ท้อง 7 เดือนท้องแข็งบ่อย เป็นสัญญาณเตือน!! คลอดก่อนกำหนดหรือไม่??

สวัสดีค่ะคุณแม่ทุกคน

ในช่วงอายุครรภ์ 7 เดือน หรือช่วงไตรมาสสุดท้าย นั้นถือเป็นช่วงเฝ้าระวังเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นช่วงที่ใกล้คลอดแล้ว ดังนั้นคุณแม่จะมีอาการที่เหมือนท้องเกร็งแข็งๆ นั้นเอง แต่ว่าอาการท้องแข็งเหมือนจะคลอดในอายุครรภ์ 7 เดือน เป็นสัญญาณบอกอันตรายหรือเปล่า

เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดหรือไม่?? วันนี้เรามาช่วยไขข้อสงสัยจากอาการท้องแข็งบ่อยๆ ในอายุครรภ์ 7 เดือน กันเถอะค่ะ ไปเลย!!

แต่ก่อนอื่นเลย เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการของคนท้อง 7 กันก่อนดีกว่า

อาการของคนท้อง 7 เดือนเป็นอย่างไร?

วันนี้เรามาดูอาการของคุณแม่ท้อง 7 เดือน กันค่ะ จะมีอะไรบ้างไปดูเลย!!

1. คุณแม่จะมีอาการปัสสาวะบ่อยขึ้น

อาการนี้เกิดจากมดลูกที่โตขึ้น และทารกนั้นตัวโตขึ้นจึงมีแรงกดตัวต่อกระเพาะปัสสาวะของคุณแม่ ดังนั้นคุณแม่จึงมีอาการปัสสาวะบ่อยๆ นั่นเอง

ซึ่งอาการปัสสาวะที่บ่อยขึ้นนั้นสามารถพบได้ตั้งแต่อายุครรภ์ในช่วงไตรมาสแรกแล้วแต่ในช่วง 7 เดือน ของการตั้งครรภ์นั้น จะมีอากรปัสสาวะบ่อยขึ้นมากกว่าอายุครรภ์ช่วงไตรมาสแรก (คุณแม่ควรเตรียมพร้อมรับมือเอาไว้เลย)

2. เริ่มมีน้ำนมไหลออกมา

แน่นอนว่าในช่วงอายุของคนท้อง 7 เดือน นั้นถือว่าเป็นช่วงที่ใกล้คลอดจึงทำให้มีน้ำนมหรือน้ำสีขุ่นๆ ไหลออกมาจากเต้านมนั้นเอง

คุณแม่อาจจะหาที่ซับหรือใส่เสื้อซับในแบบเบาสบายใส่ได้ เพื่อช่วยในการซับเอาน้ำนมที่ไหลออกมาไม่ให้เลอะนั้นเอง

3. มีอาการปวดหลังและนอนไม่หลับ

แน่นอนว่าอายุครรภ์ 7 เดือน ท้องของคุณแม่จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น และ ส่งผลต่อการใช้ชีวิต และทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะลุกนั่ง หรือ นอน เพราะน้ำหนักท้องที่ใหญ่ขึ้นส่งผลทำให้มีอาการปวดหลังเกิดขึ้นได้ และเมื่อต้องนอนอาจจะทำให้นอนไม่ค่อยรับเพราะน้ำหนักท้องที่กดทับลงมาทำให้รู้สึกแน่นและไม่สบายตัว

วิธีที่จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบายตัว และหลับได้ง่ายขึ้นควรใช้วิธีหลับแอบงีบหลับในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน หรือหาตัวช่วยประคองท้องรับน้ำหนักสามารถให้คุณแม่ทำกิจกรรมต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้นนั้นเอง

