สิวอักเสบ…สิวเม็ดเล็กๆที่แสบถึงทรวง

สิวอักเสบ…สิวเม็ดเล็กๆที่แสบถึงทรวง

ถ้าพูดถึงสิวที่ทุกคนกลัวมากที่สุดคงหนีไม่พ้นสิวอักเสบเพราะมันสามารถแปลงกลายเป็นสิวอักเสบที่แดมเมจรุนแรงอย่างได้สิวหัวช้าง แถมต่อให้สิวนั้นหายไปแล้วแต่ก็ยังสามารถทิ้งรอยด่างดำจากแผลเป็นหรือทิ้งหลุมสิวไว้ให้เราเจ็บใจอีกต่างหากกว่าจะหายก็ต้องใช้เวลานาน….น่ากล้วจริงๆ

ลักษณะของสิวอักเสบ
(Inflammatory 
acne หรือ Papulopustular acne)  

มีลักษณะเป็นเม็ดตุ่มนูนๆ บวมแดง มีทั้งขนาดใหญ่และเล็ก บางเม็ดมีหนองบริเวณหัวสิว เรียกว่า
สิวหนอง หากสิวอักเสบมีการติดเชื้อและอักเสบมากทำให้มีขนาดใหญกลายเป็น สิวหัวช้าง

สาเหตุของสิวอักเสบ

สาเหตุของการเกิดสิวอักเสบ สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การอุดตันของรูขุมขน สาเหตุทางกรรมพันธุ์ และภาวะที่ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะฮอร์โมนในเพศหญิงที่เปลี่ยนแปลงตามรอบของประจำเดือนแต่สาเหตุที่พบเจอได้บ่อยที่สุดคือเกิดจากแบคทีเรียกลุ่ม Propionibacteriu m acne ( P.acne) ซึ่งปล่อยเอนไซม์ที่กระตุ้นสิวอุดตันให้เกิดการอักเสบเป็นการอุดตันในรูขุมขนและนำไปสู่สิวอุดตันและสามารถอักเสบเรื้อรังได้  โดยมีความรุนแรงแตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อ  อีกหนึ่งสาเหตุคือกรรมพันธุ์ ซึ่งหากมีพ่อแม่ที่เป็นสิวก็มีโอกาสที่จะเป็นสิวหรือมีแนวโน้มที่จะเป็นสิวได้

    ….การที่สิ่งสกปรกจากการมีสุขอนามัยที่ไม่ดี ใช้เครื่องสำอางที่ทำให้รูขุมขนอุดตันสามารถทำให้สิวประเภทนี้เกิดขึ้นได้ง่ายมาก…
รวมถึงการใช้ยารักษาบางชนิด เช่น ยาสเตียรอยด์ หรือ ยาลิเทียม เป็นต้น…

 

สิวอักเสบ

สิวอักเสบ มี 4 ชนิด 

  1. สิวตุ่มแดง คือ ตุ่มสีแดงขนาดเล็ก เป็นก้อนแข็งนูนขึ้น ทำให้เกิดความเจ็บปวด 
  2. สิวหัวหนอง คือสิวที่เป็นผลมาจากอาการอักเสบบริเวณต่อมเหงื่อและรูขุมขนและเกิดเป็นตุ่มที่มีหนองสีขาวอยู่ตรงหัวสิว
  3. สิวก้อนลึก คือสิวที่มีลักษณะคล้ายสิวตุ่มธรรมดาแต่ตุ่มนั้นจะเป็นก้อนแข็งๆขนาดใหญ่ที่มีรากลึกลงไปในชั้นผิวหนัง 
  4. สิวซีสต์ คือตุ่มสิวขนาดใหญ่มีลักษณะคล้ายฝีซึ่งภายในจะเกิดเป็นหนองอักเสบและสิวอักเสบชนิดที่รุนแรงที่สุด

 

สิวอักเสบ

การรักษาสิวอักเสบ 

สิวที่มีอาการอักเสบไม่รุนแรง เช่น สิวหัวขาว สิวหัวดำ หรือสิวอักเสบเม็ดเล็กๆ นั้นสามารถรักษาได้ด้วยตนเองด้วย ยารักษาสิวที่มีขายทั่วไปตามร้านขายยาที่อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือเภสัชกร

แต่ !! … ถ้าหากมีมีสสิวขึ้นเป็นจำนวนมาก หรือถ้ารักษาด้วยตัวเองในเบื้องต้นแล้วแต่อาการอักเสบนั้นไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง ในกรณีนี้ควรรีบไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อตรวจและรักษาอาการอักเสบของสิวซึ่งอาจจะต้องใจเวลานานจนกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนจนสังเหตุเห็นได้ชัดและค่อนข้างมีค่าใช้จ่ายโดยกระบวนการในการรักษานั้นแพทย์จะพิจารณาไปตามอาการและประเภทต่างๆของสิวรวมถึงความรุนแรงของอาการอักเสบ

สิวอักเสบระดับไม่รุนแรง ไปจนถึง ระดับปานกลาง
สามารถเริ่มรักษาด้วยตนเองได้โดยใช้
ยาชนิดทา: ยาประเภท “เรตินอยด์” ซึ่งอาจจะอยู่ใน
รูปแบบเจลหรือครีมใช้ทาบริเวณที่เกิดสิว เพื่อลดการอุดตันของสิว หรือยารักษาสิวบางชนิดที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
ยาชนิดรับประทาน: “ยาปฏิชีวนะ” เพื่อฆ่าแบคทีเรียแต่ควรปรึกษาเภสัชกรในการเลือกซื้อ
ในบางกรณีแพทย์หรือเภสัชกรอาจจะแนะนำให้รับประทาน “ยาคุมกำเนิด” เพื่อปรับฮอร์โมน
ข้อควรระวัง: ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง
ยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงจากการใช้ยา

