การเตรียมตัวสำหรับท้องที่โตมากขึ้นสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ 5 เดือน

เข้าสู่ช่วงเดือนที่ 2 ของไตรมาสที่ 2 ช่วงเวลาอันน่าตื่นเต้นและอาการเริ่มหน่วงท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์ 5 เดือน เพราะเดือนนี้เป็นเดือนที่คุณพ่อและคุณแม่จะได้รู้เพศของลูกน้อยแล้ว ! โมเมนต์ของความลุ้นและเตรียมตัวของคุณพ่อ คุณแม่ และญาติทั้งหลาย การรู้เพศเด็กไม่ใช่เรื่องแย่

และคนที่พร้อมจะลุ้นตอนคลอดก็ไม่ได้แปลกเลย ข้อดีของการรู้เพศก่อนคือคุณพ่อ คุณแม่จะได้ซื้อของถูก รวมถึงของฝากจากญาติและเพื่อน ๆ การรับขวัญตั้งแต่เนิ่น ๆ เป็นช่วงเวลาที่คุณพ่อและคุณแม่ต้องคิดต่อว่าจะต้องเตรียมตัวและของใช้อะไรดี โดยเฉพาะคุณแม่สายช้อป

แต่การท้อง 5 เดือนก็ทำให้คุณแม่มีความหนักใจอยู่พอตัว เพราะท้องเริ่มใหญ่ขึ้น อาการทางร่างกายก็มากขึ้น เช่นเส้นเลือดขอด และปวดหลัง

เคล็ดลับการรับมือกับท้องที่โตขึ้น

ความยากลำบากที่คุณแม่ต้องเจอก็จะมีไม่เยอะแต่ทำให้ใช้ชีวิตได้ลำบากมากขึ้น และ คนท้องมักจะพบปัญหาคล้าย ๆ กันคือ ท้องผูก ปวดหลัง ปวดขา และเส้นเลือดขอด! ใครที่ไม่มีอาการเหล่านี้คือฟ้าประทานพรมาให้

อาการท้องผูก –
อาการท้องผูก นั่งห้องน้ำนาน เบ่งท้อง ไม่เป็นอันตรายต่อลูกน้อยแต่อย่างใดแต่จะเป็นอันตรายต่อคุณแม่เอง เสี่ยงต่อการเป็นริดสีดวง ซึ่งปกติคนท้องจะเป็นได้ง่ายมากอยู่แล้ว แนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ 5 เดือนเลือกทานอาหารที่มีกากใยสูง ดื่มน้ำเยอะ ๆ

เคี้ยวอาหารให้ละเอียด และงดชา กาแฟ และน้ำอัดลม ที่จะเพิ่มอาการท้องผูกให้หนักขึ้น และไม่ควรหายามารับประทานเอง หากอาการหนักควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแล

อาการปวดหลัง ปวดขา –

เป็นเรื่องปกติที่คนท้องมักจะมีอาการปวดหลังและขา ยิ่งท้องโตมากยิ่งปวดมากเพราะร่างกายเสียสมดุล ท้องถ่วงน้ำหนักไปด้านหน้าทำให้ท่ายืนและท่านั่งของคุณแม่เปลี่ยนไป จึงทำให้เกิดอาการปวดหลัง แนะนำให้เปลี่ยนรองเท้า เพื่อการทรงตัวที่ดี ไม่ได้แปลว่าคุณแม่จะใส่ส้นสูงไม่ได้เลย

แต่การเปลี่ยนรองเท้าที่มีการซับพอตดี ๆ ช่วยได้เยอะมาก หมอน ที่ช่วยซับพอตท้องเวลานอนตะแคงทำให้คุณแม่นอนได้สบายขึ้น หรือจะเป็นหมอนธรรมดาวางไว้ที่ขาเวลานอนช่วยให้หลังราบมากขึ้นเวลานอนจะช่วยให้นอนสบายขึ้น

อาการเท้าบวม –

อีกหนึ่งเรื่องที่คุณแม่ตั้งครรภ์ 5 เดือนต้องเจอ แต่แก้ได้ด้วยการดื่มน้ำเยอะ ๆ และชันขาให้สูงขึ้น เพิ่มด้วยการยืดเส้นยืดสาย หรือออกกำลังกายด้วยโยคะ จะช่วยได้มากขึ้น แต่หากมีอาการบวมมากผิดปกติต้องรีบพบแพทย์ด่วน ๆ เพื่อเป็นอันตรายหรืออาการแทรกซ้อน

ข้อควรระวังหากเกิดต้องรีบพบแพทย์

1. ไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของลูกน้อยในครรภ์
2. รู้สึกเจ็บหน่วงช่วงอุ้งเชิงกรานและปวดบริเวณอุ้งเชิงกรานบ่อย ๆ
3. มีเลือดออกทางช่องคลอดหรือน้ำคร่ำแตก

การพัฒนาของลูกน้อยในครรภ์ 5 เดือน

ลูกน้อยในครรภ์ของคุณแม่ตั้งครรภ์ 5 เดือนจะมีน้ำหนักประมาณ 600 กรัม มีขนาดยาว 10 – 12 นิ้ว มีการพัฒนาเรื่องประสาทสัมผัสชัดเจน

โดยเฉพาะหู การรับรู้จากเสียงเป็นสิ่งที่เด่นชัดมากเพราะฉะนั้นช่วงนี้คุณแม่สามารถเปิดเพลงกล่อมน้องได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ มากไปกว่านั้นคือเริ่มฝึกดูดนิ้วตัวเอง มีพัฒนาการทางเพศสมบูรณ์แล้ว หลายท่านอาจจะดูเพศได้ตั้งแต่ 4 เดือน บางรายอาจจะต้องเป็น 5 เดือน

เพราะเห็นได้ชัดเจนบอกเพศได้แม่นยำมากกว่า และอีกหนึ่งการพัฒนาที่สำคัญมาก ๆ  คือปอดและการหายใจ ในช่วงอายุครรภ์ 5 เดือน ลูกน้อยของคุณแม่จะฝึกการหายใจ เพื่อพัฒนาปอด เป็นอีกกลไกเอาตัวรอดของธรรมชาติของลูกน้อยที่อายุครรภ์ 5 เดือน เพื่อการรอดชีวิตเมื่อคลอดก่อนกำหนด

บทสรุปของบทความ

คุณแม่ที่เริ่มท้องโตไม่ต้องกังวลไป เพราะวิธีเหล่านี้จะบรรเทาอาการที่เราไม่ชินให้ดีขึ้น และยังเป็นการเตรียมตัวที่ดีสำหรับเดือนต่อ ๆ ไป อาการบางท่านอาจจะหนักขึ้น หรือไม่เป็นเลยก็ได้เพราะฉะนั้นคุณแม่ไม่ต้องกังวลไปก่อน ความเครียดจะทำให้ฮอร์โมนสวิงไม่เป็นผลดีต่อเด็ก ตัวคุณแม่เองและคนรอบข้าง ถ้ามีอาการผิดปกติทุกอย่างต้องรีบเข้าพบแพทย์