#7 Tricks กับ 5 Skincare จาก 7 11 ที่ช่วยคลายข้อสงสัยรอยสิวรักษายังไงให้หายขาด

รอยสิว หลุมสิวปัญหาใหญ่ที่ต้องรีบรักษา

            อะไรที่ทำให้สาว ๆ อย่างเราไม่กล้าเผยหน้าสดบางทีอาจกังวลกับปัญหาผิวที่ยากจะรักษาให้หายขาดได้ อย่างการเป็นสิวที่มักมาพร้อมปัญหารอยดำ รอยแดงไปจนถึงขั้นเป็นหลุมสิวตามจุดต่าง ๆ ของใบหน้าก็ยิ่งรักษายากขึ้นไปอีก แล้วทำไมหลังการเป็นสิวต้องมีรอยแผลจากสิวด้วย แน่นอนว่าถ้าเป็นแค่สิวอุดตันธรรมดาแล้วก็คงทิ้งรอยหลังการกดสิวไว้ไม่นานเพียง 1 วันก็ดูจางลง

แต่ถ้าหากเป็นรอยจากการเป็นสิวอักเสบใต้ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการทิ้งร่องรอยแผลเป็นจากสิวได้ชัดเจนขึ้นหลังจากที่สิวหายไป มันเป็นผลมาจากกระบวนการฟื้นฟูสภาพผิวที่ต้องรอการสร้างสารคอลลาเจนขึ้นมาทดทนส่วนที่เสียไป อีกทั้งพฤติกรรมการบีบสิวของเราก็ยิ่งทำให้เกิดแผลได้ง่าย และหายยาก ยิ่งถ้าเป็นสิวเม็ดใหญ่ ๆ อย่างสิวซีสต์ หรือสิวหัวช้าง ถ้าเราไปแกะเกา หรือใช้แรงบีบออกมาก็จะเกิดเป็นหลุดสิวขนาดใหญ่ได้ คำถามต่อมาคือแล้วรอยสิวรักษายังไงให้หายขาด แน่นอนว่ามีวิธี เพราะวันนี้เราจะเอา 7 Tricks ดี ๆ ในการรักษารอยสิวมาฝากกัน มาดูกันว่าต้องทำอะไรบ้าง

หมดกังวลเรื่องรอยสิวรักษายังไง ไปกับ 7 Tricks ดี ๆ

1. อย่าเอามือไปแกะเกาบริเวณที่เป็นสิว

            แค่การเป็นสิวก็หนักแล้วถ้าเรายิ่งไปย้ำไปซ้ำมันด้วยการแกะเกาบริเวณที่เป็นสิวเราจะได้รอยสิวขนาดใหญ่มาให้รู้สึกแย่กว่าเดิมอีก ดังนั้น ถ้าถามว่ารอยสิวรักษายังไงในระยะเริ่มต้นเราต้องมีสติตลอด พยายามเอามือไปจับต้องใบหน้าของเราบ่อย ๆ เพราะเราจะเผลอลืมไปแกะสิว และเพื่อเป็นการป้องกันก็ให้ตัดเล็บด้วย เล็บเป็นแหล่งรวมความสกปรกเลย ถ้าอยากจะให้หน้าเรามีรอยสิวน้อยที่สุด และให้รอยสิวจางหายไปเร็วที่สุดก็ต้องทำข้อนี้ให้ได้

2. การดูแลผิวหลังกดสิวแล้ว

            การที่เราจะมีรอยสิวที่เห็นชัด ขนาดเล็ก หรือใหญ่นั้นขึ้นอยู่กับตอนที่เราเป็นสิว หรือหลังจากที่เราหายเป็นสิวแล้วเราดูแลผิวหน้าของเรายังไง หลังจากที่สิวหายแล้วไม่ว่าจะผลัดหัวสิวออกมาเอง หรือจากการที่เราไปให้หมอกดออกให้บริเวณนั้นก็จะมีอาการบวมแดง เราสามารถใช้ว่านหางจระเข้มาป้ายบริเวณแผลสิวเพื่อลดอาการบวมแดงได้ เพราะว่าว่านหางจระเข่มีฤทธิ์ในการสมานแผล ทำให้แผลแห้งเร็ว ฟื้นฟูให้ผิวกลับคืนสู่สภาพเดิมได้เร็ว รวมไปถึงการลดความเสี่ยงของการเกิดรอยแผลเป็นจากสิวหลังการกดได้อย่างดีด้วย หรือบางคนอาจใช้เจลแต้มสิวที่มีส่วนประกอบของว่านหางก็ได้เช่นกัน

