ประเภทรอยสิวที่ทุกคนต้องรู้
รอยสิว จุดด่างดำ ริ้วรอยที่เกิดจากสิว ปัญหาเล็กๆ ที่ไม่เล็ก ที่หลายๆ คนต้องเผชิญ อันที่เกิดจากการอักเสบของสิว หรือสิวที่อุดตัน เมื่อระยะเวลาผ่านไปก็ได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้หลายๆ คนปวดหัว เกิดเป็นรอยสิว รอยดำ รอยแผลเป็นไว้ให้เราดูต่างหน้า นอกจากจะทำให้ตัวเราเองไม่มีความมั่นใจแล้ว ยังทำให้บุคลิกภาพโดยรวมเสียไปด้วย ต่อไปมาดูลักษณะของรอยสิวกันก่อน ว่ารอยสิวแต่ละแบบนั้นมีที่มาที่ไปจากอะไร เพื่อที่เราจะได้แก้ไขได้อย่างตรงจุด
- รอยสิวหลุมลึก
รอยสิวแผลเป็นที่เป็นรอยสิวหลุมลึก เกิดมาจากการที่ผิวหนังบริเวณที่เป็นสิวเกิดการอักเสบอย่างรุนแรง จนเอนไซม์ได้ทำลายชั้นผิวหนังบริเวณชั้นผิวที่อักเสบ อย่างผิวคอลลาเจนและชั้นผิวอีลาสติน เมื่อถูกทำลายลง ร่างกายของเราจำเป็นต้องทำการสร้างเนื้อเยื้อขึ้นมาใหม่เพื่อรักษาส่วนที่สึกหรอ หรือส่วนที่เป็นหลุมลึกไป แต่กว่าจะซ่อมแซมได้สมบูรณ์ต้องใช้ระยะเวลานานกว่าที่ผิวหน้าบริเวณนั้นจะหายดีเป็นปกติ
- ลองใช้ยาแต้มที่หลุดสิวเพื่อกระตุ้นการเกิดบาดแผลทำให้ผิวหนังเข้าใจว่าต้องสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเติมเต็มหลุมสิว
- กรอผิวหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าลอกผิวชั้นนอกสุดออก
- ใช้เลเซอร์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว
- ใช้การกระตุ้นผิวด้วยการสอดเข็มเข้าใต้ผิวหนัง
- ฉีดเมโส
2. รอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว
รอยแผลเป็นจากสิวเกิดจากการที่ผิวเกิดสิวอับเสบ หรือที่เรียกกันว่า “สิวหนอง” หรือหากสิวอักเสบมีการติดเชื้อและอักเสบมากทำให้มีขนาดใหญ่ ก็จะเรียกว่า “สิวหัวช้าง” เมื่อสิวพวกนี้ก่อตัวเป็นเรื้อรังจนถึงผิวชั้นใน เมื่อสิวหายจึงเกิดเป็นหลุมสิว และรอยแผลเป็นจากสิวนั่นเอง และหากใครที่มีผิวคล้ำ ผิวหนังบริเวณที่อักเสบจะไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสีผิวให้เพิ่มมากขึ้นที่ใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดรอยดำหรือรอยคล้ำหลงเหลืออยู่ หลังจากที่สิวหาย
- ฉีดยาสเตียรอยด์เข้าใต้รอยสิว
- ใช้แผ่นเจลช่วยลดอาการอักเสบของรอยสิว
- ใช้เลเซอร์
- ผ่าตัดเอารอยแผลเป็นออก
3. รอยสิวที่เป็นรอยแดงและรอยดำ
