เครื่องสำอางจากญี่ปุ่นมักจะขายดีเป็นอันดับต้น ๆ ในประเทศไทย เนื่องจากว่าสาวไทยนั้นได้รับอิทธิพลการเมคอัพมาจากญี่ปุ่นค่อนข้างมาก เเละถ้าหากจะพูดถึงคุณภาพของเครื่องสำอางจากประเทศญี่ปุ่นเเล้วล่ะก็ ต้องถือว่าอยู่ในระดับที่ดีเป็นอย่างมาก ทั้งเเพคเกจจิ้งต่าง ๆ
รวมถึงส่วนผสมของเครื่องสำอางเเต่ละตัว ก็ค่อนข้างที่จะพิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุต่าง ๆ ในวันนี้ผู้เขียนจึงขอเเนะนำเครื่องสำอางที่สาวญี่ปุ่นเขาขาดกันไม่ได้เลย เพื่อช่วยให้ฟินิชลุคดวงตากลมโตบ้องเเบ๊วน่ารัก ซึ่งก็คือมาสคาร่านั่นเองล่ะค่ะ ว่าเเต่จะมีมาสคาร่าจากญี่ปุ่นรุ่นไหนที่เข้าเส้นชัยกันบ้างนั้นเราไปดูพร้อมกันเลย!
- 1. #5 มาสคาร่าเเบรนด์ญี่ปุ่นที่ควรต้องลองสักครั้ง
- 2. มาสคาร่าญี่ปุ่น SHISEIDO Majolica Majorca Lash Expander
- 3. มาสคาร่าญี่ปุ่น KISS ME Heroine Make Long & Curl Mascara Super Waterproof
- 4. มาสคาร่าญี่ปุ่น Kate black feather lash mascara
- 5. มาสคาร่าญี่ปุ่น Fairy Drops Platinum Mascara Waterproof T2 Volume Curl
- 6. มาสคาร่าญี่ปุ่น Canmake Quick Lash Curler
- 7. บทส่งท้าย
#5 มาสคาร่าเเบรนด์ญี่ปุ่นที่ควรต้องลองสักครั้ง
สำหรับตัวต่อไป ชื่อก็บอกอยู่แล้วนะคะว่า “ ยาว ยาว ยาว ” 5555 แปลซะ ดังนั้นตัวนี้จึงตอบโจทย์เรื่องความยาววววววของขนตาค่ะ นอกจากนี้ โดยส่วนตัวรู้สึกว่าปัดแล้วมันไม่หนักตาเท่า Lash King ด้วยนะคะ ความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเจ้านี้ก็คือแปรงหวีซี่ละเอียด
ชอนไชขนตาทุกเส้น
รีวิวจากคุณ : 4102516 คลิกอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Pantip ใช้มาหลายอันแล้วค่ะ ปัดง่าย ไม่เป็นก้อน ไม่แพนด้า คอนเฟิร์มว่าปัดแล้วเด้ง ยาว ติดทนนานยาวจรดค่ำ ตัวนี้เน้นยาวไม่เน้นหนานะคะ ปกติเราเป็นคนที่ขนตายาวและหนาแต่ตก พอใช้ตัวนี้แล้วงอนเด้งไม่มีตกเลยค่ะ แอบล้างออกยากหน่อย ต้องใช้อายรีมูฟเวอร์นะคะ
รีวิวจากคุณ : ismuffin คลิกอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Vanilla |
เป็นมาสคาร่าลูกรักที่ใช้ซ้ำ ๆ มาหลายแท่งมาก คือใช้ตัวไหนก็จะแพนด้าตลอด ยกเว้นตัวนี้ตอบโจทตอบโจทย์มาก แต่ชอบรุ่น volume &curl มากกว่าเพราะส่วนตัวขนตาค่อนข้างยาว แต่เส้นบางๆเล็ก ๆ ใช้อีกรุ่นคือขนตาแผ่ ไม่ไหลไม่เป็นก้อนดีมาก
รีวิวจากคุณ : jenese คลิกอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Vanilla ใช้ดี ล็อคขนตาให้งอนไม่ตกได้ยาวนานมาก ให้ความยาวได้พอสมควร ไม่เพิ่มความหนา แต่ส่วนที่สุดยอดคือความล้างออกยาก ไม่มีการเลอะใต้ตาแน่นอน
รีวิวจากคุณ : Auntie AnT คลิกอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Cosmenet.in.th |
