มีความเป็นเจลเหลวถูหน้าได้ง่าย ตอนล้างหน้ามีฟอง แสบตา ใช้ไปนานๆมีอาการผิวแห้งตึงหลังล้างหน้า ราคาถูก เป็นสิวแนะนำ ใช้ดีในช่วงแรกๆ พอใช้ไปนานๆก็สิวขึ้นเหมือนเดิม เหมือนหมดประสิทธิภาพในการรักษาสิว
รีวิวจาก Cosmenet คุณ Thanat.nut คลิกอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่
หมาะสำหรับคนเป็นสิวแต่ผิวแพ่ง่าย ฟองอ่อนๆนุ่มๆ ล้างแล้วรู้สึกหน้าสะอาดแต่หน้าไม่ตึง ยังคงความชุ่มชื้นให้ใบหน้าค่ะ ไม่แพ้ ไม่กระตุ้นการเกิดสิว อ่อนโยนต่อผิวหน้ามาก ที่สำคัญราคาไม่แรงเลยถ้าเทียบกับคุณภาพ
รีวิวจาก Vanilla คุณ Parkatkanang คลิกอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่
บทสรุปของโฟมล้างหน้ามีอายุกี่ปี ??
Write a comment