ปัญหาสิว คือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของหลายคน เพราะการเป็นสิวลดความมั่นใจของเราลงไปเยอะมาก และสิวก็มีหลายประเภททั้งสิวอักเสบ สิวหนอง สิวผด ผื่น สิวอุดตัน และสิวซีสต์ ! สิวซีสต์คือสิวที่เราจะมาพูดถึงกันวันนี้ ว่ามันเกิดมาจากอะไร
ลักษณะของสิวซีสต์
สิวซีสต์จะมีอาการอักเสบ ปวดบวม คล้ายกับสิวอักเสบทั่วไป สังเกตุความแตกต่างได้จากการสัมผัสบนผิวหน้า เพราะสัมผัสของสิวซีสต์จะมีลักษณะเป็นถุงก้อนกลม ๆ ใต้ผิว เป็นตุ่มนูนไม่มีหัวสิว บวมแดง อาการปวดมากค่อนไปมากที่สุด เป็นลักษณะหลัก ๆ ของสิวซีสต์ บางรายอาจจะไม่มีอาการบวมแดง ไม่มีอาการปวดมาก แต่จะรู้สึกได้ถึงอาการเป็นสิวและสัมผัสโดนถุงก้อนของสิว
สาเหตุของการเกิดสิวซีสต์
สิวซีสต์เป็นปัญหาสิวที่ร้ายแรงที่สุดของใบหน้า เพราะสิวซีสต์จะไม่มีหัวสิว ไม่โผล่ให้เห็นว่าเป็นสิว มันคือการเป็นสิวใต้ผิวหนังของเรา ซึ่งเกิดได้จาก 4 สาเหตุหลัก
- การสะสมของเชื้อแบคทีเรีย
โดยปกติแล้วบนผิวหน้าของเราจะมีแบคทีเรียตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Propionibacterium acnes หรือ P.Acne อาศัยอยู่ตามรูขุมขน ซึ่งก็คือจุลินทรีย์แบบอิงอาศัย แต่จริง ๆ เจ้าแบคทีเรียตัวนี้ไม่ได้ทำอันตรายต่อผิวของเรามากนัก แต่ถ้าเรามีผิวหน้ามันหรือความมันมากกว่าปกตินี่แหละเริ่มจะอันตรายแล้ว เพราะความมันคืออาหารของเจ้าแบคทีเรียและถ้ายิ่งสะสมมากขึ้น จะก่อให้เกิดอาการอักเสบหรือเกิดอาการระคายเคืองกับผิวบริเวณนั้น ๆ และเมื่อรูขุมขนของเราอักเสบนั้นก็แปลว่า !! สิวบุกค่ะ !
ในกรณีที่รุนแรงมาก การอุดตันก็เกิดจาก กรดไขมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว บวกกับเจ้า P. Acne ก็จะก่อให้การอาการอักเสบมากยิ่งขึ้นและถ้าการอุดตันของทั้ง 3 อย่างนี้อยู่ในชั้นลึกสุดของผิวหนังกำพร้าก็จะเกิดเป็นสิวซีสต์ข้างในผิวหน้าของเรา ซึ่งจะมีลักษณะบวมเป่งแต่ไม่มีหัวสิวและจะมีอาการปวดใต้ผิวมาก ๆ ฮื้ออ
ซ้ำร้ายไปกว่านั้นอย่าบีบเชียวนะคะทุกคนเพราะถ้าบีบจะเป็นการกระจายแบคทีเรียและก่อให้เกิดสิวซีสต์ที่ใหม่บนผิวหน้าโดยที่เราไม่รู้ตัว ฉะนั้นถ้าไม่อยากสิวซีสต์บุก หยุดบีบ หยุดเค้นให้หัวสิวโผล่นะคะ เพราะหัวสิวมันจะไม่โผล่แน่นอน
- น้ำมันส่วนเกินบนผิวหน้า
ถ้าอยากรู้ว่าเราเป็นคนผิวมันหรือเปล่าให้ใช้ทิชชู่หรือกระดาษซับมัน ซับหน้าหลังตื่นนอน ซึ่งจะเป็นการบอกได้ว่าเรามีสภาพผิวเป็นยังไง แต่ก็จะมีบางคนที่ต้องซับหน้าระหว่างวันเพราะมันมาก แบบนี้อาจจะเกิดจากต่อมไขมัน หรือ Sebum ของเราผลิตน้ำมันออกมามากเกินไปก็จะทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขนและเกิดสิวได้ เป็นอาหารชั้นดีของแบคทีเรียด้วย