3. ใช้สมุนไพรลดรอยสิว

            หลาย ๆ คนอาจจะเคยใช้สมุนไพรในการบำบัดผิวหน้าอยู่หลายครั้งจึงน่าจะพอรู้ว่า สารสกัดของหอมแดงมีฤทธิ์ในการลดรอยแดง รอยดำของสิวได้ แต่น้อยคนจะรู้ว่า ‘ใบสะเดา’ ที่เรากิน ๆ กันอยู่ก็มีคุณสมบัติสำคัญในการลดรอยแดงจากสิวได้เช่นกัน เป็นผักพื้นบ้านที่จะมาช่วยลดอาการหน้าบวม รอยสิวที่เห่อแดงออกมาหลังไปกดสิวหายเร็วขึ้นได้ สามารถฆ่าเชื้อในแผลสิวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยเรื่องการสมานแผล ฟื้นฟูผิวส่วนที่เสียหายให้รอยเสียแลดูจางลง

4. พอกหน้าด้วยน้ำผึ้งป่า

            น้ำผึ้งถือเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการดูแลผิวหลากหลายมาก หลัก ๆ คือช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ กับผิว และยังช่วยฆ่าเชื้อโรค ลดการอักเสบ ลดรอยแดงบนผิวหนังได้ คนสมัยก่อนจึงมักจะใช้น้ำผึ้งในการดูแลผิว เพราะอ่อนโยนมาก ๆ สามารถพอกทิ้งไว้ได้เลย 20 – 30 นาที แล้วก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาด พอกได้บ่อยเท่าที่ต้องการ

5. ทำความสะอาดแผลสิวด้วยน้ำเกลือ

            มาถึงไอเท็มเด็ดที่เรียกว่าคนเป็นสิวจะขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือ ‘น้ำเกลือ’ ซึ่งเราจะเห็นขายอยู่ตามร้านขายยาทั่วไปเป็นขวด ๆ เพื่อนำมาใช้เช็ดแผลสิวฆ่าเชื้อโรค เพื่อที่สิวเราจะได้ไม่อักเสบขึ้นมาอีก ทำให้แผลสิวแห้งเร็ว และยังช่วยให้รอยดำ รอยแดงจากสิวจางหายไปได้ง่ายขึ้น เป็นวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้เราไม่ต้องกังวลใจกับการที่ต้องมานั่งกดสิวตรงจุดเดิม ๆ จนแผลใหญ่ขึ้น รอยสิวชัดขึ้นด้วย

6. ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน

            สำหรับข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก ๆ เพราะแสงแดด หรือรังสียูวีนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รอยดำ รอยแดงจากสิวของเราชัดขึ้น และรักษายากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น เราต้องไม่ลืมที่จะทาครีมกันแดดก่อนที่จะออกจากบ้าน โดยเฉพาะสาว ๆ เอเชียที่ผิววัยต่อแสงอย่างเรา ๆ แล้วห้ามลืมโดยเด็ดขาด จะได้ไม่ทำให้ผิวเราต้องเผชิญกับแสงโดยตรง

7. หาผลิตภัณฑ์บำรุง ลดรอยดำ รอยแดงจากสิว

            มาถึงทริคข้อที่ 7 นั่นก็คือ การหาสกินแคร์ หรือครีมดี ๆ มาบำรุงผิว เพื่อให้รอยดำ รอยแดงได้รับการดูแลฟื้นฟูอย่าง   เต็มที่ รอยสิวของเราจะได้แลดูจางลง ผิวเราจะกลับมาเรียบเนียนได้ง่าย ๆ เหมือนเป็นการเติมอาหารให้ผิวของเราอย่างต่อเนื่อง อย่าปล่อยให้ผิวของเราดูเสื่อมโทรมจากรอยสิวเหล่านี้ ดังนั้น เรามีสกินแคร์ดี ๆ มาแนะนำให้ทั้งหาซื้อได้ง่ายตามร้านค้า 7 11 และราคาก็ยังย่อมเยาด้วย เอาไว้ให้เราใช้บำรุงผิวทำให้รอยสิวดูจางลงกัน มาดูว่ามีสกินแคร์ตัวไหนบ้าง

