ปัญหาสิวรอบปาก สิวริมฝีปากเกิดจากอะไร?
จริง ๆ แล้วถ้าให้พูดถึงปัญหาสิวที่หลาย ๆ คนมักจะพบเจอส่วนใหญ่มักจะขึ้นบริเวณ T-Zone หรือตามแก้ม คาง หน้าผาก แต่เชื่อว่าจะมีคนบางกลุ่มที่สงสัยมาตลอดว่าทำไมบริเวณรอบปาก หรือริมฝีปากถึงมีสิวขึ้น และก็จะขึ้นอยู่เป็นประจำ ในทางการแพทย์ได้ให้คำอธิบายการเป็นสิวที่บริเวณปากในเพศหญิงว่ามีสาเหตุมาจากภาวะผิดปกติของรังไข่ ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่เราต้องหมั่นสังเกต แต่โดยปกติการเป็นสิวริมฝีปากก็อาจเกิดจากผื่นผิวหนังอักเสบ การแพ้สัมผัสจากครีม หรือยาสีฟันการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะในช่วยก่อนและหลังมีประจำเดือน การทายาแก้สิวที่มีสารเสตียรอยด์ การแพ้เครื่องสำอางที่ใช้ โดยเฉพาะลิปสติกที่ใช้ทาปาก ความสกปรกที่เกิดจากการกินอาหารก็ได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นใคร ๆ ก็สามารถเป็นสิวริมฝีปากได้ เพื่อเป็นการดูแลรักษา และป้องกันการเกิดสิวบริเวณปากมาดูกันว่าจะมีวิธีอะไร หรือผลิตภัณฑ์อะไรมาแนะนำบ้าง
วิธีดูแลผิวริมฝีปากให้ปราศจากปัญหาสิว
สำหรับใครที่มักจะเป็นสิวริมฝีปากบ่อย ๆ การดูแลตเบื้องต้นเลยก็คือให้รักษาความสะอาดบริเวณที่เป็นสิว ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเปล่า ๆ มาเช็ดบริเวณปาก และริมฝีปากหลังจากการทานอาหารเสร็จ หรืออีกวิธีทำความสะอาดก็คือการเอานำแข็งมาห่อด้วยผ้าบาง ๆ แล้วมาประคบบริเวณที่เป็นสิวประมาณ 2 – 3 นาที และให้ทำทุกวัน เพราะน้ำแข็งจะช่วยลดอาการอักเสบ รอยแดงจากสิว ช่วยทำให้เส้นเลือดแข็งตัวและจะทำลายแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดการอักเสบของสิว ต่อมาก็คือการหยุดใช้เครื่องสำอางอย่างลิปสติก โดยเฉพาะลิปบาล์มหรือลิปกลอส ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่อาจก่อให้เกิดสิว หรือทำให้สิวริมฝีปากที่เราเป็นอยู่มีอาการแย่ลง เพราะในลิปบาร์มจะมีขี้ผึ้งที่อาจไปอุดตันรูขุมขน กักเก็บแบคทีเรียไว้และทำให้มีสิวเกิดขึ้น หรือในกลอสที่มีส่วนผสมของน้ำหอม ซึ่งจะไปกระตุ้นให้มีการผลิตซีบัม (Sebum) ทำให้เกิดสิวอักเสบ รวมไปถึงการใช้ยาสีฟันก็สำคัญ เราไม่ควรใช้ยาสีฟันที่แต่งกลิ่น แต่งสีเพราะอาจจะทำให้ระคายเคืองผิวจนเกิดสิวที่บริเวณปาก หรือริมฝีปากตามมาได้
