ผิวเปล่งปลั่ง แลดูสุขภาพดีด้วยเซรั่มว่านหางจระเข้ 2 สูตรใหม่จากแบรนด์ Smooto

         ว่านหางจระเข้ของดีของไทย

         ว่านหางจระเข้ เป็นพืชชนิดนึงที่มีคุณสมบัติหลายอย่าง แต่หลัก ๆ ก็จะเป็นเรื่องการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ล็อกผิวให้อิ่มน้ำ ทำให้ผิวของเรากลับมาเนียนนุ่ม ซึ่งทุกวันนี้ก็มีการนำว่านหางจระเข้ไปเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง เครื่องดื่ม อาหาร อันนี้คือเรื่องจริงนะถ้าเอาไปสกัดก็คือสามารถกินได้ รวมไปถึงการนำมาทำเป็นสกินแคร์และด้วยความก้าวหน้าทางเวชกรรมก็ทำให้เราสามารถนำเอาคุณสมบัติของว่านนี้มาย่อให้อยู่ในรูปแบบของเซรั่มเพื่อให้สามารถหยิบมาใช้ง่าย บำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกมากขึ้น โดยวันนี้เราจะมาพูดถึงผลิตภัณฑ์ที่ดังมาก ๆ รีวิวกันสนั่นหวั่นไหวเลยก็คือ เซรั่มว่านหางจระเข้จากแบรนด์ Smooto นั่นเอง ซึ่งเขาก็ได้ผลิตเซรั่มว่านหางออกมาในหลายสูตร ดังนั้น วันนี้เราจะมาพูดถึงเซรั่มของแบรนด์นี้กันว่าสูตรไหน เหมาะกับคนสภาพผิวแบบไหน

เซรั่มว่านหางจระเข้ Smooto 2 สูตรคืนความชุ่มชื้นสู่ผิว

สูตร 1) Smooto Aloe-E Snail Bright Gel

        เซรั่มว่านหางจระเข้เนื้อเจลใสสีเขียวอ่อน ๆ เป็นจุดพิเศษของแบรนด์นี้ ส่วนประกอบที่สำคัญ ๆ คือ ว่านหางจระเข้ที่   เข้มข้นถึง 99.5 % เรียกว่าเหมือนเด็ดจากต้นแล้วเอามาทาผิวเลยก็ว่าได้ ทำให้มีประสิทธิภาพขั้นสูงสุด ต่อมาคือเมือกหอยทาก สารสกัดสำคัญที่เมื่อทำงานร่วมกับว่านหางแล้วจะทำให้ผิวของเรานุ่มชุ่มชื้นจนเกินบรรยายเลย นอกจากนี้ก็ยังมีวิตามินซี และ ไฮยาลูรอน ซึ่งในส่วนประกอบเหล่านี้จะมอบความเต่งตึง และความขาวใส แลดูเปล่งปลั่งดูมีออร่าฉ่ำวาวให้ผิวของเราด้วย สำหรับสูตรนี้ต้องบอกว่าเหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวใครที่แห้งตึงง่าย ผิวหน้าไม่ค่อยผลิตน้ำมัน ผิวติดสารมาจนเกิดการระคายเคือง หรือผิวที่แพ้อะไรง่าย ๆ สูตรนี้แนะนำเลยเอามาลูบ ๆ ตบ ๆ ใส่หน้าจะฟินมาก เพราะรู้สึกว่าผิวของเราได้รับการปลอบประโลมอย่างชัดเจน สำหรับเซรั่มว่านหางจระเข้สูตรนี้ราคาอยู่ที่ 39 บาท ปริมาณสุทธิ 10 มิลลิลิตร

ข้อแนะนำในการใช้

1. สามารถผสมสูตรนี้กับครีมกันแดดที่เนื้อบางเบาได้ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นและสามารถปกป้องผิวของเราระหว่างวันที่อาจต้องไปเจอกับแสงแดดจัด ๆ
2. สามารถนำไปแช่เย็นแล้วนำมามาร์กหน้าได้ ถ้าวันไหนที่รู้ว่าหน้าเราโทรมมาก เหมือนไปผ่านสมรภูมิรบมาก็ให้โบกไว้หนา ๆ แล้วก็ค่อย ๆ ลูบ ๆ ตบ ๆ จนมันซึมเข้าสู่ผิว ทำหลังอาบน้ำรับรองว่าเห็นผล
3. ใครผิวรอบดวงตาคล้ำ ถุงใต้ตาใหญ่สามารถบีบเซรั่มว่านหางจระเข้นี้ใส่สำลีแล้ววางตรงถึงใต้ตาได้ ไม่มีสารอันตราย แถมยังได้อารมณ์แบบมาร์กรอบดวงตาด้วย ตื่นมาหน้าจะได้อิ่มฟูต้อนรับวันใหม่