- เซลล์ผิวที่ตายแล้ว
โดยปกติ ผิวจะมีการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรือผิวหนังกำพร้า ออกอยู่เป็นประจำ ทุก ๆ 5 – 6 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวเราดูสดใส ดูเฟรช แต่เมื่ออายุมากขึ้นประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวโดยธรรมชาติจะลดลง และใช้เวลานานกว่าเดิม การผลัดผิวในแต่ละครั้งอาจจะผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไม่ได้สะอาดเท่าที่ควร เกิดการสะสมของเซลล์ผิวเก่าที่ผลัดออกไม่หมดและเกิดการหมักหมมสะสมรวมกับน้ำมันและแบคเรียก็จะทำให้เกิดสิวได้
- ฮอร์โมนเปลี่ยน
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจากวัยเด็กสู่วัยรุ่น ก็ทำให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงช่วงวัยนี้ ไม่แปลกเลยที่เห็นเด็กวัยรุ่นเป็นสิวค่อนข้างเยอะมากเลยทีเดียว รวมถึงสิวซีสต์ด้วยเพราะการสะสมของความมันใต้ผิวนั่นเอง
ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ หรือประจำเดือนมาไม่ปรกติก็สามารถมีสิวซีสต์ได้เช่นกันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างตั้งครรภ์หรือจากการที่ประจำเดือนมาไม่ปรกติ และอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงคือยาคุม
และทั้ง 4 สิ่งนี้รวมตัวกัน ไปอุดตันรูขุมขนในผิวหนังก็เกิดเป็นสิวซีสต์ และดูเหมือนว่าเจ้าสิวซีสต์มักจะเกิดขึ้นกับผิวมันซะส่วนใหญ่
โดยปกติแล้วเราจะรู้สึกได้ถึงการมีอยู่ของสิวซีสต์ เมื่อเวลาสัมผัสผิวหน้า ผิวบริเวณนั้นจะแข็งเป็นก้อน เหมือนมีถุงน้ำอยู่ใต้ผิว หรืออาการอักเสบ อาการปวด หรือบวมแดง หนังกำพร้าชั้นบนปริแตกและเหมือนว่าจะมีหัวสิวขึ้นมาในไม่ช้านั่นแหละ คือสิวซีสต์ สิวประเภทนี้จะไม่ขึ้นหัวอย่างที่ได้บอกไป เพราะมันเกิดการอักเสบจากใต้ผิวหนัง
บทสรุปของสิวซีสต์
สิวซีสต์สามารถขึ้นได้เกือบทุกที่บนร่างกายไม่ใช่แค่ผิวหน้า เช่นหน้าอก แขน คอ หลังและไหล่ เพราะต่อมไขมันเราผลิตน้ำมันทั่วร่างกายยกเว้น ฝ่ามือและฝ่าเท้า (สังเกตว่าจะไม่มีความมันลื่นอยู่ที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า) จึงทำให้สิวซีสต์เกิดบริเวณอื่นได้ อาการอักเสบและอาการปวด บวมแดงของสิวจะเกิดขึ้นระยะหนึ่งและหายไปเอง แต่เมื่อทิ้งไว้และเกิดการสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ อาการเหล่านั้นจะกลับมาอีก แนะนำให้เข้าพบแพทย์ผิวหนังนะคะ