หลังจากที่เราดูแลตามวิธีเบื้องต้นแบบนี้แล้วยังไม่หายแนะนำว่าให้ไปหาแพทย์เฉพาะทางเพื่อให้สั่งยาตามลักษณะของสิวที่เราเป็น ซึ่งยาส่วนใหญ่ที่เรามักจะได้ใช้ในการรักษาสิวริมฝีปากนี้จะมีส่วนผสมของเรตินอยด์ (Retinoid) หรือจาก กรดวิตามินเอ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ขจัดสิ่งสกปรก ขจัดสิวที่มีอยู่ และป้องกันสิวใหม่ขึ้นด้วย และแน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ริมฝีปากสามารถหาซื้อตามร้านขายยา โดยให้เภสัชแนะนำวิธีการใช้ได้เราจึงอยากจะรวบรวมเอาสกินแคร์ดี ๆ มาช่วยดูแลปัญหาสิวเหล่านี้ มาดูกันว่ามียี่ห้อใดบ้าง
5 ผลิตภัณฑ์รักษาสิวริมฝีปากให้หายสนิท
ใครที่ต้องการรักษาสิวอักเสบ สิวผด สิวผื่นต่าง ๆ ถ้าไม่รู้จัก Benzac ตัวนี้จะถือว่าพลาดมาก เพราะเป็นครีมที่เกิดมาเพื่อคนเป็นสิวโดยเฉพาะ เรียกได้ว่าเป็นครีมรักษาสิวขั้นเทพเลย ในครีมตัวนี้มีส่วนประกอบสำคัญของ Benzoyl Peroxide ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ทำให้หัวสิวหลุดออกมา นอกจากนี้ก็ยังมี Glycerin ที่มาเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดการระคายเคือง ข้อแนะนำสำหรับคนที่ไม่เคยใช้มาก่อนแนะนำให้ใช้ครีมตัวนี้ในสูตรที่มีส่วนประกอบเข้มข้นเพียง 2.5% ก็พอ ส่วนใครที่ใช้จนหน้าเริ่มชินชาไปแล้วก็ให้ใช้สูตร 5% ได้เลย วิธีการใช้ครีมนี้ก็ไม่ยากให้เราทาบริเวณที่เป็นสิว หรือบริเวณริมฝีปากทิ้งไว้แค่ 10 – 15 นาที แล้วล้างออก อย่าทาทิ้งไว้นานเกินไปเพราะมีกรดวิตามินเอ อาจทำให้เรารู้สึกแสบของผิวได้
ปริมาณ |
40 ml |
ราคา |
130 THB |
พวกสิวผดเม็ดเล็กๆเนี่ย หายไปเยอะแล้วค่ะ สิวอักเสบก็มีที่ยุบลงไป และก็มีที่สุกขึ้นมา นะคิดว่าอีก อาทิตย์นึงก็คงจะน้อยลง หน้าก็คงจะเรียบเนียนขึ้น
รีวิวจาก Jeban: Yuppiiz อ่านรีวิวอื่น ๆ คลิก
ส่วนตัวใช้ดีค่ะ แต่ก่อนหน้าแหกมากสิวอุดตันเป็นร้อยเม็ดบนหน้ามาหายได้เพราะ เบนแซคกะเรตินเอจริงๆ
ทุกวันนี้นานๆจะโผล่มาสัก 4-5 เม็ด
รีวิวจาก Pantip: Venusian อ่านรีวิวอื่น ๆ คลิก
มาถึงเจ้ายารักษาสิว Retin A ที่ถือเป็นมหาเทพอีกตัวสำหรับคนต้องการรักษาสิว เพราะครีมตัวนี้มีคุณสมบัติที่เป็นยารักษาสิวโดยตรง สามารถลดสิวควบคู่ไปยารักษาสิวตัวอื่น ๆ ได้ โดยส่วนประกอบสำคัญอย่างเตรทติโนอิน (Tretinoin) เป็นอีกชื่อของกรดวิตามินเอที่มีความเข้มข้นอยู่ที่ 0.025% และ 0.5% มีสรรพคุณเรื่องการผลัดเซลล์ผิว รักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวหนังหนองต่าง ๆ ที่เกิดจากการสะสมของแบคทีเรียใต้ผิวหนัง ข้อแนะนำการใช้จะเหมือนกับ Benzac คือควรเริ่มใช้จากความเข้มข้นน้อย ๆ ก่อน และให้แค่วันละครั้งก่อนนอน ใครใช้แล้วหัวสิวก็จะผุดออกมาห้ามแกะเกา หาทาย้ำลงอีกจนกว่าหัวสิวจะถูกดันออกมาเอง ส่วนข้อควรระวัง คือ ไม่ควรใช้กลางวันเพราะว่าจะทำให้ผิวไวต่อแสง
