รู้จักสิวของตัวเองมากน้อยแค่ไหน? มาเช็คสิวกัน

รู้จักสิวของตัวเองมากน้อยแค่ไหน? มาเช็คสิวกัน

สาวๆ ทุกคนคงเคยมีปัญหาเรื่องสิวไม่ว่าจะปัญหาเล็กๆ แค่พอมากวนใจหรือปัญหาใหญ่ๆ รักษายากจนเป็นปัญหาน่าหนักใจ

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องสิวเป็นปัญหาที่อยู่คู่กับทุกเพศทุกวัยจริงๆ ถึงขนาดที่ว่ามีวลีเด็ดเกิดขึ้นมาอย่าง


“ไม่มีสิวเป็นลาภอันประเสริฐ”

ถึงแม้สิวอาจจะพบมากในวัยรุ่น เนื่องจากมีปริมาณฮอร์โมนที่ไปกระตุ้นการสร้างน้ำมันจำนวนมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิดขึ้นกับในคนในช่วงวัยอื่นๆเพราะปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวนั้นไม่ได้มีเพียงฮอร์โมนเพียงอย่างเดียว

แต่ทุกปัญหามีทางแก้เสมอแต่ปัญหาส่วนใหญ่คือยิ่งแก้ยิ่งบานปลาย รักษาหายแล้วก็กลับมาเป็นอีก หรือแม้กระทั่งพอเป็นสิวแล้วปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาก็มีซึ่งก็เกิดจากหลายปัจจัย เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดเราต้องทำความรู้จักกับเจ้าสิวพวกนี้ซะก่อน 

สิว, สกินแคร์

จากที่หลายๆ คนคงมีคำถามกวนใจเหมือนๆ กันว่า สิวเกิดจากอะไรกันแน่

รักษาความสะอาดดีเยี่ยมก็แล้ว หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางก็แล้ว สกินแคร์ที่เค้าว่าดีก็ลองมาหมด แต่สิวก็ยังไม่หายสักที ?

วันนี้เรารวบรวมข้อมูลจากหลายๆ ที่นำมาสรุปให้ทุกคนได้เข้าใจอย่างง่ายๆ เพื่อทุกคนจะสามารถสังเกตและสำรวจสิวของตัวเองอีกครั้งเพื่อค้นหาวิธีที่ตรงจุดที่สุดเพราะถ้าเราไม่ทราบว่าปัญหาสิวของเราเป็นสิวประเภทไหนก็อาจทำให้เราเลือกผลิตภัณฑ์หรือวิธีรักษาที่ไม่เหมาะสมได้ 

สิวเกิดจากการอุดตันของ คอมีโดน (comedonesในรูขุมขน ………
มาถึงจุดนี้ ทุกคนคงเลิ่กลั่กว่า ไอ้เจ้าคอมีโดน (comedonesนี่คืออะไร?
คอมีโดนคือสารเหนียวที่เกิดจากการรวมตัวของ น้ำมัน + ขนอ่อน + เซลล์ผิวที่ลอกตัว +แบคทีเรีย 
ในกรณีของผิวที่มีสุขภาพดี ไม่มีปัญหาผิว ไมโครโคมีโดนจะสลายไปเองตามธรรมชาติ 

ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดคอมีโดน (comedones) ประกอบด้วยสามส่วนหลักคือเซลล์ผิวที่หลุดลอก,น้ำมันที่ผลิตโดยต่อมไขมัน และขนอ่อน 

ซึ่งมาถึงตรงนี้ยังมีปัจจัยอีกหลายๆ อย่างที่เป็นตัวกระตุ้นซึ่งพันธุกรรมยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่กระตุ้นให้การเกิดสิวแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล นอกเหนือจากนั้นยังมีปัจจัยอื่นๆอีกเช่น ยาบางชนิดการสูบบุหรี่ความเครียดและการดูแลผิวอย่างไม่ถูกวิธีล้วนกระตุ้นให้เกิดสิวได้ อีกทั้งยังมีหลักฐานยืนยันว่าอาหารมีผลต่อการเกิดสิว 