คลายข้อสงสัยรอยสิวรักษายังไงไปกับ 5 Skin care จาก 7 11

1) BK Acne Expert Bright

 

ถ้าให้นึกถึงครีมซอง 7 11 ที่จะช่วยดูแลผิวของเราให้พ้นจากปัญหาสิว รอยแดง รอยดำจากสิวก็ต้องนึกถึงผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ BK เพราะเจ้าเอสเซ้นส์ซองนี้เป็นนวัตกรรมที่จะมาช่วยลดรอยสิวที่ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่นเลย ด้วยความเป็นครีมที่มีสารสกัดมาจากพืชตามธรรมชาติอย่างใบบัวบก กรดอ่อนจากผลไม้ (AHA) และวิตามินซี  ซึ่งจะมาช่วยเรื่องสลายรอยสิว หรือแม้แต่ฝ้าให้แลดูจางลง พร้อมไปกับการบำรุงผิวที่เคยเสียหายจากการเป็นสิวให้จางหายไป อีกทั้งยังมีสารสกัดจากต้นไทม์ป่าที่จะมาปรับผิวให้สว่างสดใสขึ้นเมื่อเราใช้อย่างต่อเนื่อง รับรองเลยว่าใครที่ได้ใช้แล้วจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีมาก ๆ จนอยากจะซื้อใช้ซ้ำ หรือยกให้เป็นสกินแคร์คู่ใจที่ตอบโจทย์ให้กับผิวหน้าแพ้ง่ายอย่างเราได้ ใครสนใจสามารุหาซื้อทาง 7 11 ได้ทุกสาขา หรือสามารถสั่งตามช่องทางออนไลน์ที่เราแนบไว้ให้ได้เลย

ปริมาณ	4 ml
ราคา	49 THB

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก

สั่งซื้อออนไลน์คลิ

       ช่วยในเรื่องลดรอยดำจากสิวได้ถือว่าค่อนข้างดีมากในราคาที่ลดราคาถือว่าโอเคช่วยให้ผิวสว่างกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
รีวิวจาก Konvy: ji***48 อ่านรีวิวทั้งอื่น ๆ คลิก

        หลังจากที่ได้ใช้มาเกือบ 2 สัปดาห์ที่เห็นชัดสุดรอยสิวที่เราเพิ่งแกะไป รอยจางลงค่อนข้างไว และผิวหน้าโดยรวมก็ดูใสเรียบเนียนและดูชุ่มชื้นขึ้น สังเกตว่าสิวอุดตัวช่วงกรามเราลดลงด้วย
รีวิวจาก Pantip: Cozy_T อ่านรีวิวทั้งหมดคลิก

2) MizuMi Peptide Acne Gel

สำหรับสกินแคร์ตัวต่อมาก็คือเจลแต้มสิวจากแบรนด์คุณภาพอย่าง Mizumi ที่วัยรุ่นทั้งหลายยกให้เป็นเจลรักษาสิวคู่ใจ ใช้ง่าย เนื้อผลิตภัณฑ์ซึมไว สามารถตรงเข้าไปฟื้นฟู และดูแลในส่วนของกผิวที่ถูกทำร้ายได้ ลดรอยสิวให้จางลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ในซองนี้อัดแน่นไปด้วยสารสกัดดี ๆ อย่าง Oilgopeptied-10 อะมิโนสกัดจากพืช โดยจะทำงานเลียนแบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราเพื่อต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย มาพร้อมการผสานพลังกับวิตามินบี 3 ซึ่งจะมาทำหน้าที่ลดรอยแดง รอยดำจากสิวพร้อมปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้น แถมยังมี Zinc PCA เข้มข้น 1% ช่วยควบคุมความมันส่วนเกินบนผิวกระชับรูขุมขน มี Salicylic Acid และ D-Pantheno ซึ่งมีหน้าที่ในการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ลดโอกาสการเกิดสิว รักษาความชุ่มชื้นของผิวตามธรรมชาติ และส่วนประกอบสองตัวสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยคือใบบัวบก และคาโมมายล์เพื่อช่วยลดอาการอักเสบ และระคายเคืองผิวได้เป็นอย่างดี เรียกว่าครบจบทุกปัญหารอยสิวในซองเดียว