ปริมาณ |
10 ml |
ราคา |
200 THB |
การใช้เรตินเอต้องอดทนมาก ๆ ๆ ๆ ๆ เลยค่ะ แต่สำหรับตัวเราเองใช้เรตินเออย่างเดียวไม่ร่วมกับตัวอื่นได้ผลดีมากกว่าค่ะ
รีวิวจาก Vanilla: lurlak อ่านรีวิวอื่น ๆ คลิก
ใช้แล้วสิวลดลงจริงแต่ต้องอดทนนะคะ ในระยะแรกอาจไม่เห็นผล สักประมาณเดือนนึงก็จะเห็นผลค่ะ แต่หน้าก็ยังมันเหมือนเดิมนะคะ ไม่ได้เห่อ หรือบางอะไร
รีวิวจาก Pantip:สมาชิกหมายเลข 751123 อ่านรีวิวอื่น ๆ คลิก
มาถึงครีมตัวต่อมากับยี่ห้อ Tomei ที่มาแรงมาก ๆ ทีเดียว วัยรุ่นหลาย ๆ คนต้องรู้จักแน่นอนโดยมีอยู่ทั้งหมด 2 ตัวหลัก ๆ คือ Tomei Anti-Acne Cream และ Tomei Clindai Gel ที่ยิ่งใช้ควบคู่กันแล้วจะเห็นผลชัดเจน โดยตัวครีมที่เราจะเอามาแนะนำจะเป็นเนื้อสีขาวขุ่น บางเบา ซึมง่าย มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบของสิว ลดรอยแดงจากสิวได้เป็นอย่างดี เหมาะกับสิวหนอง สิวอักเสบ สิวบวมแดง ทั้งลดการอุดตัน ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย บำรุงและเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว ที่สำคัญทาแล้วไม่แสบไม่คัน ไม่ระคายเคืองผิวเพิ่ม ตอบโจทย์คนเป็นสิวครบอยู่ ข้อแนะนำให้เราเน้นทาเฉพาะจุด หรือบริเวณที่สิวริมฝีปากที่เป็นสิว เช้า และก่อนนอน เป็นครีมที่ดูแลปัญหาสิวได้อย่างตรงจุด และครอบคลุมมาก ๆ อีกตัวเลย ราคาเบา ๆ หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ
สิวยุบไวมาก จากที่แดงๆ ก้ค่อยๆยุบลง ไม่ทิ้งร่องรอยไว้ เหมือนไม่เคยเป็น ปลื้มมาก ๆ ค่ะ ซื้อซ้ำเป็นหลอดที่สองแล้วค่ะ ต้องมีติดโต๊ะไว้นะคะ ของมันต้องมี (:
รีวิวจาก Vanilla: REJenZ อ่านรีวิวอื่น ๆ คลิก
ลองใช้ครั้งแรกก็ชอบเลยค่ะ วันที่รู้สึกเจ็บ ๆ เหมือนสิวจะเริ่มขึ้น เลยใช้ตัวนี้ทา พอตื่นนอนสิวก็ไม่ขึ้นค่ะ ใช้ได้ทั้งก่อนสิวขึ้น และ ช่วงที่เป็นสิวอักเสบก็ได้เหมือนกันค่ะ เราเคยใช้ทั้งสองแบบ ถ้าใช้ตอนสิวอักเสบ สิวก็ยุบลงได้ไวด้วยค่ะ ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับขนาดหลอดนะคะ
