สวัสดีค่ะทุกคน!!
วันนี้เรามาบอกเพื่อนที่กำลังคิดจะสักปาก หรือ พึ่งไปสักปากกันมาที่กำลังสงสัยว่า สักปากมากี่วันถึงจะหายดี และสีปากจริงจะสามารถเห็นได้ในช่วงกี่วันหลังสัก วันนี้เรามีคำตอบมาบอกเพื่อนๆ พร้อมทั้งวิธีดูแลริมฝีปากง่ายๆ สามารถทำได้แบบชิลๆ และ สิ่งที่คนสักปากควรหลีกเลี่ยงเด็ดขาด เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อที่ริมฝีปากที่สักมาจะได้หายเร็วขึ้น ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยดีกว่า!!
สักปากกี่วันหาย!! คำถามในใจที่หลายคนสงสัย ?
โดยปกติแล้วคนที่สักปากมาใหม่ๆ จะมีอาการปวดและเจ็บที่ริมฝีปากประมาณ 1-2 วันหลังจากสักและอาการจะหายไปเอง และริมฝีปากของเราจะลอกหรือผลัดสีที่สักมาออกประมาณ 5-7 วันหลังจากสักและเมื่อสีที่สักมาลอกออกหมด ก็จะเผยสีจริงของริมฝีปากที่สักมา
โดยสีนั้นจะอ่อนลงจากที่สักปากแรกๆ นิดหน่อย โดยรวมๆ แล้วสักปากมาจะใช้เวลาประมาณ 1สัปดาห์ หรืออาจจะเกินจากนั้นแล้วแต่บุคคล และสภาพผิวบริเวณริมฝีปากด้วย
และในบางคนที่หายดีแล้วอาจจะมีสีที่ริมฝีปากยังไม่ค่อยสม่ำเสมอ เพราะต้องรอให้ริมฝีปากมีการผลัดเซลล์ผิวให้เสียก่อนจึงจะได้สีจริง ระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือนเลยนะ ในบางคนหมออาจจะนัดไปสักเพิ่ม เพื่อเพิ่มความเข้มของสีที่ริมฝีปาก เพื่อที่สีจะได้ติดทนนานมากขึ้น 1-3 ปีเลย!!
ต่อไปเราไปดูสิ่งที่คนสักปากมาควรหลีกเลี่ยง เพื่อแผลที่สักมาจะได้หายไวๆ จะได้สวยเร็วขึ้น!!
สิ่งที่ควรเลี่ยงเมื่อสักปาก ถ้าอยากหายเร็ว!!
การที่แผลจากการสักปากโดนน้ำ จะทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อได้ แม้แผลจะมีขนาดเล็กมากก็ตาม และที่สำคัญยังทำให้แผลหายช้าด้วย ไม่ควรใช้น้ำประปาทำความสะอาดริมฝีปาก ควรใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็ดทำความสะอาด จะดีที่สุด!!
จะทำให้แผลหายช้าและยังทำให้เป็นแผลใหญ่เพิ่มขึ้น และนั้นอาจทำให้สีของริมฝีปากมีความไม่สม่ำเสมอเมื่อลอกเสร็จ
การทานอาหารรสจัดในที่นี้หมายถึงรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด การที่ทานอาหารรสเผ็ดและเปรี้ยวมากๆ อาจทำให้เกิดการอักเสบได้ เพราะรสจัดเหล่านี้จะทำให้มีอาการแสบร้อนที่ริมฝีปาก ดังนั้นควรเลี่ยงไปก่อน หายดีแล้วค่อยกลับมาทานรสจัดแบบที่ชื่นชอบ!!
อาหารหมักดองเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะกับคนที่เป็นแผลหรือคนที่ทำศัลยกรรมมาอย่างยิ่ง และแน่นอนว่าสักปากก็ไม่ควรทานอาหารหมักดอง เพราะจะทำให้แผลอักเสบ ติดเชื้อ ไปจนถึงเป็นหนองได้เลย ดังนั้นควรเลี่ยงไปก่อนรอจนแผลหายดีแล้วจึงค่อยกลับมาทานอีกครั้ง แผลจะได้หายเร็วๆ!!
ช่วงแรกที่สักปากมาใหม่ๆ ไม่ควรทาลิปสติกที่มีสี หรือมีสารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เพราะจะทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อริมฝีปากได้ แผลอาจจะนานหาย หรือ อาจจะแพ้ได้ เพราะตอนสักปากมาผิวบริเวณริมฝีปากจะมีความบอบบางมากๆ สิ่งที่ควรใช้คือ การทาวาสลีน หรือ เจลบำรุงริมฝีปากแบบไม่มี ไม่มีกลิ่น จะดีที่สุด!!
ต่อไปเราไปดูบทสรุปกันว่าถ้าหากเราดูแลริมฝีปากหลังสักอย่างเคร่งครัด และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่กล่าวมาข้างต้น แผลจากการสักปากจะหายเร็วขึ้นจริงไหม!!
สรุป หากดูแลตัวเองหลังสักปาก แผลจะหายเร็วใช่ไหม?
การดูแลริมฝีปากหลังสักอย่างถูกวิธีผลลัพธ์ที่ได้ก็จะดีตามไปด้วย และแน่นอนว่าถ้าสุขภาพริมฝีปากแข็งแรงสุขภาพดีแผลที่สักก็จะหายเร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้เช่น เช่น อาการอักเสบบวมแดง หรือ ตุ่มใสที่มักเกิดจากน้ำเหลืองไม่ดี หรือได้รับเชื้อโรคจากสิ่งเหล่าภายนอก
ดังนั้นการดูแลริมฝีปากอย่างเคร่งครัดและเลี่ยงสิ่งที่เสี่ยงออกไป จะทำให้แผลหายเร็วขึ้นแน่นอนอีกทั้งยังได้ริมฝีปากที่สวยอวบอิ่ม สีก็จะมีความสม่ำเสมอ ให้คุณสวยพร้อมเฉิดฉาย!!
จบสาระวันนี้แล้ว ไว้เจอกันในสาระหน้านะคะ บ๊ายบาย!!
Write a comment