ผิวใสไร้สิวอุดตันง่ายๆ แค่เริ่มต้นดูแลอย่างถูกต้อง
สิวเม็ดเล็กๆ ที่ไม่ร้ายแรงแต่น่ารำคาญใจสุดๆ คงจะหนีไม่พ้น “สิวอุดตัน” ที่มักจะทำให้สาวๆ รำคาญใจเวลาแต่งหน้าเพราะเจ้าสิวอุดตันเม็ดแข็งๆ นี่เหละที่ทำให้ผิวหน้าเราดูไม่เรียบเนียนทำให้เราแต่งหน้าบางๆ โชว์ผิวสวยๆ ได้ไม่เต็มที่ เพื่อผิวสวยแบบหมดจด
เรามาทำความรู้จักเจ้าสิวอุดตันกันเพิ่มขึ้นอีกหน่อยดีกว่าว่ามันคืออะไรถ้ามันขึ้นมาบนหน้าเราแล้วควรทำยังไงกับมันดี…
สิวอุดตัน คือ สิวขนาดเล็ก ชนิดไม่อักเสบ พบเป็นตุ่มอุดตันอยู่ชั้นใต้ผิวหนังเป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันในรูขุมขน มักพบได้มากบริเวณหน้าผากและคาง สามารถกดออกได้ แต่ถึงไม่มีอาการอักเสบ แต่ถ้าไปแคะแกะเกามากๆจนเกิดการติดเชื้อ หัวสิวก็จะใหญ่ขึ้น บวม แดง จนกลายมาเป็นสิวอักเสบที่รักษายากและทำเกิดจุดด่างดำจากรอยแผลเป็นบนใบหน้าได้
สิวอุดตัน 2 ชนิดที่พบบ่อยๆ คือ สิวหัวขาว และ สิวหัวดำ
ซึ่งเกิดจากการอุดตันของไขมันและเซลผิวที่ตายแล้วสะสมอยู่ภายในรูขุมขน ซึ่งสีดำที่มองเห็นเกิดจากการทำปฏิกิริยาของน้ำมันกับออกซิเจนนั่นเอง
แต่ปัจจัยที่ทำให้เกิดการอุดตันที่ต้องระวังนั้นก็ยังมีอีกมากมายอาทิเช่น
- ฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเทอโรน (Testosterone) ทำงานมากเกินไปต่อมไขมันจึงผลิตน้ำมันออกมามากเกินปกติจนเกิดการอุดตันในท่อระบายไขมันที่เปิดสู่ผิวหนัง
- เกิดจากสารเคมีต่างๆ เช่น การใช้เครื่องสำอาง รองพื้น ครีมบำรุงผิว ที่มีส่วนผสมของน้ำมันจึงทำให้ผิวหน้ามีความมันมากจากเครื่องสำอางลงไปเพิ่มการอุดตัน
- การแพ้เครื่องสำอางบางชนิดหรือการใช้สารที่มีสเตียรอยด์
- สภาวะความเครียด และฮอร์โมนต่างๆ
- การรักษาความสะอาดที่ไม่เพียงพอ จึงทำให้สิ่งสกปรก และไขมันต่างๆ เข้าไปอุดตันรูขุมขน
ตอนนี้เราก็ได้รู้ที่มาของเจ้าสิวอุดตันกันแล้วต่อไปจะเป็นเรื่องของวิธีการดูแลรักษาผิวหน้าให้ห่างไกลจากเจ้าสิวพวกนี้ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ยากเลย…
4 ขั้นตอนพื้นฐานง่ายๆในการดูแลรักษาผิวหน้า
- การล้างหน้าให้ถูกวิธี คือ การล้างตามแนวรูขุมขนดูง่ายๆจากทิศทางขนอ่อนบนใบหน้าเรา
หลีกเลี่ยง: การใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ทำให้ใบหน้าแห้ง ทำให้ผิวระคายเคือง - เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวด้วยการใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว
หลีกเลี่ยง: การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมันมาก - ใช้ยาแต้มสิวที่เหมาะกับสิวที่ขึ้นแต้มเป็นประจำ
หลีกเลี่ยง: การบีบ แกะสิว การขัดผิวหน้า หรือการลอกหน้าเพราะจะทำให้รู้ขุมขุนเปิดกว้างสิ่งสกปรกจะเข้าไปอุดตันรูขุมขนได้ง่ายและเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อตามมา - ปกป้องผิวจากแสงแดด เนื่องจากแสงแดดจะทำให้ผิวแห้งเป็นการกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้นทำให้เกิดเป็นสิวขึ้น
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับการรักษาสิวอุดตัน
เนื่องจากปัญหาสิวอุดตันส่วนหนึ่งมาจากปริมาณน้ำมันในชั้นผิวหนัง จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าหรือเครื่องสำอางที่ไม่ทำให้เกิดความมันบนใบหน้าเพิ่มโดยสามารถสังเกตได้บนฉลากว่า
Non-comedogenic
ยารักษาสิวอุดตันที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาที่มีเภสัชกรให้คำแนะนำนั้นก็พอมีให้หาซื้อได้ทั่วไป
- ยาทาเฉพาะที่เพื่อช่วยเปิดหัวสิว เช่น เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide)
ช่วยรักษาสิวอุดตันและสิวอักเสบหรือที่รู้จักกันในฐานะยาละลายหัวสิว ยี่ห้อที่ทุกคนคุ้นเคยคงจะเป็นยี่ห้อ “Benzac” ซึ่งมีทั้งแบบความเข้มข้น 2.5% และ 5% แถมราคาก็ไม่แพงสามารถปรึกษาและซื้อได้ตามร้านขายยาที่อยู่ในการดูแลของเภสัชกรทั่วไปได้เลย
ผลข้างเคียง: อาจทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง อาจทำให้ผิวแห้งลอกและมีรอยด่างชั่วคราวในบริเวณที่แต้มยา - กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid)
กรดซาลิไซลิกดีที่สุดสำหรับสิวหัวดำและสิวทั่วไป กรดซาลิไซลิกสามารถใช้ได้ทั้งตอนเช้าและกลางคืนเพราะอ่อนโยนกว่าเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ กรดซาลิไซลิกตัวดังที่สาวๆเกือบทุกคนต้องรู้จักอย่างแน่นอนคงหนีไม่พ้น The Ordinary – Salicylic 2% Solution อย่างแน่นอน
ด้วยราคาเพียงหลักร้อยพร้อมรีวิวอีกมากมายคงเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ใครมีปัญหาสิวอุดตันคงต้องมีติดบ้านไว้อย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้อาจจะหายากสักนิดแต่เริ่มมีอีกหลายๆแบรนด์มีผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันออกมาวางขายกันแล้ว
ผลข้างเคียง: ผิวหนังอาจะระคายเคืองหรือลอก อาจมีผื่นคันและอาการแสบ ถ้ามีอาการแพ้ควรพบแพทย์ทันที - ยาทา กลุ่ม “อนุพันธ์ของกรดวิตามินเอ” เช่น Tretinoin(เตรทติโนอิน) หรือ Retinoic Acid (trans-retinoic acid, vitamin A acid) สามารถลดการสร้างคอมีโดน(comedone) ลดการทำงานของต่อมไขมันและกระตุ้นการเกิดการพลัดของเซลล์ผิว ทำให้สิวอุดตันชนิดสิวหัวปิดกลายเป็นสิวหัวเปิดและหลุดออกและยังช่วยลดการเกิดการอักเสบของสิวและลดการเกิดสิวอุดตันที่อาจจะเกิดขึ้นใหม่ได้ ยาชนิดนี้ตัวดังที่ใครๆก็รู้จักแุถมหาซื้อง่ายคงเป็น Provamed Acne Retinol-A Gel ที่มี Vitamin A-Retinol ที่ออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพช่วยลดการอุดตันของสิว
ผลข้างเคียง: อาจทำให้การระคายเคืองทำให้หน้าแห้งและผิวไวต่อแสง และห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ - “ยาประเภทฮอร์โมน” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่เป็นสิวปานกลางจนไปถึงขั้นรุนแรง