รีวิวจาก Cosmenet: I am sky อ่านรีวิวอื่น ๆ คลิก
4) Smooth E Acne HydroGel
ครีมรักษาสิวริมฝีปากตัวต่อมาเป็นแบรนด์ที่คุ้นหูแน่นอนกับ Smooth E ที่โด่งดังในเรื่องการผลิตสกินแคร์ และโฟมล้างหน้าดูแลปัญหาผิวต่าง ๆ ซึ่งตัวนี้เป็นครีมรักษาสิวที่ขายดีมากเป็นอันดับต้น ๆ ในบรรดาผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เหมาะกับคนที่ผิวหน้าบอบบางต้องการครีมรักษาสิวที่ไม่แรงมาก เจ้าครีมตัวนี้ได้ผ่านการทดสอบทางการแพทย์มาแล้วว่าสามารถกำจัดสิวได้โดยไม่ทำให้ระคายเคืองผิว เป็นสูตร Acne Hydrogel แถมในหลอดนี้หลอดเดียวมีส่วนประกอบสำคัญมากมายอย่างตัวยา Salicylic 2% ในรูป matrix ที่จะค่อย ๆ ถูกปลดปล่อยออกมาสลายสิ่งอุดตันในรูขุมขนได้ยาวนาน และไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง Oligopeptide-10 ช่วยต่อต้านการติดเชื้อแบคทีเรีย P.Acnes สาเหตุหลักของการเกิดสิว Zingiberofficinale root extract ช่วยลดอาการอักเสบ บวม แดง และการระคายเคืองผิว ดูแลครบครันมากจริง ๆ
ปริมาณ |
10 ml |
ราคา |
236 THB |
ช่วยรักษาสิวดีมาก ตอนใช้จะแสบๆ แต่สิวแห้ง หายไว ถ้าสิวมีหัวเราจะใช้เข็มสะกิดแล้วเอาหัวหนองออกให้หมด แต่ต้องระวังอย่าให้ผิวช้ำ แล้วแต้มตัวนี้ แบบเยอะๆ พูนๆ วันต่อมาสิวหายไปเลยจ้าาาาา ถ้าสิวเจ็บ ๆ ใหญ่ ๆ ก็จะหายไวมาก แต่มีข้อเสียคือผิวบริเวณที่แต้มจะแห้งนะคะ พอสิวหายก็บำรุงให้ชุ่มชื้นกันต่อไป
รีวิวจาก Vanilla: SujarSujarii อ่านรีวิวอื่น ๆ คลิก
ใช้ดีค่ะ ตอนนี้เราพลาด ผิวหน้าติดเสตียรอยด์ สิวเยอะ รักษาหน้าอยู่ ใช้เจลแต้มสิวของสมูทอี ใช้ดีทีเดียว แสบ ๆ นิด ๆ หัวสิวเปล่งออกมาเลยค่ะ แต่ในโฆษณามันยุบลง ไม่จริงนะคะ เราซื้อมา 125 บาท ร้านแถวบ้าน
รีวิวจาก Pantip: SKYK_4 อ่านรีวิวอื่น ๆ คลิก
มาถึงสกินแคร์รักษาสิวตัวสุดท้ายที่ยกให้เป็นยารักษาสิวอักเสบเนื้อเจลที่มีส่วนผสมหลัก ๆ อย่าง Clindamycin โดยสรรพคุณของตัวครีมยารักษาสิวตัวนี้คือการเข้าไปกำจัดเชื้อ P. Acne ที่ทำให้เกิดสิว เป็นการฆ่าเชื้อสิวพร้อมปกป้องสิวที่ปากของเราไม่ให้สิวเกิดการติดเชื้อ หรือขึ้นหัวหนองอีก ข้อแนะนำสำหรับการใช้ครีมตัวนี้คือให้เราแต้มแค่เฉพาะบริเวณที่เป็นสิวก็พอห้ามทาทั้งหน้า เพราะผิวอาจจะแห้งตึง หรือเกิดการระคายเคืองได้ และควรใช้ร่วมกับครีมที่มีส่วนประกอบจำพวก Benzoyl Peroxide อย่างครีม Benzac ที่พูดถึงตอนแรกได้จะช่วยให้เห็นผลเร็วขึ้น