เป็นคนขนตาตกง่าย แต่ของ kate ปัดแล้วขนตาเด้งสวยเรียงเส้นเป็นธรรมชาติ ดูไม่เยอะไม่น้อยจนเกินไป ล้างง่ายแต่ถ้าเป็นคนหนังตามันอาจจะเป็นแพนด้าได้
รีวิวจากคุณ : mareine คลิกอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Cosmenet.in.th คือมันดีมากอะ หลังจากตามหามาสคาร่าดีดีมานาน ราคาถูกและคุณภาพดีเยี่ยม ใช้แล้วขนตาดำยาวมาก ไม่เลอะเทอะ ใช้ง่าย อยู่ได้ทั้งวัน ถ้าใช้หมดแล้วก็จะไปซื้ออีกแน่นอนคะ
รีวิวจากคุณ : Pling.s คลิกอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Daisy.Jeban |
เป็นมาสแคร่าอันเดียวที่ใช้ได้แบบไม่แพนด้า มัน เริสมาก ช่วยให้ขนตาหนาเพิ่ม volume และล้างออกง่าย แพงแต่ใช้ได้นานมาก
รีวิวจากคุณ : missaroma81 คลิกอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Cosmenet.in.th ตอนแรก ๆ ที่ใช้ ชอบมากกกก คือมันช่วยยกขนตามาก ๆ ทั้ง ๆ ที่เราเป็นคนขนตาแข็ง แบะทิ่มลงมาก เราเคยลองไม่ดัด แล้วปัดเลย มันขึ้นอ่ะ แต่ต้องใช้เวลาหน่อย ตัวนี้ช่วยยกขนตามาก และยาว กันน้ำ
รีวิวจากคุณ : kurinjung คลิกอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Vanilla |
เด้งมากกกกก ปัดไปวันแรกน้องทักว่าติดขนตาหรอ คือปกติขนตาเรามันไม่งอน ต่อให้ดัดอีกแปปก็กลับสู่ปกติคือพุ่งลง แต่อันนี้ดัดเสร็จแล้วปัด มันค้างอยู่แบบนั้นตลอด ทนมาก ตอนนี้ติดใจมาก ปัดทุกวัน แต่ต้องล้างด้วยรีมูฟเวอร์เท่านั้น คลีนซิ่งปกติเอาไม่ออก
รีวิวจากคุณ : turbo_baa คลิกอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Vanilla ปัดเรียบร้อยแล้ววว ขนตาเรียงเส้น ดำ และหนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยย ข้อดีอีกอย่างของมาสคาร่าตัวนี้คือกันน้ำหนักมาก ถ้าไม่ใช่คลีนซิ่งสำหรับลบอายเมคอัพ เอานางไม่ออกจ้า (เคยถูจนตาเจ็บมาแล้ว) แล้วคือช่วยล็อกขนตาให้งอนนานตลอดวันเลยด้วย
รีวิวจากคุณ : monrudee s. คลิกอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Jeban |
บทส่งท้าย
เเละทั้งหมดนี้ก็คือมาสคาร่าจากประเทศญี่ปุ่นที่ขายดีที่สุดในไทยที่เราได้รวบรวมมาฝากกันในวันนี้ เชื่อว่าจะต้องคุ้นหน้าคุ้นตากันอย่างเเน่นอนเพราะมาสคาร่าเเต่ละตัวที่เราคัดมานั้น มักจะถูกนำไปรีวิวจากทั้งสาว ๆ ใน Pantip รวมถึงบิวตี้บล็อกเกอร์ชั้นนำของบ้านเราที่นำไปพูดถึงอยู่บ่อย ๆ
เนื่องจากว่ามาสคาร่าของญี่ปุ่นนั้นส่วนใหญ่จะถูกนำเข้ามาราคาจึงค่อนข้างที่จะสูงตามไปด้วย ดังนั้นหากใครที่ชื่นชอบเครื่องสำอางญี่ปุ่นก็อาจจะต้องควักเงินมากขึ้นสักหน่อย เเต่เมื่อเทียบกับคุณภาพเเล้วก็ต้องถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปอย่างเเน่นอนค่ะ
Write a comment