ผิวหน้ากับสกินแคร์
เรื่องความหน้าใส ผิวเนียนน่าสัมผัส ย่อมเป็นเรื่องใหญ่สำหรับสาว ๆ อย่างเรา ๆ เสมอ นอกจากการบำรุงล้ำลึกแล้ว เราก็ต้องการหน้าใสแบบธรรมชาติ เนียนสวยทุกสีผิวของสาว ๆ แต่ละคนไม่ว่าจะผิวเข้มหรือจะขาว ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ใช้แล้วแต่งหน้าติดทนนาน และใช้แล้วไม่แพ้ต่อผิวหน้าอีกด้วย ในบทความนี้จะว่าด้วยเรื่องของเซรั่มหน้าใสที่ใคร ๆ กำลังเฟ้นหาเพื่อบำรุงผิว
ต้องบอกก่อนเลยว่ามันค่อนข้างท้าทายเพราะมีหลายแบรนด์ หลายยี่ห้อมาก มีหลายเจ้าทั้งในท้องตลาดและช่องทางออนไลน์ และมีหลายรีวิว เราจะต้องศึกษาข้อมูลของผลิตภัณฑ์อย่างรอบคอบก่อนจะแนะนำเซรั่มหน้าใสเพื่อสาว ๆ ที่แสวงหามาดูแลผิวของเราเองซึ่งจะนำเสนอ 5 เซรั่มหน้าใสที่ครึ่งปีหลัง 2563 ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
รีบไปตำด่วน! รวมพลเซรั่มหน้าใส 5 แบรนด์คุณภาพครึ่งปีหลัง 2563
- AEGIS bird’s nest collagen serum
AEGIS bird’s nest collagen serum
เป็นเซรั่มที่มีคอลลาเจนในเรื่องดูแลผิวอยู่แล้ว ตัวสกินแคร์ตัวนี้จะช่วยในเรื่องความกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอยสำหรับที่ใครมีริ้วรอยแห่งวัย เพื่อให้ผิวกลับมาชุ่มชื้น หน้าไม่หมองคล้ำ ลดอายุผิวลงให้กลับมาดูเด็กอีกครั้ง หากใครได้ลองใช้จริงเนื้อเซรั่มจะใส เกลี่ยง่าย มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ มีแคปซูลสีแดง ๆ อยู่ในเนื้อเซรั่มด้วย จะเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีผิวผสมช่วง T-Zone ผิวแพ้ง่าย และมีผิวแห้งเป็นขุยง่ายเนื่องจากผิวขาดน้ำ ซึ่งแบรนด์นี้ตอบโจทย์สาว ๆ กลุ่มผิวแบบนี้มากเลยทีเดียว
โดยรวมแล้วโอเคนะคะ ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้น่าพอใจ ได้ความกระจ่ายใส ผิวเนียนนุ่น่าสัมผัส ผิวตึงกระชับแต่เสียหน่อยนึงที่เหนอะหนะซึมซาบช้า ต้องใช้เวลาสักพักในการซึมซาบสู่ผิวมันจึงเหมาะกับคนผิวแห้ง รีวิวจาก sistacafe : คุณ Ammyverygood อ่านรีวิวเซรั่มหน้าใสฉบับเต็มคลิกที่นี่
ส่วนใครสนใจสั่งซื้อสามารถสั่งซื้อได้ที่ LAB Society ทุกสาขา ช่องทางออนไลน์ที่ Line : @aegiscosmetic และเฟซบุ๊คที่ https://www.facebook.com/aegiscosmetic
2. DN3 Bifida
DN3 perfect Advance bifida ampoule
เซรั่มหน้าใสสูตรดังจากเกาหลีเพื่อตอบโจทย์ผิวคนไทยที่อยากให้มีผิวฉ่ำวาวเหมือนสาวเกาหลี อยู่ภายใต้การควบคุมการผลิตของบริษัท LOTTE Insurance ตัวสกินแคร์หน้าใสตัวนี้จะเหมาะทุกสภาพผิวของสาวไทยเลยก็ว่าได้ เพราะเกลี่ยง่ายในปริมาณน้อย แต่เกลี่ยทั่วผิวหน้า ช่วยลดการอักเสบของผิว ฟื้นฟูผิวเสื่อมสภาพเนื่องจากมลภาวะ และแสงแดด ช่วยลดเลือนริ้วรอย ลดฝ้า ฟื้นฟูผิวสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการกู้ผิวอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะกลุ่มที่นอนน้อย ทำงานเลิกดึก ถ้าใช้เป็นประจำ จะแต่งหน้าติดทนนานขึ้น ไม่ตกร่องอีกด้วย
