สวัสดีค่ะคุณแม่ทุกคน
เชื่อว่าคนท้องทุกคนย่อมมีการวิตกกังวลบ้างกับสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายและวันนี้เราจะมาพูดถึงคุณแม่ท้อง 6 เดือนแล้วมีอาการเลือดออกจากช่องคลอดแน่นอนว่าทุกคนต้องกังวลและคิดว่านั่นคือสัญญาณอันตรายหรือเปล่าจะเสี่ยงแท้งลูก หรือไม่? วันนี้เรามาหาคำตอบกันค่ะ
แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนว่าคนท้อง 6 เดือนนั้นมีอาการอะไรบ้างและคุณแม่ก็ต้องรับมือกับอาการเหล่านี้อย่างไรไปดูกันเลย
อาการของคนท้อง 6 เดือน
คุณแม่ตั้งท้อง 6 เดือนหรืออยู่ในช่วงไตรมาสที่ 2จะมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและอารมณ์ต่างๆ เกิดขึ้นจะมีอะไรบ้างมาดูเลย
- คุณแม่จะมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นแน่นอนว่าน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นนะอาจจะเกิดจากการที่คุณแม่เจริญอาหารมากขึ้นหรือเกิดจากการที่ท้องขนาดครรภ์นั้นมีขนาดเพิ่มใหญ่ขึ้นตามอายุครรภ์จึงทำให้น้ำหนักของคุณแม่ได้เพิ่มขึ้นนั่นเอง
คำแนะนำ : ควรควบคุมอาหารและเพิ่มอาหารที่มีประโยชน์และอย่าตามใจปากให้มากนะคะ
- คุณแม่จะมีอริยะบทที่เปลี่ยนไปเพราะเนื่องจากอายุครรภ์เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้มดลูกเกิดการหดตัวและเกร็งได้อาจจะเป็นในบางครั้งและสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยส่งผลให้เกิดอาการเสียดท้องน้อยได้นั้นเอง
คำแนะนำ : คุณแม่ไม่ควรเครียดเพราะความเครียดจะทำให้กล้ามเนื้อเกร็งได้และควรพักผ่อนให้เพียงพอ
- เนื่องจากเมื่ออายุครรภ์ 6 เดือน ขนาดของท้องจะใหญ่ขึ้นและทารกนั้นสามารถดิ้นไปมาได้ แล้วอาจเกิดการกดทับบริเวณกระเพาะทำให้อาหารย่อยได้ยาก อาจจะเกิดอาการแสบร้อนบริเวณหน้าท้อง และคุณแม่จะมีอาการปวดที่ชายโครงจากครรภ์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นนั้นเอง
คำแนะนำ : ให้คุณแม่ระมัดระวังให้มากในการเลือกรับประทานอาหารและการใช้ชีวิตด้วยขนาดท้องที่ใหญ่ขึ้นนั้นส่งผลต่อการทำกิจกรรมต่างๆ ได้ยากขึ้น
- ระวังโรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงอายุครรภ์ 6 เดือน คุณแม่ต้องระวังเป็นพิเศษเช่นโรคที่เกิดจากข้ออักเสบเนื่องจากครรภ์โตขึ้นส่งผลให้น้ำหนักลงด้านล่าง ไขข้อต่างๆ อาจจะอักเสบได้หรือภาวะโรคเบาหวานและโรคแทรกซ้อนต่างๆ อาจส่งผลให้ครรภ์เป็นพิษได้นั้นเอง
คำแนะนำ : ให้คุณแม่นั้นบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ และระมัดระวังอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพของคนท้อง และหากพบภาวะแทรกซ้อนต่างๆ หรือเกิดอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์โดยด่วนเพื่อรับคำแนะนำจากแพทย์
หลังจากที่เราทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการของคนท้อง 6 เดือนแล้ว ต่อไปเรามาช่วยคุณแม่ท้อง 6 เดือนไขข้อสงสัยกันว่า ถ้ามีเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์ 6 เดือนอันตรายไหม??
อย่ารอช้าไปดูกันเลย!!
ไขข้อสงสัย!! ท้อง 6 เดือนมีเลือดออกอันตรายไหม??