4.รู้สึกเหนื่อยและเพลียง่าย

ในช่วงอายุครรภ์ 7 เดือน ท้องของคุณแม่จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น และแน่นอนว่าเมื่อท้องที่ใหญ่ขึ้น จะทำให้น้ำหนักตัวของคุณแม่เพิ่มขึ้นไปด้วย ไม่ว่าจะเดิน  หรือ นั่ง ก็ทำให้รู้สึกเหนื่อยและเพลียมาก ในบางครั้งก็จะรู้สึกง่วงง่าย หรือง่วงนอนตลอดเวลา ดังนั้นคุณแม่ควรพักผ่อนให้มากๆ

และไม่ต้องทำกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกเหนื่อยเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรอคลอดนั่นเอง (ดูแลสุขภาพให้มากๆ อย่าออกแรงเยอะ)

ต่อไปเราไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการท้องแข็งกันว่าคืออะไรท้องแข็งเป็นแบบไหนไปดูไปเลย

ท้องแข็งคืออะไรกันแน่!!

อาการท้องแข็ง สำหรับคนที่ตั้งท้องคือสัญญาณของคนใกล้คลอดลูกแล้ว โดยอาการท้องแข็งตามปกติทั่วไป จะมีอาการปวดท้องคล้ายๆ เหมือนมีประจำเดือน หรือเรียกว่าปวดท้องน้อย ซึ่งอาการปวดนั้นจะปวดแบบหน่วงๆ ไปจนถึงรุนแรงและจะหายไปในเวลา ในบางคนมีอาการเหมือนกับว่ากำลังปวดอุจจาระ

ซึ่งสำหรับคนที่มีอายุครรภ์ใกล้คลอดแล้วจึงจะมีอาการท้องแข็ง และอาการท้องแข็งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 อาการดังนี้

1. ท้องแข็งจริง

อาการท้องแข็งจริง เป็นสัญญาณที่บอกว่าคุณแม่ใกล้คลอดแล้วโดยส่วนมากจะเกิดขึ้นกับคนท้องอายุครรภ์ ใกล้คอลดแล้วมักจะมีอาการนี้ตั้งแต่ 37 สัปาดห์ของการตั้งครรภ์ไปจนถึง 40 สัปดาห์

โดยอาการท้องแข็งเกิดจากร่างกายนั้นจะผลิตฮอร์โมนที่เรียกว่า Oxytocin ฮอร์โมนตัวนี้จะทำให้มดลูกของคุณแม่เกิดการหดตัวและเกร็งตัวจึงทำให้มีอาการปวดท้องน้อยแบบหน่วงๆ นั้นเอง (คุณแม่สามารถสังเกตอาการท้องแข็งจริงได้ดังนี้)

อาการของคนท้องแข็งจริง

• หน้าท้องมีความแข็งเมื่อสัมผัสรู้สึกตึงๆ ที่ท้องเล็กน้อย
• มีอาการปวดท้องเหมือนมีประจำเดือนปวดหน่วง
• บางคนรู้สึกเหมือนปวดอุจจาระ
• มีอาการปวดเป็นจังหวะจังหวะมีอาการปวดถี่ขึ้นเรื่อยๆ และในบางครั้งความรุนแรงของอาการปวดท้องจะเพิ่มมากขึ้น และเมื่อเวลาผ่านไปอาการปวดก็จะลดลง
• มีเมือกใสๆ ออกมาและบางคนอาจมีเลือดปนออกมาด้วย

2. ท้องแข็งหลอก

อาการท้องหลอก ส่วนมากพบในคนที่อายุครรภ์ตั้งแต่ 28 สัปดาห์ถึง 40 สัปดาห์ ซึ่งในบางคนที่มีอาการท้องแข็งหลอก มักจะเข้าใจว่าตัวเองใกล้คลอดหรืออาจเกิดอาการของคลอดก่อนกำหนด ซึ่งในบางครั้งอาจเป็นความเข้าใจผิดของคุณแม่เอง