ปริมาณ	4 ml
ราคา	49 THB

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก

สั่งซื้อออนไลน์คลิก

        หน้าสิวเห่อเพราะฮอร์โมนและน้ำที่ใช้อาบน้ำล้างหน้าไม่ค่อยสะอาด เห็นเขาว่าใช้ดีเลยจัดมา ซองเล็ก ๆ จิ๋วแต่แจ๋วจริง ๆ เลยจ้า เเต้มสิว ไม่ใช่สิ เรียกว่าทาดีกว่า เพราะทาทั่วหน้า เนื้อเจลใส ๆ บีบนิดเดียวก็ทาได้ทั่วแทบทั้งหน้าซึมไว ไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์เเรงๆแบบยาทาสิวทั่วไป ผ่านมาคืนนึงสิวยุบลงมาก สิวอักเสบแห้งในข้ามคืน  ซื้อซ้ำตลอดจ้า รักเลย
รีิวิวจาก Cosmenet: Kantima อ่านรีิวิวอื่น ๆ คลิก

3) Jula’s herb moringa repair gel

มาถึงสกินแคร์จากแบรนด์ดังอย่างจุฬาเฮิร์บที่ได้มุ่งเน้นเน้นการใช้สารสกัดธรรมชาติจากสมุนไพรมาดูแลปัญหารอยสิว ผิวไม่เรียบเนียนได้อย่างดี สำหรับเจ้าเจลบำรุงผิวมะรุมตะวนี้มีคุณสมบัติหลัก ๆ คือการบำรุงผิวเสียให้เป็นผิวสวย ชุ่มชื่นกระจ่างใส ที่อุดมไปด้วยสารสกัดนานาชนิด คือ รูทินและเควอเซทิน (Rutin and quercetin) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มความขาว กระจ่างใส ให้รอยสิว รอยดำจางลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการนำคุณค่าจากสารสกัดจากมะรุม และอาบูตินมาทำงานผสานกันเพื่อลดการเกิดของเม็ดสีเมลานินที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำบนใบหน้า ช่วยผลัดเซลล์ที่ตายออกไปแล้ว นอกจากนี้ในมะรุมยังมีสารบำรุงผิวที่สำคัญแฝงอยู่ เช่น วิตามินเอมากกว่าพืชชนิดอื่น ๆ ถึง 4 เท่า และมีวิตามินซีที่ได้จากผลส้มมาต่อต้านอนุมูลอิสระ (Anit- Oxidant) ที่ทำให้ผิวเราอ่อนแอ ช่วยซ่อมแซมบาดแผลใน เนื้อเยื่อผิว เป็นเจลมะรุมที่ควรมีพกติดกระเป๋าไปด้วยทุกที่จริง ๆ 

ปริมาณ	7 ml
ราคา	39 THB

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก

สั่งซื้อออนไลน์คลิก

       รอยแดง และรอยดำจางลด เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเล็กน้อย ไม่ได้ทำให้หน้ามันขึ้น สามารถทาแล้วแต่งหน้าทับได้ ไม่ทำให้เป็นคราบ เหมาะกับวันสบายๆ ที่ไม่อยากลงครีมมาก สบายผิวแบบสุด ๆ
รีวิวจาก Jaban: PiscesGirl อ่านรีวิวทั้งหมดคลิก

       ตอนที่ผมทดลองใช้เล่น ๆ ใช้มา 2-3 ซอง ใช้หลังล้างหน้าแล้วลงทันที ผิวหน้าดูดีขึ้นนะครับ จากที่เป็นรอยสิว จากที่หน้าเห่อ ๆ แพ้ ๆ ก็ดูดีขึ้นครับ แต่ทั้งนี้ผมเองก็วิเคราะห์ส่วนผสมไม่ได้อยู่ดีแต่ถ้าให้ตอบด้วยความรู้สึก ผมตอบครับว่าโอเคเลยนะ
รีวิวจาก Pantip: James_Himbo อ่านรีวิวทั้งหมดคลิก 