ปริมาณ |
20 ml |
ราคา |
590 THB |
หน้าใสขึ้นดูแววขึ้น รีวิวจาก Facebook :
3. Avas Jelly Rice Serum
เซรั่มสเต็มเซลล์ข้าวมันปูสูตรหน้าใสที่จัดอันดับ 1 ในเซรั่มหน้าใสที่ควรมีไว้ในครอบครอง แม้ว่าตัวเซรั่มจะเป็นเซรั่มน้องใหม่ แต่คุณภาพไม่ใช่น้อง ๆ เสียด้วย ด้วยเนื้อเซรั่มมีสารสกัดจากสเต็มเซลล์ข้าวมันปู และสารสกัดจากแมงกะพรุน ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพื่อให้ชั้นใต้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่น มีสาร Anti-Oxidant ช่วยลดเลือนริ้วรอย ลดการสร้างเมลานินในผิวอันเป็นเหตุที่ทำให้เกิดความหมองคล้ำของผิว ต้องบอกเลยว่าขวดเดียวเอาอยู่ทุกปัญหาจริง ๆ สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิวเพราะตัวเซรั่มเป็นแบบออร์แกนิก จึงมีความธรรมชาติ ไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองหรืออาการแพ้เลย และที่สำคัญหากใช้ต่อเนื่อง รูขุมขนเล็กลงอย่างเห็นได้ชัดด้วย เหมาะกับคนที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวบอบบางแพ้ง่าย
ปริมาณ |
15 ml |
ราคา |
390 THB |
ความรู้สึกหลังใช้ : ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเราไม่มีอาการแพ้ แสบหน้า หรือเกิดผดผื่นเลยนะ ปกติเราผิวบอบบาง แพ้ง่าย แต่ใช้เซรั่มตัวนี้ได้ผ่าน ฉะนั้นใครที่ผิวแพ้ง่ายแบบเรา ก็น่าจะใช้ได้เหมือนกันนะ ส่วนเรื่องของผิวนั้นมีความขาวกระจ่างใสขึ้นจริงๆ พวกรอยด่างดำ กระเล็กๆ ที่ใบหน้าดูจางลงมาก รวมไปถึงรูขุมขนก็กระชับขึ้น เวลาเอามือสัมผัสที่หน้ามีความนุ่มละมุน ไม่แห้งกร้านแล้วจ้า ปลื้มมากกกก รีวิวจาก Pantip : คุณBearandBear อ่านรีวิวเซรั่มหน้าใสฉบับเต็มคลิกที่นี่
เป็นเซรั่มที่เข้มข้น แต่เนื้อบาง เบา มาก ทาแล้วซึมเลย ไม่ระคายเคืองหน้า
- THER เซรั่มคุณหมอ
THER Facial Whitening Serum
เซรั่มหน้าใสแบรนด์นี้มีจุดเด่นตรงที่เป็นสมุนไพรทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นนางพญาหน้าขาว ชะเอมเทศ ว่านตาลเดี่ยว หม่อน บัวบก ต้นบีท ว่านหางจระเข้ ซึ่งการพัฒนาสูตรจากแพทย์ผิวหนังไทยโดยตรง ที่สั่งสมประสบการณ์มา 20 ปี เพื่อความปลอดภัยต่อผู้ใช้ และไม่ใช้สัตว์ทดลองในห้องปฏิบัติการเลย จึงเหมาะสมกับผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย ผิวทุกสภาพผิวที่ต้องการบำรุงผิว ลดอาการแสบร้อน ช่วยฟื้นฟูกระจ่างใส เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และลดริ้วรอยไม่ว่าจะก่อนวัยหรือริ้วรอยแห่งวัย
5. SK II Genoptics Aura Essence
SK II Genoptics Aura Essence
ตัวเซรั่มจะเป็นเนื้อครีม เหมือนครีมแบบน้ำนมที่บางเบา สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว ส่วนใครที่ผิวมันจะไม่ทิ้งคราบ เหนียวเหนอะหนะเลย แต่กลิ่นอ่อนกำลังดี ไม่ฟุ้งจนฉุน เพียงหยดเดียวก็เกลี่ยทั่วหน้าแล้ว ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสจากภายในสู่ภายนอก และลดเลือนจุดด่างดำได้ลึกมาก ลึกชนิดที่ว่าจุดด่างดำที่อยู่ลึกสุดภายในเซลล์ผิว ไม่กลับมาจ๊ะเอ๋ให้เห็นอีกเลย เผยผิวได้มั่นใจขึ้น