 

สิวอักเสบระดับรุนแรง ไปจนถึง สิวซีสต์ 

การรักษาสิวอักเสบชนิดรุนแรงนั้นควรรักษาภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังและนอกจากการ
รักษาโดยการใช้ยาแล้วยังมีการรักษาโดยใช้วิธีอื่นๆโดยใช้เครื่องมือเฉพาะทางร่วมอีกด้วย

ยาชนิดทา: “ยาประเภทไอโซเตรติโนอิน (Isotretinoin)” เป็นยาอนุพันธ์ของกรดวิตามินเอ
เพื่อลดปริมาณแบคทีเรีย ลดอาการบวมแดงและป้องกันการอุดตันของรูขุมขน
ข้อควรระวัง: ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์โดยเด็ดขาดหรือหญิงสาวที่ต้องการตั้งครรภ์เนื่องจากเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์

นอกจากนี้ยังมีอีกอีกหลากหลายวิธีเฉพาะที่แพทย์มักใช้ในการรักษาสิวอักเสบรุนแรง
ที่ต้องทำโดยแพทย์ผิวหนังหรือแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น

การฉีดสเตียรอยด์ (Steroid)
การฉีดสเตียรอยด์เข้าไปยังบริเวณที่เป็นสิว เป็นการทำให้การบวมอักเสบของสิวหายไปโดยไม่ต้องบีบ ส่วนมากมักใช้วิธีนี้ในการรักษาสิวก้อนลึกและสิวซีสต์
ผลข้างเคียง: ทำให้ผิวบางอาจเห็นรอยเส้นเลือดใต้ผิวหนังได้

การใช้เครื่องสุญญากาศดูดสิว (Isolaz) 
เป็นการใช้เครื่องดูดไขมันส่วนเกินใต้ผิวหนังและร่วมในขณะที่ฉายแสงเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียเพื่อลดการผลิตไขมันของต่อมไขมันลง
 

การรักษาด้วยโฟโตไดนามิก (Photodynamic Therapy) 
วิธีการรักษาแบบนี้คือการที่แพทย์จะทายาไว้บนผิวหนังบริเวณที่เป็นสิวแล้วยิ่งเลเซอร์ลงไปบนผิวเพื่อเร่งปฏิกิริยากระตุ้นให้ยาออกฤทธิ์เป็นการช่วยฆ่าแบคทีเรีย

การผ่าตัด 
ในกรณีที่สิวซีสต์ไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่นๆ แพทย์อาจต้องผ่าตัดเพื่อนำสิ่งอุดตันภายในออกมา

การผลัดเซลล์ผิว 
เป็นใช้กระบวนการทางเคมีในการรักษาเพื่อขัดลอกผิวชั้นนอกหรือเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว เพื่อลดการอุดตันของน้ำมันและ
ผลข้างเคียง: อาจเกิดรอยแดง พุพอง หรือหลุดล่อนออกมา อาจทำให้ผิวแพ้ง่ายและระคายเคือง

นอกจากนี้ แพทย์อาจพิจารณารักษาสิวอักเสบด้วยวิธีอื่น ๆ เพิ่มเติมตามความเหมาะสม
ของอาการและรัดับความรุนแรงของแต่คน

 

สิวอักเสบ

การป้องกันการเกิดสิวอักเสบ 

  1. รักษาความสะอาดบนใบหน้า ล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยน้ำสะอาดและผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า ควรหลีกเลี่ยงการล้างหน้าบ่อยๆเพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ 
  2. เลือกใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวแต่ต้องช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า ด้วยเพื่อไม่ทำให้ผิวแห้งจนเกินไป และล้างเครื่องสำอางออกให้หมดก่อนเข้านอน ไม่ควรนอนหลับไปพร้อมกับเครื่องสำอางเป็นอย่างยิ่ง และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางในขณะที่เป็นสิว หรือทาทับบริเวณที่เป็นสิว 
  3. ชำระล้างร่างกายหลังกิจกรรมต่างๆ หรือเมื่อมีเหงื่อออกมากๆ แต่ควรระมัดระวังในการเลือกใช้แชมพูสระผม
  4. กระตุ้นการทำงานของระบบในร่างกายโดยการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมสม่ำเสมอเพราะจผลส่งผลดีกับผิว

สรุปเรื่องสิวอักเสบ

จากที่กล่าวมาว่าการรักษาสิวอักเสบนั้นอาจจะใช้เวลามากสักหน่อยจึงควรรับการรักาาอย่างสม่ำเสมอควรใส่ใจรับประทานยาทายาอย่างต่อเนื่อง … ห้ามขี้เกียจ! ไม่บีบสิว หรือสัมผัสผิวบริเวณที่เป็นสิว เพราะจะมีโอกาสมีเกิดสิวเพิ่มมากขึ้นมาเพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือเกิดรอยแผลเป็นบนผิวหนังด้วย ซึ่งจริงๆแล้วสิง่ที่คนกลัวเกี่ยวกับสิวคงไม่ใช่อาการอักเสบของสิวที่อาจจะทำให้รู้สึก เจ็บแสบๆหรือปวดขึ้นมาได้ แต่สิ่งที่กลัวคือรอยแผลเป็นแดงดำต่างๆรวมถึงหลุมสิวลึกที่รักษาได้ยากตามมา
เมื่อเริ่มเป็นสิวอักเสบแบบไม่รุนแรงแล้ว ควรรักษาอย่างถูกต้องและปออดภัยเพื่อจะไม่มีปัญหารอยดำแดงและหลุมสิวต่างๆที่ตามมา

สกินแคร์Latest articles in the category