รีวิวจากผู้ใช้จริง

    ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ไม่แห้งตึง ล้างออกง่าย (หลังจากที่พอกนอนไปในตอนกลางคืน) คะแนน 10/ 10สำหรับตัวนี้กอล์ฟโอเคเลยค่ะ ไม่แพ้แถมยังมีฝาปิดมาให้ด้วยแหนะ พกพาไปทาข้างนอกสะดวกสุดๆ เอาเต็มไปเล๊ยยย
รีวิวจาก jaban: Golfployanong อ่านรีวิวทั้งหมดคลิก

         ส้มก็ลองเอาเจลว่านหางจระเข้ตัวนี้ มาลองทาผิวดูหลังอาบน้ำเช้าเย็นปรากฏว่าทาง่ายเพราะเนื้อเจลเค้าค่อนข้างบางเบา เกลี่ยและซึมได้ไว ที่สำคัญคือไม่รู้สึกเหนียวเหนอะ เพราะมันจะซึมเข้าผิวไปเลย แล้วยังทำให้ผิวดูเรียบขึ้นด้วยนะ ต้องลองสังเกตดู
รีวิวจาก beautybyorangina: orangina อ่านรีวิวทั้งหมดคลิก

สูตรที่ 2) Tomato Aloe Snail White & Acne Sleeping Serum

        มาถึงเซรั่มว่านหางจระเข้ของ smooto สูตรที่สองที่มาพร้อมนวัตกรรมการดูแลผิวแบบใหม่โดย จะผสานระหว่างพลังกันระหว่างว่านหางจระเข้ และมะเขือเทศ โดยทำออกมาในรูปแบบของสลิปปิ้งมาส์คเซรั่ม เนื้อสัมผัสจะมีความเข้มข้นมาก ๆ แต่ทาแล้วซึมไม่เหนอะหนะผิวหน้าเราแน่นอน สูตรนี้จะมีประสิทธิภาพในการดูแลที่สูงขึ้นจากสูตรแรก สูตรนี้จึงได้เหมาะกับคนที่ผิวหน้าแข็งแรงขึ้นมาในระดับหนึ่ง แต่ต้องการการฟื้นฟูผิวแบบจัดหนัก ด้วยสารสกัดจากมะเขือเทศก็จะสามารถเข้ามาช่วยทั้งในเรื่องของการลดรอยดำ รอยแดง แผลเป็นต่าง ๆ ซึ่งมีต้นตอมาจากการเป็นสิวมาก่อน ต่อมาคือเมือกหอยทาก และทีทรีออยล์  ซึ่งจะเข้ามาทำหน้าที่กระชับรูขุมขนของเราให้เล็กลงจะได้ไม่ต้องกักเก็บสิ่งสกปรกให้เกิดการอุดตันตามมาอีก และแน่นอนว่ายังคงเป็นเซรั่มที่ไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ หรือสารอันตรายใด ๆ ดังนั้น ไม่ว่าปัญหาสิวผด สิวผื่น สิวอุดตัน รับรองว่าซองนี้เอาอยู่เรื่องกู้หน้าโทรมให้กลับมาเป็นหน้าสวย ส่วนเรื่องราคาและปริมาณจะเท่ากับสูตรแรกเลย

