คนทั่ว ๆ ไป มักจะพอรู้เกี่ยวกับเรื่องสิวบนใบหน้า ไม่ว่าจะสิวเสี้ยน สิวอักเสบ สิวหนอง หรือสิวผดต่าง ๆ แต่จะมีสักกี่คนล่ะที่จะรู้จักกับคำว่า “สิวยีสต์” สิวชื่อแปลกที่อาจจะนึกภาพไม่ออกว่ามันมีลักษณะเป็นแบบไหนและเกิดขึ้นได้อย่างไร วันนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับสิวยีสต์ ที่อาจจะเกิดขึ้นบนใบหน้าของบางคน โดยที่ยังไม่รู้ตัว !
สิวยีสต์คืออะไร
สิวยีสต์ หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า สิวเชื้อรา เกิดจากการติดเชื้อชนิดหนึ่งที่รูขุมขนบนผิวหนัง โดยแตกต่างกับการเกิดสิวที่เกิดจากแบคทีเรียอย่างสิวอักเสบหรือสิวเสี้ยน โดยทั่วไป สิวยีสต์มักปรากฏเป็นสิวเม็ดเล็ก ๆ ที่มีรูปร่างหรือขนาดไม่แตกต่างกันมากนักและมักจะมีอาการคันร่วมด้วย สิวจากเชื้อราอาจทำให้ระคายเคืองผิวหนัง และดูคล้ายกับสิวผด เพราะรูปร่างลักษณะจะคล้ายกับสิวหัวขาวหรือหัวดำ แต่สิวยีสต์และสิวผดมีความแตกต่างกันตรงที่ มีสาเหตุการเกิดสิวที่ต่างกัน และมีวิธีในการรักษาต่างกัน ดังนั้นหากคุณใช้ผลิตภัณฑ์บางอย่างสำหรับป้องกันการเกิดสิวแบคทีเรียของคุณอยู่ล่ะก็ คุณอาจทำให้สิวยีสต์แย่ลงก็ได้ ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงควรทำความเข้าใจว่า สิวยีสต์มีลักษณะเป็นอย่างไร และมีสาเหตุมาจากอะไร เรามาดูกันเถอะว่า อาการของสิวชนิดนี้ เป็นอย่างไร และมีวิธีการรักษาแบบใด
สาเหตุของการเกิดสิวยีสต์
สิวยีสต์ ไม่ได้เกิดจากการอุดตันของน้ำมันและแบคทีเรียในรูขุมขน แต่เกิดจากผิวหนังที่ระคายเคือง เนื่องจากการเติบโตของยีสต์ซึ่งเป็นเชื้อราชนิดหนึ่ง ที่บางครั้งเรียกเราว่าสิวจากเชื้อรา Pityrosporum folliculitis หรือ Malassezia folliculitis โดยปกติร่างกายของคนเราสามารถปรับสมดุลของยีสต์ เชื้อรา และแบคทีเรียเองได้ แต่ถ้าสิ่งเหล่านั้นเติบโตมากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อของรูขุมขนและมีสิวปรากฏขึ้นได้
สาเหตุหลัก ๆ ของการเกิดสิวยีสต์มีดังนี้
1.ความชื้น
การสวมชุดออกกำลังกายที่มีเหงื่อเป็นเวลานานเกินไป สามารถไปกระตุ้นให้ยีสต์เจริญเติบโตได้ หรือแม้แต่การซื้อเสื้อผ้าออกกำลังกายใหม่และนำมาสวมใส่โดยไม่ซักก่อน อาจทำให้ผิวหนังของคุณได้รับเชื้อราที่เติบโตในร่มผ้า นำมาสู่การเกิดสิวยีสต์หรือสิวเชื้อราบนร่างกายของคุณ
2.ยาบางชนิด
หากคุณใช้ยาปฏิชีวนะ แบคทีเรียบนผิวหนังของคุณจะลดลง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อรามากขึ้น เพราะไม่มีตัวแบคทีเรียคอยยับยั้งการเกิดเชื้อรา สิวยีสต์จึงเกิดขึ้นได้ง่ายหากคุณใช้ยาประเภทนี้