แต่จริงๆ แล้วอาการท้องหลอกนั้นส่วนมากมักจะเกิดขึ้นจากการรู้สึกเหนื่อยของคุณแม่ เช่น ต้องเดินเป็นเวลานานทำกิจกรรมต่างๆ จนรู้สึกเหนื่อย และในบางครั้งอาการท้องแข็งหลอกก็เกิดจากภาวะร่างกายขาดน้ำได้ (โดยคุณแม่สามารถสังเกตอาการท้องแข็งหลอกได้ดังนี้)

อาการท้องแข็งหลอก

• รู้สึกแน่นที่ท้องและไม่สบายท้องเป็นอย่างมากเหมือนกับอาการท้องแข็งจริง
• คนที่ท้องหลอกส่วนมากจะไม่มีอาการปวดท้อง หรือ ถ้าหากมีก็จะมีอาการปวดแต่จะปวดท้องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
• อาการปวดท้องหลอกนั้นสามารถหายได้เมื่อคุณแม่ทำการเปลี่ยนท่าทางการนอนการนั่ง หรือ การถ่ายปัสสาวะ

หลังจากที่คุณแม่ทุกคนทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการท้องแข็งว่าเป็นอย่างไรไปแล้ว ต่อไปเราดูบทสรุปกันว่าท้อง 7 เดือนท้องแข็งบ่อย อันตรายหรือไม่?? ไปดูเลย!!

บทสรุป!! ท้อง 7 เดือน ท้องแข็งบ่อยอันตรายไหม?

สำหรับอาการท้องแข็งบ่อยในคุณแม่ที่อายุครรภ์ 7 เดือนหรือ 28 สัปดาห์ซึ่งอยู่ในไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ และแน่นอนว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายนั้นมดลูกของคุณแม่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปกติและเมื่อจับที่หน้าท้องหรือสัมผัสท้องดูจะสามารถรู้สึกถึงการดิ้นของทารกอยู่

แน่นอนว่าในบางครั้งคุณแม่จะมีอาการรู้สึกว่าท้องนั้นตึงๆ หรือแข็งๆ เหมือนใกล้คลอดได้ ซึ่งอาการเกิดจากการหดตัวของมดลูกซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วของคนที่ท้อง 7 เดือน ที่จะพบอาการท้องแข็งอยู่บ่อยๆ

แต่ถ้าหากมีอาการท้องแข็งที่เป็นแบบต่อเนื่อง ตั้งแต่5 ครั้งเป็นต้นไปโดยในแต่ละครั้งมีระยะเวลาประมาณ 10-15 นาทีพร้อมกับมีเลือดออกจากช่องคลอดด้วยนั่นถือว่าเป็นความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับคันได้

คุณแม่ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาและโดยส่วนมากแล้วหลายคนต้องกังวลว่าท้อง 7 เดือนท้องแข็งบ่อยจะคลอดก่อนกำหนดหรือไม่ ในกรณีนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน

โดยส่วนมากคนที่จะคลอดก่อนกำหนด มักจะมีอาการท้องแข็งก่อนอายุครรภ์ 9 เดือน และนั้นเป็นสัญญาณที่จะบอกว่าคุณแม่กำลังว่าก่อนกำหนดได้นั้นเอง

และเพื่อความสบายใจของคุณแม่คุณแม่ควรพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาแต่ถ้าหากว่าอาการรุนแรงมากถึงขั้นมีถุงน้ำคร่ำแตกและพบของเหลวใสออกมาจากช่องคลอดแล้วคุณแม่ควรไปโรงพยาบาลโดยด่วน

ขอแนะนำว่าเมื่อเข้าถึงช่วงของการตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 3 คุณแม่ควรพบแพทย์เพื่อ Ultrasound และ เช็กสุขภาพครรภ์บ่อยๆ เพื่อติดตามผลการตั้งครรภ์ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เพื่อไม่ให้ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนก่อนวันคลอดนั้นเอง

การรับมือได้ทันจะช่วยทำให้ทุกปัญหาผ่านไปได้ดีนะคะ