4) Fuji Snail Cream

สำหรับครีมบำรุงผิวหน้าตัวต่อมาต้องเรียกว่าเป็นครีมซองในตำนานเลย ใครที่มีรอยสิว เป็นฝ้า กระ ก็ต้องมองหาเจ้าซองนี้แบบด่วน ๆ เพราะเป็นครีมที่มีส่วนผสมสำคัญ ๆ อย่างเมือกหอยทาก (Snail Extract) ที่มาจากประเทศเกาหลี สูตรเข้มข้น ซึ่งขึ้นชื่อว่ามีฤทธิ์ในการลดรอยแผลเป็นจากสิวได้อย่างดี อีกทั้งยังมีสารสกัดที่มีทรงประสิทธิภาพอย่าง  Allantoin ช่วยปลอบประโลมผิวจากการระคายเคือง และสิวอักเสบ ทำให้ผิวเรียบเนียนและมีสุขภาพดี พร้อมทั้งช่วยเติมคอลลาเจนคืนสู่ผิว ที่มาผสานพลังกับสารบำรุงผิวอย่าง Vitamin A, C, E ที่จะทำหน้าที่ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย แลดูลดเลือนลง นอกจากนี้ยังมี AHA ธรรมชาติช่วยปรับสภาพผิว ให้เรียบเนียน กระจ่างใส สาร Mucopolysaccharide ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น และ Aloe Vera Extract บำรุงผิวให้ชุ่มชื่น ปลอบประโลมผิวจากการระคายเคืองอีกด้วย ซองเดียวจบเลยจริง ๆ 

ปริมาณ	15 ml
ราคา	49 THB

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก

สั่งซื้อออนไลน์คลิก

       ตัวนี้ใช้ลดเลือนรอยดำจากสิวได้ดีเลยหายไวขึ้นแถมใช้แล้วหน้าไม่มันด้วยคนที่มีปัญหารอยดำจากสิวอยากให้ลองใช้ดูค่ะหาซื้อง่ายราคาไม่แพงด้วย
รีวิวจาก Vanilla: Namphueng_WC อ่านรีวิวอื่น ๆ คลิก

        หลังวันแรกที่ใช้รู้สึกได้เลยว่าผิวหน้าแข็งแรงขึ้นรู้สึกว่าหน้าสตรอง หน้าอิ่มน้ำ ผิวเต่งตึงขึ้น แต่เรื่องสิวยังไม่เปลี่ยนแปลงอะไร หลังจากใช้ 2 – 3วัน สิวอุดตันยุบตัวลงอันนี้ประทับใจมาก เพราะปกติพลอยจะชอบเป็นช่วงข้างแก้มแล้วไม่เคยจะหายเองต้องบีบตลอดถึงจะหายแล้วก็เป็นแผลเป็น ใช้ต่อ ๆ มา สิวผดเริ่มหาย แต่ไม่ได้หายเร็วเหมือนสิวอุดตันนะ แต่คือลดลงมาเรื่อย ๆ จริง ๆ ซึ่งสิวผดปกติจะหายยากมว๊ากกกกกกก ส่วนรอยแผลเป็นจางลงแต่ไม่ได้หายไปเลยทันทีต้องใช้เวลานิดนึง แต่จางลงจริง ๆ คอนเฟิร์ม!
รีิวิวจาก Jaban: Kknploy อ่านรีิวิวทั้งหมดคลิก