3.ภูมิคุ้มกันที่ลดลง
ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันลดลง ก็อาจมีแนวโน้มที่จะเกิดสิวจากเชื้อรา อันเนื่องมาจากภูมิคุ้มกันบางอย่างต่ำลงหรือร่างกายไม่แข็งแรง
4.การเปลี่ยนแปลงอาหาร
เชื้อราและยีสต์ชอบอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเป็นอย่างมาก ดังนั้นการทานของหวานและอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตอย่างสมดุลอาจช่วยชะลอการเติบโตของเชื้อราได้
5.การสวมเสื้อผ้าที่รัดรูป
การสวมเสื้อผ้าที่ไม่ระบายอากาศเป็นประจำ ทำให้เกิดเหงื่อและความอับชื้นมากขึ้น สิ่งเหล่านี้จึงทำให้ผิวหนังของคุณเหมาะแก่การการเจริญเติบโตของยีสต์มากเลยทีเดียว
6.สภาพแวดล้อม
ผู้ที่อาศัยอยู่ในสภาพอากาศร้อน มีแนวโน้มที่จะมีเหงื่อออกมากกว่าผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่พอดี เพราะเมื่ออากาศร้อน ย่อมมีเหงื่อมากเป็นธรรมดา จึงอาจจะพบสิวจากเชื้อราบ่อยขึ้นกว่าคนในสภาพอากาศแวดล้อมที่หนาวเย็นกว่า
สิวยีสต์มีลักษณะอย่างไร
สิวยีสต์มีลักษณะคล้ายกับสิวผดหรือสิวจากแบคทีเรีย แต่ทั้งนี้ ลักษณะของสิวยีสต์ก็มีความแตกต่างกับสิวแบคทีเรียทั่วไป ดังนี้
1. ขนาดของสิวยีสต์
ตุ่มหนองที่เกิดจากสิวยีสต์มักจะมีขนาดเกือบเท่ากันทั้งหมด สิวจากแบคทีเรียอาจทำให้เกิดสิวหัวดำและสิวหัวขาวและที่มีขนาดแตกต่างกัน
2.สถานที่เกิดสิวยีสต์
สิวยีสต์มักปรากฏขึ้นที่ แขน หน้าอกและหลัง นอกจากนี้ยังสามารถขึ้นบนใบหน้าได้ด้วย แต่สิวแบคทีเรียส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นบนใบหน้าเท่านั้น
3.อาการคัน
สิวหัวดำมักทำให้เกิดอาการคัน ส่วนสิวจากแบคทีเรียจะไม่ค่อยคันแต่เจ็บมากกว่า
4.กระจุกสิว
สิวยีสต์มักปรากฏเป็นกลุ่มสิวหัวขาวขนาดเล็ก แต่สิวจากแบคทีเรียจะไม่เป็นกลุ่ม
การวินัจฉัยสิวยีสต์โดยแพทย์ผิวหนัง
หากคุณเชื่อว่าคุณมีอาการของสิวยีสต์ คุณอาจต้องไปพบแพทย์ผิวหนัง ที่เชี่ยวชาญในการวินิจฉัยและรักษาสิวยีสต์เพื่อตรวจสอบว่า สิวของคุณเป็นผลมาจากการเจริญเติบโตของยีสต์หรือไม่ โดยพวกเขาอาจทำการขูดผิวหนังในบริเวณที่เป็นสิวยีสต์สักเล็กน้อย แต่รับรองได้ว่าไม่เจ็บ เพื่อนำไปตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ และมองหายีสต์บนผิวหนังของคุณอันเกิดจากเชื้อรา รวมทั้งอาจเก็บตัวอย่างผิวหนัง ส่งไปยังห้องปฏิบัติการซึ่งสามารถทดสอบเพื่อยืนยันการเกิดสิวยีสต์ของคุณ
การรักษาสิวยีสต์
1.รักษาสิวยีสต์ด้วยการอาบน้ำให้สม่ำเสมอมากขึ้น