สิว, สกินแคร์

 

โดยทั่วไปเราแบ่งสิวออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ 

1. สิวอุดตัน

สิวหัวดำหรือสิวอุดตันหัวเปิด (Blackheads) 
มีลักษณะเป็นตุ่มนูนสามารถมองเห็นได้เป็นก้อนไขมันเป็นสีดำ มักจะกวนใจสาวๆ เสมอเวลาแต่งหน้าแต่ไม่ร้ายแรงสามารถรักษาได้ง่ายโดยการกดออกหรือรักษาโดยใช้ยาละลายสิว 

สิวหัวขาวหรือสิวอุดตันหัวปิด (Whiteheads) 
จะเห็นเป็นตุ่มนูนดันผิวจนนูนขึ้นมาเพราะหาทางออกไม่ได้ เมื่อใช้มือลูบจะรู้สึกสะดุดก้อนเล็กๆ มีรากลึกบีบออกจาก สิวประเภทนี้เมื่อปล่อยไว้นานๆ อาจจะกลายเป็นสิวอักเสบชนิดต่างๆ ได้ 
ไม่แนะนำให้บีบเองเป็นอย่างยิ่งเพราะจะไปกระตุ้นอาการอักเสบและกลายเป็นสิวอักเสบอย่างรวดเร็วและอย่างร้านแรงที่สุดจะตามมาด้วยหลุมสิวที่รักษายากสุดๆ แต้มยาเบาๆ ก่อนนอนปลอดภัยที่สุดสำหรับสิวประเภทนี้ 

สิวเสี้ยน/สิวอุดตัน (Comedone) 
มีลักษณะเป็นเสี้ยนตามชื่อ การเกิดมีลักษณะคล้ายกับการเกิดสิวอุดตัน คือ เกิดจากความผิดปกติของผิวหนังบริเวณรูขุมขนบวกกับมีการสะสมของขนอ่อนในรูขุมขนนั้นๆ กระจุกขนอ่อนเหล่าน้ีนี่เองที่ทำให้เกิดลักษณะเป็นเสี้ยนสิวสีขาวๆ ใครเป็นสิวแบบนี้แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการใช้ยาในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคือง 

 2.สิวอักเสบ (inflammatory acne) 

 

สิวอักเสบแดงเป็นก้อน (Nodular Acne) 

เป็นสิวอักเสบชนิดหนึ่ง ลักษณะเป็นตุ่มแดงขนาดใหญ่ใต้ผิวหนัง เป็นก้อนแข็งๆ เมื่อสัมผัสจะรู้สึกเจ็บ แต่ไม่แนะนำให้สัมผัสน่ะ เพราะแบคทีเรียและน้ำมันที่กระจายใต้ผิวหนังทำให้สิวจะอักเสบนานหลายวัน สิวประเภทนี้พอขึ้นปุ๊ปแนะนำให้พบแพทย์ทันที เพราะเจ้าสิวชนิดนี้เหละเป็นที่มาของแผลเป็นจากสิวที่ต้องรักษากันต่อไปอีกนาน 

สิวชนิดตุ่มนูนแดง (Papule) 

สิวชนิดนี้เป็นตุ่มแดงเล็กๆ เจ็บหน่อยๆ ซึ่งพัฒนามาจากสิวอุดตัน ส่วนมากจะสิวอักเสบเล็กน้อย 
เมื่อเริ่มมีอาการแบบนี้ต้องเริ่มดูแลรักษาล้างหน้าอย่างอ่อนโยนงดสครับหน้าหรือใดๆ ที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองแต้มสิวๆ เบาอย่างอ่อนโยน 

สิวหัวหนอง (Pustule) 