เชื่อว่าถ้ามาหลายคนกำลังวิตกกังวลกับอาการที่เกิดขึ้น เมื่อตั้งครรภ์ 6 เดือนแล้วมีเลือดออก ตามวันนี้เราจะมาบอกให้คุณแม่ทุกคนได้ทราบว่าการเลือดออกจากการตั้งครรภ์นั้นมี 2 กรณีดังนี้
คนท้องมีเลือดออกกรณีที่ 1
ในอายุครรภ์ 6 เดือนส่วนมากมักมีสาเหตุที่ไม่รุนแรงมากนักที่ทำให้เลือดออกเช่นอาจเกิดการกระทบกระเทือนที่มดลูกจากการมีเพศสัมพันธ์หรืออุบัติเหตุต่างๆ เล็กๆ น้อยๆ ซึ่งทำให้มีเลือดออกกะปริบกะปรอยอาจเกิดขึ้นได้เป็นปกติของคนท้อง
ซึ่งผลกระทบที่เกิดจากการมีเลือดออกแบบกะปริบกะปรอย นั้นไม่ได้มีผลรุนแรงมาก และคุณแม่สามารถพักเพื่อให้ร่างกายนั้นไม่ฟื้นฟูตัวได้ แต่ถ้าหากว่าไม่ดีขึ้นให้คุณแม่รีบพบแพทย์โดยด่วนเพื่อรับคำปรึกษาจากแพทย์
คนท้องมีเลือดออกกรณีที่ 2
คุณแม่ท้อง 6 เดือนมีเลือดออกกะปริบกะปรอย ไปจนถึงมี “เลือดออกเป็นจำนวนมาก” หรือมีเลือดออกเป็น ” สีแดงสด” ในกรณีนี้ถือว่าเสี่ยงมาก!! การมีเลือดออกในลักษณะนี้อาจส่งผลให้คุณแม่เกิดการ “คลอดก่อนกำหนด” หรือ “แท้งลูกแบบคุกคาม” ได้ซึ่งอาการเหล่านี้คุณแม่ควรเฝ้าระวังเป็นอย่างมาก
เพราะการที่มีเลือดออกแบบนี้ อาจขึ้นอยู่กับสุขภาพของคุณแม่ ดังนั้นคุณแม่ควรเช็กสุขภาพเป็นประจำ หรือ ตรวจครรภ์ทุกเดือน เป็นการติดตามผลสุขภาพครรภ์ของคุณแม่ เพื่อที่จะได้ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับลูกน้อยได้
จากข้อมูลด้านบนคุณแม่พอจะทราบได้แล้วว่า การมีเลือดออกในระหว่างตั้งครรภ์นั้น เป็นสัญญาณที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อลูกน้อยได้
สุดท้าย!! ไปดูคำแนะนำกันดีกว่าว่าหากมีอาการเลือดออกระหว่างตั้งท้อง 6 เดือนเราจะทำอย่างไรดี?? ไปดูกันเลย!!
ส่งท้าย!! หากมีเลือดออกระหว่างตั้งท้อง 6 เดือนทำอย่างไรดี?
การมีเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์นั้นถือว่า ” ไม่ใช่สิ่งปกติ ” แต่ในบางคนก็มีอาการเลือดออกบ้างเล็กน้อยในระหว่างตั้งครรภ์ในช่วงอายุครรภ์ที่ยังน้อยนั้น ซึ่งอาจเกิดจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง ทำให้มดลูกมีการหดตัวหรือเกร็งตัวเกิดขึ้นได้บ้าง
และนั้นทำให้มีเลือดออกนั่นเอง ซึ่งการมีเลือดออกแบบเล็กน้อยนั้นอาจเป็นสัญญาณอันตราย หรือ เป็นสัญญาณปกติของคนตั้งครรภ์ก็ได้
เพื่อความสบายใจของคุณแม่หากมีเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์ 6 เดือน คุณแม่ควรพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาและวินิจฉัยอาการดังกล่าว ว่าเสี่ยงแท้งลูก หรือ เป็นสัญญาณบอกอันตรายที่ส่งผลต่อลูกน้อยหรือไม่
การทราบถึงสาเหตุได้ทันท่วงที จะทำให้คุณแม่สามารถวางแผนและรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยคุณแม่ควรระมัดระวัง
หากเกิดสิ่งผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นกับร่างกาย คุณแม่ควรรีบพบแพทย์โดยด่วนและรักษาสุขภาพให้มากๆ นะทุกคน
ขอให้คุณแม่ทุกคนผ่านพ้นอุปสรรคไปได้นะคะ สู้ๆ