สิวจะถูกผลัดออกมาได้เร็วกว่าทาตัวนี้เดี่ยว ๆ และไม่เสี่ยงต่อการที่หน้าของเราจะดื้อยาด้วย เป็นครีมที่ไม่เหมาะกับคนผิวหน้าบอบบาง แพ้ง่าย เพราะฤทธิ์ของยาตัวนี้ค่อนข้างแรงกว่าตัวที่ผ่าน ๆ มา จากการที่ใช้ในการฆ่าเชื้อเป็นหลัก แต่สามารถสามารถใช้แต้มสิวริมฝีปากได้ ไม่ได้มีผลข้างเคียงที่อันตรายจนเกินเหตุ ลองซื้อมาทาดูรับรองว่า 3 วันเห็นผลชัดเจน
Clindalin Gel มีตัวยาฆ่าเชื้อ Clindamycin เหมาะสำหรับทารักษาสิวอักเสบ หรือป้องกันการเกิดสิวอักเสบ เมื่อเราบีบสิวอุดตันออก เพราะอาจเกิดการติดเชื้อจากแผลที่เกิดขึ้นได้ ตัวนี้ได้ผลดี ไม่ทำให้เกิดการอักเสบขึ้นมาอีกค่ะ
รีวิวจาก Pantip: PP@LIPZ อ่านรีวิวอื่น ๆ คลิก
พอใช้คลินดาลินเจล เราชอบมากกว่าคลินด้าเอ็มนะ เพราะทาง่าย ทาแล้วก็อยู่บนหน้า กะปริมาณกับพื้นที่ได้ดีกว่า และหายเร็วดี แต่ก็กลัวว่าจะดื้อยาเหมือนกันถ้าใช้ติดต่อกันนานๆ ราคาไม่แพงนะ ใช้ทีละนิด ต้องใช้ติดต่อกันถึงจะเห็นผล ส่วนตัวลองใช้กับทั้งสิวอักเสบมีหัวและไม่มีหัว ก็พอใช้ได้นะ อาจจะไม่ได้แต้มปุ๊บยุบปั๊บ แต่ก็ค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ ถ้ามีแผลก็อาจจะแสบนิดๆ แต่สำหรับเราไม่ได้ระคายเคืองอะไร
รีวิวจาก Vanilla: Nekomi อ่านรีวิวอื่น ๆ คลิก
บทส่งท้าย 5 สกินแคร์กำจัดสิวริมฝีปากให้หายสนิทได้จริงไหม??
เชื่อว่า 5 ผลิตภัณฑ์รักษาสิวริมฝีปากที่เรายกมาแนะนำทั้งหมดในวันนี้คนที่เป็นสิวหลาย ๆ คนจะต้องคุ้นหูคุ้นตากันมาอย่างดี เพราะเป็นครีมรักษาสิวที่คุณภาพดี ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น และมีส่วนประกอบสำคัญ ๆ ในการรักษาสิวคล้ายกับยาที่แพทย์จ่ายให้เรามาใช้แน่นอน ส่วนเรื่องผลลัพธ์นั้นขึ้นอยู่กับว่าผิวหน้าของเรารับกับครีมตัวใดมากที่สุด ส่วนใหญ่คนที่เป็นสิวถ้าหากใช้ครีมตัวใดไปนาน ๆ หน้าจะคุ้นชินจนเกิดอาการดื้อยา ครีมตัวนั้นก็อาจใช้ไม่ได้ผลก็ให้ลองหาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มาใช้ดู ส่วนใครที่สงสัยว่าจริง ๆ แล้วมีครีม หรือเจลแต้มสิวตัวอื่น ๆ ที่ดีกว่านี้ทำไมไม่ยกมา เนื่องจากว่าครีมรักษาสิวบางตัวไม่สามารถทาบริเวณริมฝีปากได้เพราะเป็นจุดที่บอบบาง เราจึงได้คัดมาเพียงแค่ครีมที่ค่อนข้างบางเบา ไม่ได้มีฤทธิ์แรงเกินไป สามารถทาสิวบริเวณริมฝีปากได้แน่นอน เชื่อว่าใครที่ได้ลองใช้แล้วก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
Write a comment