ซึ่งหลายๆคนคงทราบกันว่า”ยาคุม” สามารถทานเพื่อรักษาสิวได้แต่ยาประเภทนี้ควรใช้โดยมีแพทย์และเภสัชกรคอยแนะนำเพราะแต่ละยี่ห้อก็จะมีส่วนผสมต่างกันดังนั้นไม่ใช่ยาคุมทุกยี่ห้อที่สามารถทานเพื่อรักษาสิวได้ ซึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมจากสาวๆนั้นก็มีอยู่หลายยี่ห้อซึ่งขอยกตัวอย่างด้วยยี่ห้อYasmin(ยาสมิน)ซึ่งสามารถปรึกษาและหาซื้อได้ตามร้านขายยาภายใต้การดูแลของเภสัชกร Yasmin(ยาสมิน)เป็นยาเม็ดคุมกําเนิดชนิดฮอร์โมนต่ำมีฤทธิ์ลดการเกิดสิว ขนดก และใบหน้ามัน (ลักษณะที่ค่อนข้างเด่นในเพศชาย) พูดให้ง่ายคือถ้านำมาใช้ในเพศหญิงจะไปช่วย ในการต้านการเป็นสิว ขนดกได้นั่นเอง
ผลข้างเคียง: อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลงหรืออาจมีผลกับประจำเดือน
ข้อควรระวัง
เนื่องจากยารักษาสิวอาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง การใช้ยารักษาสิวต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์และเภสัชกรเท่านั้น การดูแลรักษาสิวอุดตันที่เป็นน้อย ๆ หรือปานกลาง สามารถที่จะดูแลตัวเองได้โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเป็นสิวที่ไม่ทำร้ายผิวและอ่อนโยน
แต่หลายๆคนคงรู้สึกรำคาญใจกับเจ้าตุ่มนูนๆพวกนี้บนใบหน้า
จะแต่งหน้าปกปิดก็ไม่เรียบเนียน หลายๆคนจึงเลือก “กดสิว” พวกนี้ออกเพื่อให้ใบหน้าเรียบเนียนอย่างรวดเร็ว
การกดสิว
การกดสิวเป็นขั้นตอนการรักษาที่ช่วยให้สิวหายเร็วขึ้นแต่มีความรุนแรงและอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นในภายหลังได้ แม้ว่าการกดสิวจะช่วยกำจัดสิวอุดตันได้อย่างรวดเร็วแต่ในขณะเดียวกันก็อาจเสี่ยงเกิดอาการอักเสบรุนแรงได้เพื่อความปลอดภัยการกดสิวควรต้องอยู่ใต้การดูแลของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นไม่ควรบีบกดด้วยตัวเองเพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อการเกิดรอยหลุมรอยดำรอยแผลเป็น
ซึ่งสำหรับคนที่มีปัญหามากๆอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาพอสมควรขึ้นอยู่กับปริมาณและความรุนแรงของปัญหาสิว
การกำจัดสิวอุดตันโดยผู้เชี่ยวชาญด้วยวิธีอื่นๆ
- การกดสิวหลังกดสิวอุดตันออก จะทำให้เกิดรอยแดงและรอยแผลเป็นและทำให้รูขุมเปิดกว้าง
- การใช้กรดผลไม้ผลักดันลงใต้ผิวเพื่อผลัดเซลล์ผิวให้หัวสิวหลุดออกมาได้ง่ายขึ้น
- การกรอผิวด้วยผลึกคริสตัลขนาดเล็กกรอลอกผิวบริเวณที่เป็นสิว ทำให้สิวที่อุดตันบริเวณนั้นหลุดออกไป
สรุปสิวอุดตัน
จริงๆแล้วเราสามารถดูแลใบหน้าของเราได้ง่ายๆให้ห่างไกลจาก”สิวอุดตัน”เพียงแค่หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าบริเวณที่เป็นสิว เพื่อไม่ทำให้เกิดการกระจายของเชื้อแบคทีเรียและระคายเคือง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ ได้รับมาตรฐาน ซึ่งมีคุณสมบัติควบคุมความมันบนใบหน้าไม่ควรแคะแกะเกาเพราะจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้ หมั่นรักษาความสะอาดบนใบหน้า พักผ่อนให้เพียงพอและดูแลระบบขับถ่ายให้ดีแค่นี้ก็สามารถลดคสามเสี่ยงในการเกิดสิวอุดตันได้แล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก
(ดร.ภญ.จิรวรรณ)www.siamrath.co.th
www.pobpad.com
www.pleasehealth.com โดย อ.ภญ.หรรษา มหามงคล