สิวแบบนี้เป็นตุ่มแดงขึ้นมาแล้วอักเสบจริงเจ็บจริงปวดจริงเพราะเป็นสิวที่มีอาการอักเสบมากกว่าชนิดอื่นแถมมีหัวหนองมาให้เห็นเพิ่มเติม อาจจะเกิดจากสิวที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน 
แต่ขึ้นมาแล้วก็ต้องรักษากันอย่างอ่อนโยนไม่ว่าจะล้างทายาใดๆ ห้ามสัมผัสหรือสครับหน้าเด็ดขาด 
แนะนำพอเริ่มเป็นปรึกษาคุณหมอดีที่สุดหรือถ้าใครทนไหวแต้มยาก่อนนอนจนสิวยุบไปเองได้เหมือนกัน 

สิวหัวช้าง (Acne Conglobata) 

สิวชนิดนี้บอกเลยว่ารุนแรง มักเป็นในผู้ที่มีผิวหน้ามันมากหรืออาจจะเป็นด้วยกรรมพันธุ์สิวชนิดนี้มีลักษณะเป็นสิวอักเสบรุนแรงทุกชนิดขึ้นรวมกันแบบแน่นๆ เมื่อหัวสิวมักแตก มักมีหนองออกเยอะ และมีเลือดไหลเยอะด้วย ใครเป็นอยู่อย่าพยายามรักษาด้วยตัวเองเพราะมีโอกาสลุกลามสูงควรพบแพทย์ด่วน 

แต่ก็มีสิวอีกชนิดหนึ่ง 
ที่จะเรียกว่าสิวก็ไม่ใช่ซะทีเดียวเพราะไม่ได้เกิดขึ้นมาจากเหตุปัจจัยเดียวกัน
หรือหลายๆ คนอาจจะรู้จักในชื่อเรียก สิวผด หรือสิวเทียม บ้างก็เรียกว่าสิวหิน 

แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่สิว
แต่เป็นเนื้องอกของต่อมเหงื่อ
 เกิดจากเมื่อเหงื่อไม่สามารถออกมาได้หมดสามารถเห็นได้เป็นตุ่มเล็กๆ ตุ่มพวกนี้จะชัดเจนขึ้นเมื่อตากแดดร้อนๆ มีลักษณะเเข็งๆ ส่วนใหญ่จะเกิดบริเวณรอบตา เพราะต่อมเหงื่อจะเยอะและเมื่อต่อมเหงื่ออุดตันจึงเกิดสิวผดขึ้นเป็นลักษณะแข็งๆ เม็ดเล็กๆ นอกจากนี้อาจจะมีอาการเห่อแดงเมื่อเจอแสงแดดจัดๆ วิธีดูแลง่ายๆ คือเมื่อเจอแดดแรงให้ล้างหน้าบ่อยๆ เพื่อรักษาอุณหภูมิหรือถ้าใครมีตุ่มหนองหรือผดเห่อขึ้นมาร่วมด้วยควรพบแพทย์ 

แต่เหตุผลที่ทำให้เรื่องสิวกลายเป็นเรื่องไม่จิ๋วคงเป็นเรื่องของอาการสิวเรื้อรังที่หลายๆ คนกำลังเผชิญหน้าอยู่ตอนนี้ซึ่งก็เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ส่วนใหญ่จะเกิดจากการระคายเคืองของผิวหนัง การติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนหรือปัจจัยอื่นๆ ทำให้เรื่องสิวกลายเป็นปัญหาที่ไม่รู้จบ 