5) Nami I’m Fresh Jeju VitC Brightening Gel

มาถึงสกินแคร์จาก 7 11 ตัวสุดท้ายที่จะมาช่วยรักษารอยสิวของเราให้หายสนิทได้นั่นก็คือเจลวิตามินซีจากแบรนด์นามิ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า และผิวกายได้ด้วย ความพิเศษของแบรนด์นี้คือเนื้อเจลวิตามินซีเข้มข้น ซึ่งได้นำเอาสารสกัดสำคัญ ๆ มาผสานพลังกัน อย่างสารสกัดส้มจากเกาะเชจูประเทศเกาหลีที่มีวิตามินซีสูงกว่าส้มทั่วไปเพราะปลูกในดินภูเขาไฟ ทำให้ส้มอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อผิว มีประสิทธิภาพในการสมานแผล และฟื้นบำรุงผิวอย่างเร่งด่วน ให้รอยดำ รอยแดง จุดด่างดำต่าง ๆ จางลงอย่างรวดเร็ว ผิวดูสว่าง กระจ่างใสขึ้น รอยหมองคล้ำใต้ตาและริ้วรอยดูจางลง อีกทั้งช่วยเติมน้ำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น พร้อมผสานกลูต้าไธโอนและวิตามินบี 3 เข้มข้น ที่จะมาทำหน้าที่ปรับสีผิวของเราให้ดูขาวเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นเจลวิตามินซีที่ใคร ๆ ก็ต้องยกให้เป็นที่หนึ่งในดวงใจเลยก็ว่าได้

ปริมาณ	30 ml
ราคา	49 THB

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก

สั่งซื้อออนไลน์คลิก

      หลังจากลองใช้มาประมาณ  2 อาทิตย์ ทาเกือบทุกวัน จะบอกว่าชอบสุดคือเรื่องความชุ่มชื้นค่ะ อยากให้ทุกคนไปลองกัน ของถูกและดีมีอยู่จริง ให้คะแนน 5/5 ไปเลย ซองนึงใช้ได้นานอยู่นะ แต่นี่ไปซื้อมาตุนเพิ่มเรียบร้อย
รีิวิวจาก jaban: GGGeorgie อ่านรีวิวทั้งหมดคลิก

      ใช้ดีมากก ตอนที่กดสิวละทิ้งรอยดำไว้ โบกตรงรอยไว้ทุกคืน สรุปว่ารอยสิวจางลงมาก แทบไม่ทิ้งรอยไว้เลย เอามามาร์ค มาทาทั่วใบหน้าก็รู้สึกสดชื่นดี
รีวิวจาก Vanilla: Pungponcnk อ่านรีวิวอื่น ๆ คลิก

บทส่งท้ายรอยสิวรักษายังไง
รักษาให้หายได้ด้วย 7 Tricks 5 Skincare จริงแท้แค่ไหน

        เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่เป็นสิวบ่อย ๆ แล้วก็อยากรู้ว่ารอยสิวรักษายังไง รักษาให้หายขาดได้จริงไหม ก็อาจจะเคยเห็นเคล็ดลับที่เราแนะนำมาบ้างแล้วในบางข้อ หรืออาจจะคุ้นหูคุ้นตากันดีกับผลิตภัณฑ์สกินแคร์รักษาสิวที่เรายกมาแนะนำวันนี้ แน่นอนว่าการรักษาสิวให้หายว่ายากลำบากแล้ว รอยสิวยิ่งจะต้องใช้ความอดทนให้มากขึ้น เพราะเป็นการดูแลผิวในขั้นลึก ผิวเราเสียหายจากการเป็นสิวมา ไปถูกด ถูกบีบมา ดังนั้น มันจึงค่อนข้างหลีกเลี่ยงที่จะไม่เกิดรอยสิว รอยดำ รอยแดงขึ้นได้ยากทีเดียว ทางที่ดีเราควรมีวิธีดูแลผิวของเราในระหว่างที่เป็นสิว และหลังการเป็นสิวที่ดี และถูกต้อง ซึ่งทั้ง 7 ข้อที่เรายกมาวันนี้เป็นเคล็ดลับเบื้องต้นที่จะช่วยให้เราไม่มีสิว หรือรอยสิวเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม อีกทั้งยังแนะนำสกินแคร์ที่มีคนรีวิวว่าใช้แล้วเห็นผลจริง แถมหาซื้อได้ง่าย ๆ ที่ 7 11 มาพร้อมราคาที่ดีงามจริง ๆ รับรองว่าปัญหารอยสิว หลุมสิวของเราจะเบาบางลงแน่นอน