หากคุณออกกำลังกายเป็นประจำหรือทำงานที่ทำให้คุณเหงื่อออกมาก ให้ลองอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีหลังจากออกกำลังกายหรือทำงาน จะสามารถช่วยชะล้างยีสต์ส่วนเกินที่เติบโตได้ในเสื้อผ้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อของคุณ
2.รักษาสิวยีสต์ด้วยการสวมเสื้อผ้าหลวม ๆ
หากคุณสวมเสื้อผ้ารัดรูปบ่อย ๆ การเสียดสีของเสื้อผ้าและการไหลเวียนของอากาศที่น้อย อาจกระตุ้นให้ยีสต์เกิดการเติบโตบนผิวหนังได้ ดังนั้น จึงควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่หลวมและสามารถระบายอากาศได้ดี เพื่อช่วยให้ผิวหนังของคุณมีการไหลเวียนที่ดีและลดการกระตุ้นการเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา
3.รักษาสิวยีสต์ด้วยการอาบน้ำด้วยแชมพูขจัดรังแค
แชมพูขจัดรังแคที่ทำด้วยสังกะสีไพริไทโอนหรือซีลีเนียมซัลไฟด์ สามารถใช้อาบน้ำได้ คุณสามารถใช้แชมพูขจัดรังแค ฟอกผิวของคุณสัปดาห์ละสองสามครั้ง เพื่อลดสิวยีสต์ที่เกิดบนร่างกายของคุณ หรืออาจลองใช้เป็นประจำสัปดาห์ละครั้งเพื่อช่วยรักษาสมดุลของยีสต์และแบคทีเรียบนผิวหนัง เคล็ดลับคือฟอกแชมพูทิ้งไว้บนผิวสักสองสามนาทีก่อนล้างออกเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
4.รักษาสิวยีสต์โดยการรักษาเชื้อราที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์
ยาสำหรับการรักษาสิวยีสต์ มักจะอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่มีคีโตโคนาโซลบิวทีนาฟีน หรืออาจะลองใช้ยาต้านเชื้อราในช่องปาก เพื่อช่วยขจัดสิวยีสต์ของคุณ
กระทู้สิวยีสต์จากทางบ้าน
หมอบอกเป็นสิวยีสต์ มักขึ้นตามหลัง อก ลำตัว แขน พบน้อยที่ใบหน้า มักเกิดกับคนเหงื่อออกง่าย คนที่เล่นกีฬา รักษายากมาก อาจเป็นเรื้อรัง เราได้ยินก็เศร้า เพราะแต่ก่อนเป็นคนผิวขาวเนียนมาก อยู่ ๆ ก็มีตุ่มอะไรไม่รู้ขึ้นเต็มไปหมด พอหายก็ทิ้งรอยดำไว้เต็มตัวเลย อยากหายมาก ใครเคยเป็นแล้วหายบ้างบอกวิธีหน่อย ทุกปัญหามีทางออกเสมอ เป็นได้ก็ต้องหายได้ ให้กำลังใจตัวเอง ใครมีวิธีดีๆบอกกันมั้งนะ จากเป็นคนอารมณ์ดี ช่วงนี้เครียดมากเลย
สรุป สิวยีสต์
สิวยีสต์โดยส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากการอับชื้นและเหงื่อบนร่างกายของเราที่หมักหมมเป็นเวลานาน ซึ่งเกิดสิวยีสต์แต่ละทีก็รักษาได้ยากและยังมีอาการคันจนน่ารำคาญใจอีกด้วย ดังนั้นจะดีกว่าไหม หากรู้จักป้องกันและหลีกเลี่ยงการเกิดสิวยีสต์ไม่ให้คอยมารบกวนใจของคุณ การดูแลรักษาร่างกายให้สะอาดอยู่เสมอก็เป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการเกิดสิวยีสต์ แต่ถ้าหากสิวยีสต์เหล่านั้นขยายวงกว้างจนควบคุมไม่อยู่แล้วล่ะก็ ควรไปพบแพทย์ผิวหนังทันทีล่ะ