ข้อแนะนำในการใช้

1. ให้นำไปแช่เย็นก่อนนำมาใช้เป็นการกักเก็บประสทธิภาพของสารสกัดต่าง ๆ ให้คงอยู่ได้นานขึ้น และช่วยกระตุ้นให้ผิวของเราตื่นตัว สดชื่น ฉ่ำน้ำ
2. หลังจากอาบน้ำเสร็จให้เช็ดหน้าเล็กน้อยจากนั้นก็บีบเนื้อเซรั่มตัวนี้นวดไปทั่วใบหน้า และลำคอ เนื้อสครับจะค่อย ๆ ซึมลงสู่ผิว ให้ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที เพื่อให้สารสกัดต่าง ๆ ซึมลงสู่ผิวได้อย่างเต็มที่ จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด
3. ไม่ควรใช้บ่อยเพราะมีเนื้อที่เป็นสครับซึ่งปกติเราจะไม่สครับผิวทุกวัน ควรใช้เป็นประจำสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้งก็พอ ผิวของเราจะกลับมาเนียนใส สุขภาพดี

รีวิวจากผู้ใช้จริง

       ตัวนี้เป็นสลิปปิ้งมาส์คในสูตรเซรั่มค่ะ เนื้อสัมผัสนุ่มนิ่ม บางเบา ผสมคุณค่าของมะเขือเทศ ว่านหางจระเข้เข้มข้น เมือกหอยทาก และที่สำคัญสุดๆ ขาดไม่ได้เลย ที ทรี ออยล์ ที่ช่วยลดการอักเสบของสิว ใช้ไปเรื่อยๆ สิวจะน้อยลงอย่างชัดเจน  มาส์คไว้ข้ามคืน ตื่นมาจะรู้สึกพอใจกับผลลัพท์แน่นอนค่ะ  สิวเก่าก็หาย สิวใหม่ก็ไม่ขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวนุ่ม รูขุมขนแลดูกระชับ ผิวไม่มัน ที่สำคัญตัวนี้ปราศจากแอลกอฮอล์ และน้ำหอม คนเป็นสิว ผิวบอบบางแพ้ง่าย ใช้ได้สบายหายห่วง เหมือนเดิมค่ะ ใครที่ไม่มั่นใจว่าจะแพ้ไหม ลองเทสที่ข้อพับหรือหลังมือก่อนได้ สำหรับน้องบิวตี้ผิวค่อนข้างแพ้ง่ายเช่นกัน แต่ตัวนี้บอกเลย ใช้ได้ ผ่านนนนนน

รีวิวจาก pantip: พีอาร์อมยิ้ม อ่านรีวิวทั้งหมดคลิก

10/10 เพราะเล็กพริกขี้หนู 1 ซองมีส่วนผสมมากมายราคาน่ารัก แพ็คเกจน่าใช้ จัดว่าเด็ดบอกได้เลยว่าคุ้มเพราะส่วนผสมมากมายที่มาช่วยกู้ผิวหน้าของเราให้กลับมาขาว ใส เนียน นุ่ม เหมาะจริงค่ะสำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย บอบบาง เป็นสิว ลองไปซื้อมาทดลองใช้กันได้เลยนะคะ

รีวิวจาก Trueid: เจ้ามาแชร์ อ่านรีวิวทั้งหมดคลิก

สรุปส่งท้ายเซรั่มว่านหางจระเข้สูตรไหนดี สูตรไหนปัง

         ก็ถือได้ว่าเป็นเซรั่มว่านหางจระเข้ที่กำลังมาแรงมาก ๆ ทั้งสองสูตรเลย และจริง ๆ แต่ละสูตรก็ได้บอกถึงคุณสมบัติสำคัญในการดูแลผิวของเราไว้แล้วว่าสูตรไหนเน้นการฟื้นฟูผิวให้ยืดหยุ่น อิ่มน้ำ เติมความชุ่มชื้น สูตรไหนเน้นลดรอยดำรอยแดงจากสิว ซึ่งการที่เราจะใช้ให้เห็นผลชัดเจนก็ต้องดูจากสารสกัดของสูตรนั้นที่จะตอบโจทย์ต่อสภาพผิวของเรา แต่ถ้าเอาให้เป็น กลางก็คือสูตรแรกเพราะไม่ว่าผิวเราจะแย่มาจากไหนก็สามารถปลอบประโลมได้อย่างดี หาซื้อได้ตาม 7 – 11 ง่าย ๆ ราคาแค่หลักสิบ หรือจะเข้าไปซื้อในเว็บไซต์ชอปปิ้งออนไลน์ก็ได้ รับรองว่าโดนใจสายอะโลเวร่าแน่นอน