สิว, สกินแคร์

 สิวเรื้อรัง

การระคายเคืองของผิวหนังนั้นเกิดขึ้นได้ง่ายมากๆ โดยที่หลายคนไม่รู้ตัว 
เช่นการล้างหน้าแบบย้อนรูขุมขน การเช็ด ขัดถู หรือสัมผัสหน้าบ่อยๆ รวมไปถึงการใช้สารที่มีคุณสมบัติระคายเคืองต่อผิวโดยเฉพาะครีมหน้าใสที่มีส่วนผสมไม่เป็นมิตรกับผิว ดูเผินๆ หน้าใสจริงในระยะสั้นๆ แต่ส่งผลไม่ค่อยดีนักในระยะยาวต่อให้ภายนอกจะเห็นหน้าใสขนาดไหนแต่จริงๆ แล้วโครงสร้างผิวไม่แข็งแรงและไม่ได้รับการฟื้นฟูอย่างถูกต้อง อีกหนึ่งปัจจัยหลักๆ ในการทำให้เป็นสิวเรื้อรังคือการบีบสิวซึ่งทำให้โพรงรูขุมขนบาดเจ็บเสียรูปร่าง ในช่วงที่ร่างกายกำลังอยู่ในกระบวนการซ่อมแซมแผลโดยสร้างเซลล์ผิวใหม่แต่ยังไม่ทันจะเข้าที่เข้าทางเราไปบีบมันมันก็เสียหายอีก …
ทำให้เป็นสิวเรื้อรังไม่หายสักที…

 

แต่จริงๆ แล้วการสังเกตและสำรวจสิวของตัวเองนั้นไม่ใช่แค่จะทำให้เราหาวิธีรักษาได้อย่างถูกต้องแล้วบางครั้งสิวที่ขึ้นในแต่ละจุดบนร่างกายเรานั้นสามารถเป็นสัญญาณบอกถึงสภาวะและปัญหาที่กำลังก่อตัวขึ้นในร่างกายของเราได้อีกด้วย 

เมื่อสิวปรากฏบนตำแหน่งไหนของใบหน้าไม่ได้หมายความว่าเกิดความผิดปกติจากรูขุมขนเท่านั้น แต่ยังสามารถแสดงถึงการส่งสัญญาณเตือนว่ากำลังมีความผิดปกติกำลังเกิดขึ้นกับร่างกายอีกด้วย เช่น 

สิวขึ้นบริเวณหน้าผาก – ระบบทางเดินอาหาร
สิวขึ้นบริเวณระหว่างหัวคิ้ว – ตับ ภูมิคุ้มกัน 
สิวขึ้นบริเวณจมูก – หัวใจ ระบบไหลเวียนเลือด ฮอร์โมน 
สิวขึ้นบริเวณแก้ม – ระบบหายใจ 
สิวขึ้นบริเวณคาง ริมฝีปาก – ฮอร์โมน รังไข่
เป็นต้น

สรุปเรื่องสิวๆรักษาให้หายได้!

ปัจจุบันปัญหาสิวยังคงเป็นปัญหาสุดฮิตในทุกเพศทุกวัย ถึงแม้จะมีทางเลือกในการรักษามากมายแต่
บางครั้งความใจร้อนอยากหายเร็วๆหรือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ตอบโจทย์ปัญหาของเราโดยความเข้าใจผิดหรือรู้เท่าไม่ถึงการของตัวเราเองนั้นอาจทำให้การรักษาสิวไม่ประสบความสำเร็จได้ เพราะฉะนั้นถ้าเรารู้ว่าสิวที่เราเป็นอยู่นั้นเป็นประเภทไหนเราจะสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์หรือปรึกษาเภสัชกรสำหรับการรักษาที่ถูกต้องตรงประเด็น แต่ทั้งนี้เพื่อนๆต้องใจเย็นๆค่อยๆรักษา ไปตามกระบวนการอย่าพยายามหาทางลัดโดยเลือกวิธีรักษาสิวของตัวเองอย่างตรงจุดและถูกวิธีหลีกเลี่ยงนิสัยที่นำไปสู่การทำให้เกิดสิวเรื้อรัง แค่นี้หน้าใสไร้สิวก็เป็นเป้าหมายที่ไม่ไกลเกินเอื้อม

 

ขอบคุณข้อมูลจาก
www.pharmabeautycare.com/
www.thairath.co.th

สกินแคร์Latest articles in the category