รอยสิวที่เกิดเป็นรอยแดง รอยดำ เกิดจากการที่มีการอักเสบ เกิดการทำลายที่เนื้อเยื่อบริเวณที่เป็นสิว เมื่อผิวหนังกลับมามีสภาพปกติ ก็อาจเหลือรอยที่เกิดจากสิว ซึ่งมีได้หลายสีทั้งรอยสีดำ สีแดงและสีขาว
รู้สาเหตุของรอยสิวแต่ละแบบไปแล้ว ต่อไปจะเป็น 6 วิธีลดรอยสิว ที่จะทำให้ผิวหน้าของคุณกลับมาขาว ใส เรียบเนียน เสริมสร้างความมั่นใจให้กลับมาได้ ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
- งดการโดนแดดโดยเด็ดขาดเพราะยิ่งโดนแดดรอยแดงรอยดำจากสิวจะเข้มขึ้นเรื่อยๆจนเห็นได้ชัด
- ใช้ยาประเภทกรดผลไม้หรือยายับยั้งการเกิดเม็ดสี
- เลเซอร์โดยใช้ชนิดที่ช่วยจับเม็ดสีส่วนเกิน
6 วิธีรักษาลดรอยสิวเชิงลึก
- อาหารเสริมคอลลาเจนลดรอยสิว
คอลลาเจนลดรอยสิวได้ อย่างที่ใครๆ ต่างทราบดีว่า คอลลาเจนคืออาหารผิวชั้นดีของร่างกาย เพราะผิวพรรณของเรา รวมถึงเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ จากร่างกาย ล้วนมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบด้วยกันทั้งสิ้น เรียกได้ว่าร่างกายของมนุษย์มีคอลลาเจนอยู่ถึง 75-90% เลยทีเดียว จึงเห็นได้ว่า ตามสถาบันเสริมความงาม หรือในผลิตภัณฑ์บำรุงรักษาหน้าล้วนแต่ใช้คอลลาเจนเป็นส่วนผสมทั้งสิ้น สาเหตุที่คอลลาเจนลดรอยสิวได้เป็นเพราะ คอลลาเจนมีส่วนช่วยทำให้ผิวพรรณของเราชุ่มชื้น แก้ปัญหาริ้วรอยต่างๆ รวมทั้งรอยหลุมสิว รวมถึงลดเลือนแผลเป็นที่เกิดจากสิวได้เป็นอย่างดี
★★แนะนำคอลลาเจนลดรอยสิวผิวขาวตัวดังยอดนิยม!★★
▼อาหารเสริม COLLA RICH Collagen ช่วยลดอาการอักเสบของผิวรวมถึงลดสิวแต่ทำให้ผิวกระจ่างใสขาวนวน นุ่มชุ่มชื้น
อีกทั้งยังช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าและต่อต้านอนุมูลอิสระด้วย!ลองทานแล้วจะติดใจหน้าดูมีออร่าวิงค์ๆมาแต่ไกลเฉิดฉายได้ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นทำงานหรือที่โรงเรียน
วิธีรับประทาน
4แคปซูลก่อนนอน สำหรับคนที่อยากลดสิวหน้าขาวด้วยคอลลาเจน
2แคปซูลก่อนนอน สำหรับคนที่ไม่มีสิวแต่อยากได้ผิวขาวกระจ่างใสด้วยคอลลาเจน
[[รวมรีวิวPantip]]คอลลาริช COLLARICH COLLAGENปลอม-แท้/สูตรเก่า-ใหม่ดูยังไง
▼อาหารเสริมคอลลาเจนหน้าใสลดรอยสิวจาก Jejuvita Gluta To
อาหารเสริมคอลลาเจนชนิดละลายน้ำชงง่ายดื่มง่าย ผิวสวยผิวใสเพียงดื่มอาหารเสริมคอลลาเจนลดรอยสิวตัวนี้เป็นประจำทั้งผิวกายและผิวหน้าจะมีความสวยใสดูมีออร่า แก้ปัญหาสิวผิวแพ้ง่ายพร้อมช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าด้วยนะ!