ปริมาณ |
30 ml |
ราคา |
5,300 THB |
Enter content.เนื้อ : เป็นเอสเซ็นเนื้อคล้ายๆ สีนมจืด
แต่มีความข้นกว่า ไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ
ซึมลงผิวง่าย ไม่เกิดคราบที่ผิว เบาบางมาก
กลิ่น : หอมอ่อนๆ ค่ะ ชอบมากกลิ่นนี้ คริๆ
การบำรุง : เห็นผลตั้งแต่วันแรกค่ะ
หน้าดูกระจ่างใสขึ้นแต่ใสนิดๆ ผิวดูชุ่มชื่นดีค่ะ
รอยดำจางลง หน้าที่หมองคล้ำดูกระจ่างใสขึ้นค่ะ
ทาตอนกลางคืนตื่นมาหน้าดี ใส นุ่มๆ ด้วยค่ะ
ชอบมากตัวนี้
ราคา : แพงมากค่ะ แต่ถ้าให้หน้าดีก็ซื้อ 555
รีวิวจาก Vanilla : คุณ Pinyapattig อ่านรีวิวเซรั่มหน้าใสฉบับเต็มคลิกที่นี่
เป็นสกินแคร์อีกตัวที่น่าสนใจของ SK-II แม้ราคาจะแรงไปหน่อย ขนาด 30ml ราคาเคาน์เตอร์ 5,300 บาท แต่เมื่อเทียบกับนวัตกรรมที่ใช้ ความน่าเชื่อถือของแบรนด์และงานวิจัยเรื่องผิวที่ทางแบรนด์ลงทุนลงแรงนานเป็น 10 ปี ก็บอกเลยว่าต้องยอมต้องให้ ซึ่งสำหรับสวีทค่อนข้างพึงพอใจ ด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เป็นมิตรกว่าน้ำตบ 555 เนื้อสัมผัสที่ดีซึมเข้าผิวง่าย ทาแล้วหน้าไม่เมือกไม่มันระหว่างวันเลยทำให้ใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น ส่วนผลการใช้งานนั้นก็ถือว่าเริ่ด อาจจะไม่ได้ขาวหวือหวา หรือขาวไรเบอร์นั้น แต่ที่ดีมากๆเลยคือสุขภาพโดยรวมของผิว และความออร่าที่ชนะเลิศทุกสถาบันจริงๆใครสนใจลองไปปรึกษาได้ที่เคาน์เตอร์ SK-II ทุกสาขา หรือใครยังเขินลองศึกษาข้อมูลที่ ลิงค์ ดูก่อนว่าเหมาะกับเราไหม ตรงกับปัญหาของเรารึเปล่า ไปดูกันได้เลยค่ะ รีวิวจาก Pantip : คุณsweetheart0022 อ่านกระทู้ฉบับเต็มคลิกที่นี่
ปิดท้ายที่เซรั่มหน้าใสอีกแบรนด์ที่เป็นแบรนด์ดังมาก (ดังขนาดที่ทำให้กระเป๋าเงินสั่นไปหลายริกเตอร์) แค่บรรจุภัณฑ์ก็ดูแพงแต่หรูหราแล้ว แต่ในส่วนของราคาบอกได้เลยว่า…กระเป๋าฉีกจ้า ส่วนถ้าใครสนใจสามารถสั่งได้ที่ช่องทาง Shopee Facialshop และช่องทาง
SK-II
สรุปเซรั่มหน้าใสทั้ง 5 แบรนด์
เป็นยังไงบ้างคะกับการแนะนำเซรั่มหน้าใสจาก 5 แบรนด์ที่สาว ๆ นิยมกัน นอกจากราคาและคุณภาพก็ยังเป็นที่ตอบโจทย์ของใครหลายคนเลยทีเดียว แล้วนี่เองก็เป็นการรวมพลเซรั่มหน้าใสในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 สำหรับใครที่ไม่มีงบแต่อยากได้ แนะนำว่าศึกษาสกินแคร์กลุ่มเซรั่มหน้าใสให้ดีก่อนว่าผิวเราเป็นแบบไหน และดูสกินแคร์ว่าสามารถบำรุงผิวให้กระจ่างใสได้หรือไม่ ผู้เขียนหวังว่าจะเป็นแนวทางในการเลือกซื้อเซรั่มหน้าใสของใคร ๆ หลายคน และเชื่อมั่นว่าเซรั่มหน้าใสที่ได้ยกตัวอย่างมานั้น จะยังเป็นที่ต้องการในยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลง ทั้งการใช้ชีวิตเร่งรีบ และชีวิตแบบ Slow Life ได้ดีค่ะ