- การทานอาหารให้ครบ5 หมู่
อยากที่กล่าวไปว่าคอลลาเจนลดรอยสิวได้ ดังนั้นการเติมคอลลาเจนให้กับร่างกายจึงเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากร่างกายที่สามารถผลิตคอลลาเจนได้เองแล้ว ในอาหารหลายประเภทก็เป็นแหล่งผลิตคอลลาเจนชั้นดีด้วยเช่นกัน อาทิ การทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเน้นไปที่โปรตีน โดยเฉพาะในเนื้อสัตว์ และกระดูกอ่อนของสัตว์ รวมถึงอวัยวะส่วนที่มีเจลาตินสูง และในปลาทะเลน้ำลึกก็ยังมีคอลลาเจนสะสมอยู่มากเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ผักผลไม้ใบเขียว และสีแดง ก็มีคอลลาเจนอยู่เยอะเช่นกัน
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมของวิตามินอี,วิตามินเอ, วิตามินซี AHA และ BHA
วิตามินเอเป็นตัวช่วยในเรื่องของการให้ความชุ่มชื้น ซึ่งหากผิวของเราขาดความชุ่มชื้นนั่นเป็นบ่อเกิดปัญหาของสิวนั่นเอง อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยรักษารอยสิวหรือจุดด่างดำต่างๆรวมถึงหลุมสิวด้วย มาถึงวิตามินซีกันบ้างตัวนี้รู้กันดีอยู่แล้วว่าช่วยให้ผิวขาวใสและสิ่งที่หลายคนไม่รู้คือวิตามินซีเป็นตัวช่วยทำให้กระบวนการการสร้างคอลลาเจนทำงานได้ดีดังนั้นใครอยากลดรอยสิวกินคอลลาเจนอย่างเดียวคงไม่พอต้องจัดวิตามินซีตัวเด็ดๆเข้าไปด้วยนะ มาถึงวิตามินอีกันบ้างตัวนี้คือช่วยไม่ให้ผิวหมองคล้ำเนื่องจากป้องกันผิวจากแสงแดดยูวียังไงล่ะและแน่นอนว่าช่วยให้รอยสิวจางลงด้วย ส่วนAHA และ BHA เป็นสารที่มีคุณสมบัติในการลบรอยแผลเป็นต่างๆ ซึ่งสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังได้ดี
- ทาเจลว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ช่วยรักษาสิวได้ดี ไม่ว่าจะเป็นรอยสิว รอยดำ รอยแดง สิวอักเสบ ซึ่งว่านหางจระเข้ก็เป็นพืชที่สามารถหาได้ง่ายๆ ตามธรรมชาติ รวมถึงยังมีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากว่านหางจระเข้เกือบ 100% มากมายหลากหลายแบรนด์ ให้ได้เลือกใช้ในการบำรุงผิว สำหรับใครที่ผิวแพ้ง่าย แนะนำว่าให้เลือกซื้อเจลว่านหางจระเข้แบบที่ไม่มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์ซึ่งจะอ่อนโยนต่อผิวหน้าที่สุด
- มาร์กหน้าก่อนนอน
การมาร์กหน้าก่อนนอน ก็สามารถช่วยลดเลือนรอยสิวได้เช่นเดียวกัน เพราะแผ่นมาส์กหน้านอกจากจะทำให้ผิวหน้าของเราชุ่มชื้นแล้ว มาร์กหน้าบางสูตรยังมีคุณสมบัติที่ช่วยในเรื่องของการลดรอยสิวได้ด้วย
- การเลเซอร์รอยสิว
การเลเซอร์รอยสิวเป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลเร็วที่สุด หากทำต่อเนื่องเป็นเวลา 3-4 เดือน รอยสิว รอยดำจะจางลงอย่างเห็นได้ชัด ข้อเสียคือการเลเซอร์มีราคาค่อนข้างสูง และการเลเซอร์รักษารอยสิวนั้นมีหลายวิธีด้วยกันซึ่งจะรวมการฉายแสงเข้าไปด้วยและวิธีต่างๆมีดังต่อไปนี้ การใช้แสง LED (Light-emitting diode) , การใช้คลื่นแสง IPL , การเลเซอร์แบบ YAG , การเลเซอร์แบบ Fractional CO2 , การใช้คลื่นวิทยุ RF ซึ่งการทำเลเซอร์รักษารอยสิวนั้นควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น หากใครกำลังสนใจอยู่ล่ะก็เราขอแนะนำเว็บไซต์จองคิวและจำหน่ายคูปองเลเซอร์เรื่องความสวยความงามรวมถึงเลเซอร์ลดรอยสิวให้ทุกคนได้ใช้บริการอย่างปลอดภัยไม่ต้องกลัวว่าเป็นคลินิกเถื่อนคลิกด้านล่างได้เลย
วิธีทั้งหมดข้างต้นนี้เป็นเพียงวิธีการลดรอยสิวบางส่วนที่เราหยิบยกขึ้นมา ทั้งนี้หากอยากให้ผิวหน้าของเราขาว ใส ไร้สิว ดูอ่อนเยาว์ ควรเริ่มบำรุงร่างกายจากภายในโดยการเลือกรับประทานอาหารและผลไม้ที่มีประโยชน์ รวมถึงการทานน้ำเปล่าๆ เยอะ เพื่อผิวหน้าที่ขาวใสสมดั่งใจ